รถหาย ถือเป็นฝันร้ายของเจ้าของรถที่ไม่อยากให้เกิด แต่หากรถที่เรากำลังผ่อนส่งกับไฟแนนซ์อยู่เกิดถูกขโมยไปจริงๆ หลายคนคงสงสัยว่าเจ้าของรถยังคงต้องรับผิดชอบผ่อนต่อหรือไม่?
ผู้ใช้เฟซบุ๊คท่านหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า ทนายพรชัย รังสรรค์ ได้แนะนำข้อควรปฏิบัติเมื่อรถหาย ไว้ดังนี้ รีบแจ้งความเพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานให้เร็วที่สุด จากนั้นจึงนำใบแจ้งความที่ได้ไปยื่นให้กับบริษัท
ประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ รวมถึงบริษัทไฟแนนซ์ด้วย
คำถามต่อมาคือ ค่างวดที่กำลังจะถูกเรียกเก็บต่อไปนั้น เราจำเป็นต้องจ่ายต่อไปหรือไม่? คำตอบจาก ทนายพรชัย คือ ไม่ต้องผ่อนต่อ เนื่องจากสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทไฟแนนซ์นั้น เป็นสัญญาเช่าซื้อ นั่นหมายถึง ทรัพย์สินให้เช่าแลำคำมั่นว่าจะขาย (เมื่อชำระครบตามสัญญา)
ดังนั้น เมื่อทรัพย์สินที่เช่าซื้อเกิดสูญหายขึ้นมา สัญญาย่อมระงับ ทำให้ผู้เช่าซื้อไม่ต้องผ่อนส่งอีกต่อไป ซึ่งตรงนี้ ทนายพรชัย กล่าวเสริมว่า หลายคนถูกบริษัทไฟแนนซ์หลอกให้ส่งค่างวดต่อ ทั้งที่สัญญาถูกระงับแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทไฟแนนซ์จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท
ประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้อยู่แล้ว ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆอีก ซึ่งจุดนี้ ทนายพรชัย ระบุไว้ว่า
"ถ้ารถที่เช่าซื้อสูญหาย ก็ต้องมาคำนวณว่า รถราคาเท่าใด ผู้เช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดมาแล้ว เป็นเงินเท่าใด บริษัทประกันภัยรถยนต์ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัทลิสซิ่งเนื่องจากรถหาย เป็นเงินเท่าใด ถ้า 2 จำนวนนี้รวมกันแล้วเกินกว่าราคารถที่บริษัทลิสซิ่ง ซื้อมาอย่างนี้ผู้เช่าซื้อ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น