หลังจากประสบความสำเร็จกับการจับมือ “เมืองไทยประกันชีวิต” จนกลายเป็นแชมป์แบงก์แอสชัวรันส์ขายสินค้าประกันชีวิตไปแล้ว ล่าสุด “ธนาคารกสิกรไทย” จับมือ “เมืองไทยประกันภัย” ขายประกันวินาศภัยผ่านแบงก์ โดยมีเป้าหมายนั่งแชมป์ภายใน 3 ปี
+ “กสิกร” เป้า 3 ปีปั้นเบี้ย 5,000 ล้าน
+ ขึ้นแชมป์แบงก์แอสชัวรันส์วินาศภัย
“ปกรณ์ พรรธนะแพทย์” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารเป็นอันดับหนึ่งในการขายประกันชีวิต ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมไว้ที่ 50,000 ล้านบาท เติบโต 28% โดยช่วง 8 เดือนแรกของปี (มกราคม-สิงหาคม 2557) สามารถทำเบี้ยได้แล้ว 35,000 ล้านบาท เติบโต 28% เป็นเบี้ยใหม่ (New Business Premium) 17,500 ล้านบาท ถึงสิ้นปีก็น่าจะเข้าเป้า
ขณะที่ประกันวินาศภัยมองเห็นโอกาสขยายตลาด และต้องการเป็นอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน โดยต้องการเสนอแบบประกันที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบวงจร ซึ่งพันธมิตร คือ บมจ.เมืองไทยประกันภัย ก็มีแบบประกันที่หลากหลายไม่ได้เน้นรับประกันประเภทใดประเภทหนึ่ง จึงร่วมกันออกแพ็กเกจประกัน 11 แพ็กเกจมาขายผ่านธนาคาร
“ธุรกิจประกันวินาศภัยเติบโต 2 หลักมาตลอด และเติบโตเป็น 2 เท่าของจีดีพี ซึ่งปีนี้ประเมินว่าจีดีพีจะโต 1.5-2% โดยครึ่งปีแรกปีนี้เติบโต 1% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโต 3-5.9% เราตั้งเป้าแบงก์แอสชัวรันส์ประกันวินาศภัยไว้ 2,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และภายใน 3 ปีเบี้ยเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งขายประกันวินาศภัย”
สำหรับ 11 แพ็กเกจ แบ่งเป็นประกันภัยอุบัติเหตุ (พีเอ) 5 แพ็กเกจ ประกันสุขภาพ 2 แพ็กเกจ และ
ประกันภัยรถยนต์ 4 แพ็กเกจ ในคอนเซปต์ ซื้อง่าย เข้าใจง่าย (Easy and Simple) เบี้ยประกันไม่แพง (Affordable) และความคุ้มครองเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า (Matching with all Customer Segment Needs) โดยเริ่มออกขายตั้งแต่ต้นปี ปรากฏว่า 8 เดือนขายได้ 1,000 ล้านบาทแล้ว โดย 80% เป็นประกันพีเอ เพราะเข้าใจง่าย ประกันภัยรถยนต์แค่ 20% จึงต้องการเน้นยอดขายเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนผู้ใช้รถมากถึง 12.9 ล้านคันในตลาด
“8 เดือนแรกที่ขายประกันวินาศภัย เรายังไม่มีการออกโฆษณาใดๆ แต่ตอนนี้เรามีโฆษณาผ่านโทรทัศน์ออกมาช่วยประชาสัมพันธ์รายละเอียดของสินค้า และทำให้ลูกค้าได้รู้ว่าสาขาของเรากว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศสามารถเดินเข้ามาซื้อประกันได้ ก็เชื่อว่า 4 เดือนที่เหลือนี้จะทำเบี้ยได้ตามเป้า”
สำหรับแผน
ประกันภัยรถยนต์ตัวเด่น คือ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 (Car Protect1) ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนรับประกัน และนับเป็นเจ้าแรกในตลาดที่มอบเงินชดเชยให้ระหว่างนำรถเข้าซ่อม 5,000 บาทต่อครั้ง สูงสุด 3 ครั้งต่อปี พร้อมบริการช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้โครงการเมืองไทยยิ้มได้...เมื่อรถเสีย เบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 13,400 บาท ส่วนแบบอื่นๆ มีทั้ง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 (Car Protect 3) ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ (Car Protect 3+) และ
ประกันพ.ร.บ.ให้เลือก
+ “เมืองไทย” เป้าผ่านแบงก์ 2 พันล้าน
+ ชู
ประกันชั้น 1 เบี้ยถูกหัวหอก
“นวลพรรณ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันภัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัทร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยพัฒนาสินค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ร่วมกันออกโฆษณาสินค้าทางโทรทัศน์ ซึ่งตลาดประกันวินาศภัยไทยยังมีช่องว่างเติบโตได้อีกมาก จึงได้ร่วมกันออก แบบ
ประกันรถยนต์ใหม่มุ่งเน้นให้มีเงื่อนไขเข้าใจง่าย และราคาเบี้ยประกันไม่แพงเพื่อให้ง่ายต่อผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเชื่อว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ตัวใหม่จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าธนาคาร เพราะเบี้ยประกันไม่แพงมากเทียบกับความคุ้มครองและบริการเสริมต่างๆ ที่ให้ ทั้งบริการ ”เมืองไทยยิ้มได้..เมื่อรถเสีย” และ “เมืองไทย I Lert U” การแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน
“เราพยายามดีไซน์สินค้าที่ง่ายๆ เงื่อนไขไม่ซับซ้อน เช่น ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนรับประกันภัย ไม่ต้องให้ลูกค้ารับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) น่าจะกระตุ้นยอดขายได้ ราคาเบี้ยประกันไม่ต่างจากชั้น 1 ที่ขายผ่านช่องทางอื่นเพราะไม่อยากให้แย่งลูกค้ากัน เชื่อว่าอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์น่าจะดีเพราะความเสี่ยงกระจาย สินไหมตอนนี้ไม่เกิน 60% คงจะรอดูสินไหมซักระยะค่อยว่าอีกทีจะปรับอะไรหรือไม่”
อย่างไรก็ดี ไม่ได้ตั้งเป้าหมาย
ประกันชั้น 1 ตัวใหม่นี้ โดยรวมอยู่ในเป้าหมายเบี้ยรวม 2,000 ล้านบาท ผ่านกสิกรไทยในปีนี้ คาดว่าจำนวนลูกค้าธนาคารที่จะซื้อประกันชั้น 1 นี้น่าจะเป็นหลักหมื่นกรมธรรม์ ซึ่งกลยุทธ์ของบริษัทไม่แข่งขันด้าน
เบี้ยประกันเน้นบริการมากกว่า และอยากเห็นบริษัทประกันทุกแห่งออกแบบประกันที่มีราคาเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อให้บริษัทอยู่ได้ แทนที่จะฟาดฟันแข่งขันกันขายราคาเบี้ยประกันต่ำ เมื่อสินไหมสูง อัตรารวม (คอมไบน์เรโช) เกิน 100% อยู่ไม่ได้
“ปีนี้
เบี้ยประกันผ่านแบงก์แอสชัวรันส์เติบโตถึง 30% ซึ่งทางกสิกรไทยตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันวินาศภัยภายใน 3 ปี 5,000 ล้านบาท เฉลี่ยเติบโตปีละ 30% และจะเป็นผู้นำแบงก์แอสชัวรันส์ประกันวินาศภัย ขณะที่เมืองไทยฯ ปัจจุบัน เบี้ยประกันผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ 68% เป็นประกันพีเอ ประกันสุขภาพ 20% เศษ ขณะที่ประกันรถยนต์ 8-10% เชื่อว่า
ประกันชั้น 1 ที่เพิ่งออกมาน่าจะทำให้สัดส่วน
ประกันรถยนต์เพิ่มขึ้น เพราะเงินชดเชยระหว่างนำรถเข้าซ่อมบริษัทให้ 5,000 บาทต่อครั้ง สูงมากเทียบค่าเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท โดยเรามีอู่ซ่อมเกือบ 1,000 แห่ง เป็นอู่ซ่อมทั่วไป 600 แห่งและอู่ห้างเกือบ 300 แห่ง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น