ทำอย่างไร ซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ให้ถูกลง : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
พี่ๆน้องๆ หลายๆท่านซื้อประกันภัยรถยนต์ แพงเกินไปใช่ไหม มีหลากหลายวิธีที่ทำให้ประกันภัยลดลง ก็เลือกตาม ความเหมาะสมนะครับ1. ส่วนลดประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ส่วนลดประวัติดีในแต่ละปีที่ท่านทำประกันไว้ ถ้ารถยนต์ที่เอาประกันภัยของท่านไม่เคยมีเคลมเลยในปีที่ผ่านมา หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ท่านจะได้รับส่วนลดประวัติดี ตามลำดับขั้นในแต่ละปี สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ ดังนี้• ขั้นที่ 1 ขับรถดีในปีแรก รับส่วนลด 20%• ขั้นที่ 2 ขับรถดี 2 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 30%• ขั้นที่ 3 ขับรถดี 3 ปีติดต่อกัน รับส่วนลด 40%• ขั้นที่ 4 ขับรถดีติดต่อกันตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 50%หมายเหตุ : หากท่านเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีจะลดลงทีละขั้น เช่นหากท่านมีประวัติดี 40 เปอร์เซ็นต์ และเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ส่วนลดก็จะลดลงเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ บางคนอาจจะเข้าใจว่าหากเป็นฝ่ายผิดเพียงครั้งเดียว ประวัติดีจะหายหมด ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด*** ประวัติดี สามารถโอนย้ายไป บริษัทอื่นได้ครับ แต่บางบริษัท ให้โอนได้แค่ 20 % บางบริษัท 30 % บางบริษัทให้โอน ถึง 50 % ครับ****2.ส่วนลดประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ระบุชื่อผู้ขับขี่การประกันภัยรถยนต์ แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ สำหรับรถยนต์นั่ง รถยนต์โดยสาร ที่ใช้ส่วนบุคคล สามารถเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน โดยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ตั้งแต่ 5 – 20% ดังนี้ช่วงอายุ ส่วนลดเบี้ย18 – 24 ปี 5%25 – 35 ปี 10%36 – 50 ปี 15%50 ปีขึ้นไป 20%ในกรณี ระบุ อายุผู้ขับขี่ 2 คน ส่วนลดผู้ขับขี่ จะคิดจาก อายุของผู้ขับขี่ ที่อายุน้อยที่สุด ครับกรณีทำประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่แต่ขณะที่เกิดเหตุผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ไว้ในกรมธรรม์ และเป็นฝ่ายผิด ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก 6,000 บาทต่อความเสียหายตัวรถยนต์ และ 2,000 บาทต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก ตามจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยสมัครใจรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรกเอง3.ส่วนลดประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ความเสียหายส่วนแรก (Deductible)การทำประกันภัยรถยนต์แบบมี Deductible เป็นวิธีการที่ท่านเลือกรับความ เสี่ยงภัยไว้เองบางส่วน ในกรณีที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุในละครั้ง ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้ส่วนหนึ่ง เช่น หากคุณซื้อค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท เป็นต้น คุณก็จะได้ลดเบี้ยประกันจากยอดเดิม อาจจะ 4,000 – 5,000 บาท แล้วแต่บริษัท แต่หากมีอุบัติเหตุ และคุณเป็นฝ่ายผิดคุณก็ต้องเสียเงินจำนวน 2,000 บาท/ครั้ง เพราะว่าว่าเงินตรงนี้เป็นการร่วมรับผิดกับบริษัทประกันฯ นั่นเอง4.ส่วนลดประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ส่วนลดกลุ่มหากท่านมีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ที่จดทะเบียนชื่อเดียวกัน จะได้รับส่วนกลุ่ม 10 %และขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.tvinsure.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557
ทำอย่างไร ซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ให้ถูกลง : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
เมืองไทย ประกันภัยรถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557
เคลมประกันอย่างมีเชิง ประมาทเลินเล่อประกันไม่คุ้มครองจริงหรือ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
เคลมประกันอย่างมีเชิง ประมาทเลินเล่อประกันไม่คุ้มครองจริงหรือ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
เคลมประกันอย่างมีเชิง ประมาทเลินเล่อประกันไม่คุ้มครองจริงหรือ (GM CAR)
เรื่อง : สุวัฒน์ สุขสัมฤทธิ์
เล่มที่ผ่านมาทิ้งท้ายไว้ว่า ต่อแต่นี้จะเน้นเอากระบวนการเคลมประกันภัยรถยนต์มาเล่าสู่กันฟัง ทั้งนี้เพื่อบรรดามือเก๋าจะได้ทบทวนความจำ ในขณะเดียวกันเพื่อเป็นแนวทางให้มือใหม่ได้ศึกษาว่าจะควรทำอย่างไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนและต้องเคลมประกันภัย
โดยเฉพาะมือใหม่จากนโยบายรถยนต์คันแรกบรรดาบริษัทประกันภัยต่างตาหน้าออกมาสารภาพอย่างหน้าชื่นอกดรมาว่า ทำให้สถิติการเคลมสินไหมประกันภัยพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว จึงส่งผลให้หลายบริษัทต้องจัดกระบวนทัพรับมือผู้เอาประกันภัยกลุ่มนี้เป็นการเฉพาะ
นัยว่าบางบริษัทถึงขนาดอบรมพนักงานเคลม เพื่อให้บริการบรรดามือใหม่ป้ายแดงโดยตรง โดยตั้งสมมติฐานว่าพนักงานเคลมที่ไปให้บริการนั้น ต้องแจกแจงให้ผู้เอาประกันภัยเข้าใจอย่างละเอียดยิบว่า แต่ละขั้นตอนในการเคลมประกันภัยผู้เอาประกันภัยควรทำอย่างไร
เพราะถ้าปล่อยให้หลงทางหลงประเด็นเข้าใจผิดประการใดขึ้นมา ผู้ที่เสียหายย่อมเป็นบริษัทประกันภัย เพราะภาพลักษณะจะเสียหายย่อยยับ โดยด่ามา 3 วัน 3 คืน หรือวัดความยาวตัวอักษรได้หลายร้อยกิโลเมตร แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏสังคมได้รับรู้เพียงแค่เสี้ยววินาทีด้วยข้อความสั้น...เข้าใจผิด
แต่อย่างว่าล่ะครับ พฤติกรรมของพนักงานเคลมที่ถูกชิพฝังหัวเอาไว้ ทำหน้าที่แค่ไปให้ถึงผู้เอาประกันภัย ณ จุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด และเก็บรายละเอียดให้มากที่สุดเท่านั้นเอง ส่วนหลังจากให้ใบเคลมต่อผู้เอาประกันภัยแล้ว ก็คงปล่อยให้ผู้เอาประกันภัยงงไปไก่ตาแตกโทรฯทวงถามบริษัทโดยตรงเอาเองว่าจะทำอย่างไรต่อ
อย่างเช่นกรณีรถปิกอัพอเนกประสงค์ของเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งได้ไปแจ้งเคลมเอาไว้ว่าฝาท้ายรถยนต์เสียหาย ปรากฏว่ามาเร็วเคลมเร็วอย่างที่โฆษณาเอาไว้ ถ่ายรูปจดรายละเอียดเสร็จสรรพส่งใบเคลมให้แล้วหายจ๋อยไปเลย
ล่วงมากกว่า 3 เดือนแล้วเจ้าของรีสอร์ตรายนั้นยังงง ๆ อยู่เลยว่าจะทำอย่างไรต่อ จนเรื่องราวล่วงรู้มาถึงผมนั่นแหละจึงถึงบางอ้อว่า บริษัทประกันภัยไม่อนุมัติเคลม อ้างว่าเกิดจากความประมาทของผู้เอาประกันภัยเอง
มาตรา 879 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในวรรคแรกบัญญัติไว้ว่าผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้น เพราะความทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์
การที่ฝาท้ายรถยนต์ยุบ โดยลักษณะการยุบเด้งจากด้านในไปด้านนอกอย่างนี้ ฝ่ายประเมินความเสียหายของบริษัทประกันภัย ย่อมคาดการณ์ได้ว่าต้องเกิดจากการกระทำของเจ้าของรถยนต์หรือลูกจ้างอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทำของหนักหล่นใส่หรือบรรทุกอะไรที่หนักเกินกว่าฝาท้ายรถจะรับได้ส่วนจะถูกรถยนต์คันอื่นชนไม่น่าจะใช่ เพราะถ้ารถชนลักษณะของความเสียหาย อาการยุบจะต้องเด้งจากนอกไปด้านใน
ซึ่งในภายหลังผู้เอาประกันภัยเจ้าของรีสอร์ตยอมรับว่าได้นำรถไปบรรทุกเสาเข็มและหล่นใส่ฝากระบะท้ายอย่างแรง
ดังนั้นประเด็นที่จะต้องถกเถียงกันต่อไปว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือเกิดจากอุบัติเหตุในการขนย้ายวัสดุ
คุณอำนวย สุภเวทย์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายประกันภัยได้ดีความถึงความประมาทเลินเล่อไว้ว่า ความประมาทเลินเล่อนั้นมี 2 ระดับคือความประมาทเลินเล่อไม่ถึงกับประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงระดับหนึ่ง และความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอีกระดับหนึ่ง
ประมาทเลินเล่อคือการกทำที่ปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยหรือพฤติการณ์ ส่วนความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นการกระทำที่เบี่ยงเบนไปจากมาตรฐานอย่างมาก เช่น คาดเห็นได้ว่าความเสียหายนั้นอาจเกิดขึ้นได้ หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หากใช้ความระมัดระวังสักเพียงเล็กน้อย เท่านั้นก็คงคาดเห็นได้ว่าอาจเกิดความเสียหายเช่นนั้นขึ้น
ที่สำคัญมีสุภาษิตกฎหมายบทหนึ่งว่าเลินเล่ออย่างร้ายแรงมีผลมีผลเท่ากับจงใจกระทำความผิด (Gross negligent is held equivalent to intentional wrong)
ถ้าว่าตามการดีความดังกล่าวนี้ เจ้าของรีสอร์ตที่ผมกล่าวถึงในฐานะผู้เอาประกันภัยคงต้องจ่ายค่าซ่อมเอง เพราะเข้าข่ายประมาทเลินเล่ออย่าร้ายแรง รู้ทั้งรู้ว่าการใช้รถไปขนย้ายเสาเข็มที่มีความหนักย่อมที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถยนต์อย่างแน่นอน
แต่อย่าเพิ่ง ซ.ต.พ. นะครับ ถ้าเอาคำพิพากษาฏีกามาเทียบเคียงก็จะพบความจริงของกฎหมายข้อหนึ่งว่า ข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยตามมาตรา 879 ต้องเกิดเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์เท่านั้น
บุคคลผู้ถือเสมือนหนึ่งผู้เอาประกันภัย เช่น ผู้ขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้รับประกันภัยดังเช่นในกรณีตามคำพิพากษาฎีกาต่อไปนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่เข้าข่ายยกเว้นความผิดของผู้รับประกันภัย เพราะมีสุภาษิตกฎหมายกล่าวไว้ว่า “ข้อยกเว้นต้องตีความโดยเคร่งครัด”
คำพิพากษาฎีกาที่ 1720/2639 มาตรา 879 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นบทบัญญัติยกเว้นความรับผิดของผู้เอาประกันภัย จึงต้องดีความโดยเคร่งครัด ตามมาตราดังกล่าว ผู้รับประกันภัยจะหลุดพ้นความรับผิดเมื่อความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือของผู้รับประโยชน์ เท่านั้น การที่บุตรของผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ วินาศภัยที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้เอาประกันภัย บริษัทจำเลย จึงไม่พ้นความรับผิด
อ้าว! บุตรในคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวมันย่อมไม่แตกต่างไปกว่าลูกจ้างของเจ้าของรีสอร์ต งานนี้ทำไปทำมาบริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหม
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะบริษัทประกันภัยยึดหลักสุจริตใจ เชื่อว่าผู้เอาประกันภัยย่อไม่ตั้งใจให้เกิดความเสียหาย ประกอบกับค่าซ่อมไม่สูงมากนัก เอาใจลูกค้าเพื่อได้ต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยในปีต่อไปกันดีกว่า จึงหยวนไม่ต้องมาดีความตามตัวบทกฎหมาย
เพียงแต่ขอความกรุณาให้ผู้เอาประกันภัยทำจดหมายขออนุโลมไม่ให้นำเอาเงื่อนไขยกเว้นมาบังคับใช้ โดยเหตุที่ต้องทำจดหมายนั้นไม่ใช่ต้องทำตามกฎหมายบังคับอะไรหรอก เพียงแต่เป็นสิ่งการันตีว่าผู้จัดการสินไหมทดแทนนั้น ๆ ได้ดำเนินการถูกต้องแล้ว แต่ต้องยกเว้นให้เพราะมองประโยชน์ของการตลาดเป็นหลัก
เรื่องของการประมาทเลินเล่อจึงเป็นสาระสำคัญประการแรกที่ผู้เอาประกันภัยจำต้องรู้เชิงเอาไว้ให้มั่น เพราะเป็นข้ออ้างยอดฮิตที่เจ้าหน้าที่สินไหมทดแทนมักจะหยิบยกมาอ้าง ไม่เบี้ยว แต่ไม่จ่ายเพราะลูกค้าประมาทเอง
เราจึงต้องมีเชิงได้กลับเอาไว้ก่อน ฉันประมาทตรงไหน !
เจอลูกนี้เข้ารับประกันซ่อมฟรีคงต้องเจรจากันหลายยก และในที่สุดบริษัทประกันภัยคงต้องหยวน ๆ ให้ เพราะบริษัทประกันภัยยุคนี้ยืดหลัก “ค้าขายดีกว่าค้าความ” ครับพี่น้อง !และขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://car.kapook.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
เมืองไทย ประกันภัยรถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557
กรณีที่ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
กรณีที่ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์
กรณีที่ประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ
- เมื่อผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือมี แต่ว่าใบอนุญาตหมดอายุเกิน 180 วัน หรือถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย
- ผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรายาเมาถึงขนาดไม่สามารถควบคุมรถยนต์ได้
- ผู้ขับขี่มีความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เช่นขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง
- ผู้ขับขี่ใช้รถนอกอาณาเขตที่คุ้มครอง
- เมื่อผู้ขับขี่ใช้รถไปในทางที่ผิดกฎหมาย
- ผู้ขับขี่ใช้รถในการแข่งขัน หรือทดลองความทนทาน หรือความเร็วทางกำลัง
- ผู้ขับขี่ใช้รถในการลากจูง หรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลางจูง หรือถูกผลักดันได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย
- การใช้รถโดยบุคคลของอู่ เมื่อรถยนต์ได้ถูกส่งมอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้น บริษัทเป็นผู้สั่ง หรือการยินยอม
ข้อควรระวัง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรถยนต์คันเอาประกันภัย เช่น เปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ เปลี่ยนหมายเลขทะเบียน หรือมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ ที่ทำให้สภาพของรถยนต์เปลี่ยนลักษณะไป ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งบริษัทรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรทันที ผู้เอาประกันภัยรถยนต์จะต้องไม่ไปตกลงยินยอมเสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใด โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเด็ดขาด เลือกประกันภัยอย่างไรดี
- ความรับผิดชอบต่อความบาดเจ็บ เราไม่มีทางรู้ว่าหากเผอิญขับรถไปชนคนตาย เราจะรับผิดชอบถึงแค่ไหน จำนวนเงินเอาประกันภัยต้องให้สูง ไม่ใช่ 5,000 บาท หรือ 10,000 บาทต่อคน เพราะว่าเงินจำนวนขนาดนี้เจ้าของรถสามารถรับผิดชอบเองได้
- ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก จำนวนเงินเอาประกันภัยต้องสูงไว้เหมือนกัน สมัยนี้รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีราคาเกิน 500,000 บาทขึ้นไป
- ความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากไฟไหม้ หรือลักทรัพย์ ภัย 2 อย่างนี้จะทำให้รถยนต์เสียหายเต็มราคารถได้
- ความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากการชน ความคุ้มครองอันนี้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ค่อนข้างสูง หากเราขับเองและใช้ความระมัดระวัง เราจะประหยัดได้ โดยซื้อแบบที่เรายอมรับผิดส่วนแรกของความเสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง การประกันภัยรถยนต์แบบนี้ทำให้มีโอกาสได้รับส่วนลดสำหรับการเรียกร้องค่าเสียหายดี ขึ้น
และขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.tqm.co.th/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
โบรกเกอร์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557
เคล็ดลับ? แจ้ง เคลมประกัน ชั้น1 ให้ได้แบบฟรีๆ ! : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
เคล็ดลับ? แจ้ง เคลมประกัน ชั้น1 ให้ได้แบบฟรีๆ ! : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
วิธีการแจ้งบริษัทประกันภัยขอเลขเคลมเพื่อสั่งซ่อมรถแบบไม่มีคู่กรณี
หลายครั้งที่คุณสาวๆ ทั้งหลายขับรถไปแล้วเกิดเฉี่ยวหรือชนเข้ากับวัตถุที่อยู่ริมถนนโดยไม่ตั้งใจ เช่น กระถาง กระบะปลูกต้นไม้หน้าบ้าน หรือแม้แต่กำแพง หรือเสารั้วตอนที่จะเลี้ยวเข้าบ้าน หรือบางทีก็โดนรถจักรยานยนต์เฉี่ยวเอาตัวอย่างสีแล้วหนีไปซะงั้น ไม่สามารถตามตัวได้ รู้ทั้งรู้อยู่ว่ารถเรามีประกันภัยชั้น ๑ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเคยได้ยินมาแต่ว่า การเคลมประกันเพื่อสั่งซ่อมนั้นต้องมีคู่กรณี ๒ ฝ่าย คือเรากับฝ่ายผู้ก่อเหตุ แต่คราวนี้เราเป็นผู้ก่อเหตุซะเองกับสิ่งไม่มีชีวิต หรือผู้ก่อเหตุหนีไปในกลีบถนนแล้วเนี่ย เราจะทำยังไงดี จะเคลมแบบไม่มีคู่กรณีได้มั้ย ขอเชิญติดตาม
การแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอเลขเคลมสั่งซ่อมแบบไม่มีคู่กรณีนั้น สามารถทำได้ และทำกันมาหลายแล้วด้วย พอๆ กับการแจ้งเคลมแบบมีคู่กรณีนั่นแหละ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกวันและทุกเวลา
ขั้นตอนการแจ้งเพื่อนำรถเข้าซ่อม
๑. แจ้งไปที่ศูนย์บริการที่เราซื้อรถคันนี้มาว่า เราจะนำรถเข้าซ่อม โดนอะไรก็แจ้งเขาไป แล้วทางศูนย์บริการก็จะบอกให้เราไปแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอเลขเคลม
๒. ไปที่บริษัทประกันภัยที่เราได้ทำไว้ แล้วแจ้งทางบริษัทว่าจะขอเลขเคลมเพื่อจะนำรถเข้าซ่อม ทางบริษัทประกันภัยจะให้เขียนรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุ
ทริคการแจ้งรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
-แจ้งวัน เวลาของการเกิดอุบัติเหตุให้ใกล้วันที่แจ้งเคลมให้มากที่สุด เช่น แจ้งเคลม ๖ พ.ย. ก็แจ้งวันที่เกิดเหตุว่า เกิดเหตุวันที่ ๕ พ.ย. เป็นต้น หรือถ้าไปแจ้งตอนบ่าย ก็แจ้งในใบแจ้งรายละเอียดว่าเกิดเหตุตอนเช้าวันที่แจ้งไปเลย เพราะถ้าแจ้งวัน เวลาตามความเป็นจริง บริษัทอาจจะหัวหมอโดยอ้างว่าเกิดเหตุนานมาแล้วไม่รีบแจ้ง อาจจะยึกยักให้เราปวดเศียรเวียนเกล้าได้
-แจ้งการเกิดเหตุโดยแจ้งว่าได้ชนหรือเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กระถาง กำแพง เสารั้ว แต่ต้องให้ดูสมจริงด้วย ไม่ใช่ว่าแผลอยู่ตรงกับแนวไฟท้าย แต่แจ้งว่าชนกระถาง ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ แบบนี้ก็อาจโดนเล่นแง่ได้เหมือนกัน เรื่องแจ้งว่าชนกับอะไรนั้น ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร เพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่าเราขับไปชนอะไรมา แต่ในกรณีชนแล้วหนีเนี่ย ต้องแต่งเรื่องนิดหน่อย โดยอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนีเด็ดขาด เพราะอาจจะโดนเล่นแง่ให้ไปตามคู่กรณีได้ ดังนั้นถ้าให้ชัวร์ แจ้งว่าชนกับสิ่งไม่มีชีวิตดีที่สุดครับ
-สามารถแจ้งขอเลขเคลมได้ทั้งคัน ไม่ว่าจชนมานานแค่ไหน แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ให้แจ้งวัน เวลาที่เกิดเหตุให้ใกล้วันแจ้งให้มากที่สุดจะดีที่สุด ถ้ามีหลายแผลหลายรอยก็ต้องคิดกันหน่อยตรงนี้
๓. ทางบริษัทประกันภัยอาจะขอดูรถเรา ก็ให้เขาดูไป แต่ถ้าไม่ได้เอารถมาด้วย ก็สามารถนัดวันให้บริษัทมาดูได้ แต่ถ้าเขาไม่พูดถึงเราก็ไม่ต้องถาม
๔. เมื่อได้เลขเคลมมาแล้วก็แล้วแต่เราล่ะว่าจะนำรถเข้าซ่อมเมื่อไร ไม่จำเป็นว่าได้เลขเคลมมาแล้วต้องนำรถเข้าซ่อมทันที แต่ใบเคลมนี้มีอายุประมาณ ๑ ปี
๕.เมื่อจะนำรถเข้าซ่อมก็นำรถไปที่ศูนย์บริการที่เราซื้อรถมาพร้อมนำใบเคลมติดไปด้วย ยื่นใบเคลมให้ พร้อมเซ็นชื่อสั่งซ่อม ทางศูนย์บริการจะนัดวันมารับรถ หรือหากว่าเป็นการซ่อมไมไหญ่ เช่น โดนทุบกระจก บริษัทประกันจะแนะนำอู่ให้เราถือใบเคลมไปเปลี่ยนเอง แบบนี้เราก็สามารถรอรถได้เลย
--หากชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับชื่อคนแจ้งเคลมก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคนที่มีพลขับส่วนใหญ่ก็จะให้พลขับเป็นคนเซ็นใบเคลม แต่ถ้าบริษัทยึกยักเล่นแง่หัวหมอ ก็อธิบายไปตามความจริง เช่น ชื่อสามี แต่เราเป็นคนใช้รถ หรือบอกว่า เราเป็นภรรยาของเจ้าของรถ ถ้ายังเรื่องมากอีกก็ใช้ไม้ตายขุ่ว่าจะถอนประกันภัยแล้วจะไปทำประกันภัยกับบริษัทอื่น รับรองรายไหนรายนั้น ยอมทำให้แน่นอน
ปล.ที่บอกว่าเพื่อคุณสุภาพสตรีเพราะคิดว่าคุณผู้ชายคงทราบดีอยู่แล้วและขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.trueplookpanya.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
โบรกเกอร์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557
ซื้อรถยังไงไม่ให้โดนย้อมแมวขาย ?? : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
ซื้อรถยังไงไม่ให้โดนย้อมแมวขาย ?? : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
การซื้อรถของบุคคลทั่วๆ ไป ส่วนหนึ่งซื้อด้วยเงินสด ส่วนใหญ่ซื้อด้วยวิธีผ่อนจ่ายโดยใช้บริการทางการเงิน คือวางเงินดาวน์ส่วนที่เหลือกู้เงินจากสถาบันการเงินมาแล้วผ่อนจ่ายเป็นรายงวด หากเครดิตดี บริษัทการเงินก็จะอนุมัติให้กู้ได้ จากนั้นก็พยายามประคับประคองจ่ายเงินค่างวดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดหนี้สินหากไม่สามารถจ่ายได้ ก็ต้องโดนยึดรถโดนฟ้องร้องดำเนินคดีจนกว่าจะชดใช้กันหมด หากตัวลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายได้ “ผู้ค้ำประกัน” ก็ต้องรับกรรมจ่ายไป จากนั้นก็ไปไล่เบี้ยกันเอาเอง สถาบันการเงินอันเป็นเจ้าหนี้ไม่ต้องรับรู้อะไรเพราะถือว่าใช้หนี้มาให้แล้วเป็นธรรมดาของคนทั่วไปอีกเหมือนกันที่เมื่อซื้อรถคันใหม่ก็จะมีความหวังว่าจะได้รถที่ดี ซื้อมาแล้วใช้งานได้ถูกใจสมราคาหรือดีเกินราคา แต่ของแบบนี้ “ตาดีได้ตาร้ายเสีย” เพราะรถใหม่ของเราแต่มันเป็นรถเก่าของคนอื่น เจ้าของเดิมใช้งานอย่างไร ดูแลอย่างไร ก็ไม่มีทางได้รู้ยกเว้นจะได้รู้จักกับเจ้าของรถและได้เห็นการใช้รถของเจ้าของเดิมว่าเป็นมาอย่างไร แต่ “เขาก็ว่า” กันอีกนั่นแหละว่า บางทีซื้อรถกับ “คนกันเอง” อาจจะปวดใจกับการ “ย้อมแมว” จากร้ายให้ดูดีมาหลอกขาย เพราะไว้เนื้อเชื่อใจกันมากเกินไป แถมยัง “พูดไม่ออก” เมื่อเจอปัญหาหลังจากเอารถไปใช้งานแล้วเพราะเกรงใจ “คนกันเอง”วิธีป้องกันการโดนย้อมแมว แม้จะป้องกันไม่ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็น่าจะ “ช่วยได้” บ้างก็คือ อย่าให้ความอยากมาบังตาจนมองไม่เห็นความบกพร่องต่างๆ ของรถ และต้อง “ทำใจ” ว่ารถเก่าต้องมีความบกพร่องเสียหายจากการใช้งา แต่ไม่ควรมีสภาพชำรุดบกพร่องเกินกว่าจะรับได้ (อย่างนี้เรียกว่า “ซื้อแพง”) ต้องสำรวจสมุดทะเบียนอย่างละเอียด หมายเลขทะเบียนหมายเลขเครื่องตรงกับของจริงที่รถหรือไม่ มีการแจ้งเปลี่ยนสีเปลี่ยนเครื่องบ้างหรือไม่ ถ้ามีต้องสอบถามคนจะขายว่าเปลี่ยนเพราะอะไรเพราะอาจเกิดจากอุบัติเหตุรุนแรง ถ้าซื้อเงินสดควรไปจัดการโอนเปลี่ยนชื่อกันที่สำนักงานขนส่ง อย่ารับเอกสารเซ็น “โอนลอย” เพราะนอกจากเรื่องย้อมแมวแล้วต้องระวังเรื่องการฉ้อโกงไว้ด้วยอีกอย่างส่วนคนซื้อรถป้ายแดงที่ต้องมี “ความหวัง” อย่างยิ่งว่าจะได้รถดีรถไม่มีปัญหาเพราะเป็นรถมือแรก ยังไม่ได้มีการขบขี่ใช้งานมาก่อน แต่ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ก็มีการ “ย้อมรถป้ายแดง” กันอย่างหน้าตาเฉย จาผู้ซื้อคนแรกที่นำรถมาคืนเพราะรถมีปัญหา หรือเป็นรถนำเข้าที่มาแสดงตัวว่าเป็นรถ “มือหนึ่ง” ขายกันในราคารถมือหนึ่งแต่แท้จริงเป็นรถเก่าจับย้อมข้อสังเกตป้องกันการย้อมแมว คือ “กลิ่น” ซึ่งรถใหม่ย่อมมีกลิ่นของ “ความใหม่” เช่นกลิ่นหลัง กลิ่นพลาสติก กลิ่นวัสดุต่างๆ ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน “สภาพ” โดยรวมต้องใหม่เอี่ยม มีพลาสติกหุ้มหรือปิดตามจุดต่างๆ ไม่มีริ้วรอยหรือร่างรอยการใช้งาน เลขไมล์ใครว่า “ปั่น” ไม่ได้อย่าไปเชื่อ มีผู้ซื้อหลายรายที่เจอกับเหตุการณ์นี้มาแล้ว เจอกระทั่งใบสั่งติดฟิล์ม เจอของใช้ส่วนตัวที่อยู่ในรถ ดังนั้นควรเลือกซื้อรถกับตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้และใช้ความละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนที่จะยินยอมรับรถออกมาจากโชว์รูมและขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://newcar2thai.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
โบรกเกอร์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557
7 วิธีการดูแลรักษารถยนต์ติดแก๊สให้ใช้ได้นานและปลอดภัย : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
7 วิธีการดูแลรักษารถยนต์ติดแก๊สให้ใช้ได้นานและปลอดภัย : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
ในเมื่อน้ำมันมีราคาแพงขึ้น จึงหันมาใช้แก๊สเป็นพลังงานทางเลือก ในเมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาที่สูง ทั้งที่ไม่น่าจะสูงขนาดนี้ เมื่อได้เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อบ้านหรือประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศไทยในเองก็มีแหล่งน้ำมันในประเทศหลายแห่ง แต่ดูเหมือนว่าความสลับซับซ้อน มีช่องว่างและการไม่ชี้แจงให้โปร่งใส หรือตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมน้ำมันถึงแพงขนาดนี้มันยังคงทำให้เกิดความสับสนและไม่เข้าใจ ซึ่งเราๆ ประชาชนทั่วไปคงต้องรับกรรม และแบกรับกับราคาน้ำมันที่สูงมากอย่างทุกวันนี้ต่อไป หากยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้บ่นบ้างก็ยังดี ดังนั้นเมื่อน้ำมันมีราคาแพงผู้ใช้รถ รวมถึงผมด้วยจึงหันมาเลือกใช้ก๊าซเป็นพลังงานทางเลือก ที่มีให้เลือกทั้ง แบบ LPG หรือ แบบ CNG แล้วแต่เงื่อนไขในการตัดสินใจเลือกซึ่งการใช้ก๊าซมาเป็นเชื้อเพลิง จะมีการใช้ทั้งระบบที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเดิมอยู่และระบบใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงที่ติดตั้งเพิ่มเติมขึ้นมา หรือเรียกว่าใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบนั่นเองการดูแลรถที่มีการใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ ควรดูแลรักษากันทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน ในส่วนของก๊าซที่ติดตั้งทีหลัง ควรดูแลกันตั้งแต่เริ่มติดตั้งระบบก๊าซเลย ตกแต่งจากระบบการใช้เชื้อเพลิงแบบเดิมขึ้นมา ที่ต้องดูแลมีหลายข้อดังนี้1.) ดูระบบน้ำหล่อเย็นอยู่เสมอ เนื่องจากมีการตัดต่อระบบน้ำหล่อเย็นของเดิม มาพ่วงกับระบบหม้อต้มของก๊าซ เพื่อมีการอุ่นก๊าซให้พร้อมใช้งานขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ และควบคุมอุณหภูมิตลอดเวลา การตัดต่อท่อยางเพิ่มท่อขึ้นมาเพื่อใช้กับระบบก๊าซ มีการใช้ข้อต่อสวม และใช้เข็มขัดรัดท่อ ซึ่งจะต้องใช้ของดีมีคุณภาพ และช่างต้องมีความประณีตในการใส่ ถ้าใช้ท่อยาง เข็มขัดรัดท่อที่ด้อยคุณภาพ การใช้งานจะสั้นลงและอาจมีการปริแตกได้ภายหลังที่ใช้งานได้ไม่นาน ดังนั้นช่วงการติดตั้งสัปดาห์แรก ควรสังเกตการณ์รั่วซึมของน้ำหล่อเย็น บ่อยๆ หรือทุกวัน จากการติดตั้งเพิ่มเติมหรือไม่ และหลังจากนั้น ดูระดับหม้อพักน้ำหล่อเย็น หรือน้ำในระบบหม้อน้ำอย่างน้อยทุกสัปดาห์สำหรับรถที่มีอายุน้อยหรือไม่เกิน 5 ปี และทุกๆ 2-3 วันสำหรับรถที่อายุเกิน 5 ปี ซึ่งข้อนี้เจ้าของรถสามารถดูเองได้2.) การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สามารถใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถติดแก๊สโดยเฉพาะใช้น้ำมันเครื่องแบบเดิมหรือก็ได้แต่ที่สำคัญ คือ ให้เปลี่ยนบ่อยขึ้นกว่าที่เคย หรือใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีกว่าที่เคยใช้ จากน้ำมันเครื่องธรรมดา เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ หรือจากกึ่งสังเคราะห์ เป็นน้ำมันสังเคราะห์เพราะเครื่องยนต์ที่เผาไหม้จากแก๊สจะเกิด “กรด” มากกว่าการเผาไหม้ด้วยน้ำมัน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสียหายกับเครื่องยนต์ จึงควรเปลี่ยนให้ถูกต้องและสม่ำเสมอ3.) ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องๆ 2 สัปดาห์ สำหรับรถที่มีอายุน้อยหรือไม่เกิน 5 ปีและทุกสัปดาห์หรือบ่อยกว่าสำหรับเครื่องยนต์ที่มีอายุมาก เนื่องจากระบบก๊าซจะสิ้นเปลืองน้ำมัน เครื่องมากกว่าน้ำมันประมาณ 5-10 % สำหรับรถที่ใช้ก๊าซอุณหภูมิห้องเผาไหม้จะสูง กว่าใช้เบนซิน 1 เท่าตัว ดังนั้น น้ำมันเครื่องที่ดีจะช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น4.) ตรวจเช็คจุดข้อต่อและท่านำก๊าซต่างๆ ที่เราตรวจเช็คได้ หรือให้ช่วงที่ชำนาญตรวจการรั่วซึมตามจุดต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ทุกๆ 6 เดือน บางท่านพอมีฝีมือช่างบ้างอาจใช้น้ำฟองสบู่ หรือน้ำผสมน้ำยาล้างจาน ลูบทาบริเวณข้อต่อต่างๆ เพราะระบบที่ติดตั้งเพิ่มเติมมีจุดต่อท่อก๊าซมาก บางครั้งเกิดการรั่วซึมได้ แต่ถ้าไม่มีความรู้ ให้ช่างตรวจสอบให้ โดยช่างจะมีอุปกรณ์เช็ครอยรั่วของก๊าซโดยเฉพาะ นอกจากนี้ผู้ใช้รถเองจำเป็นจะต้องสังเกตกลิ่นของก๊าซที่อาจรั่วได้ ถ้ารู้สึกถึงกลิ่นให้รีบนำรถไปตรวจสอบโดยเร็ว5.) ควรตรวจเช็คและตั้งบ่าวาล์วไอเสีย ทุกๆ 40,000-60,000 กิโลเมตร เพราะบ่าวาล์วไอเสียของเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซ มีโอกาสสึกหรอเร็วกว่าการใช้น้ำมันเบนซิน เพราะห้องเผาไหม้ที่ร้อนกว่าฉะนั้นการใช้ก๊าซทำให้อุณหภูมิภายในสูงมากๆ ประกอบกับก๊าซเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่มีเขม่าเหมือนกับน้ำมันจึงทำให้วาล์วแห้ง เมื่อเกิดความร้อนสูงและแห้งมาก วาล์วและบ่าวาล์วที่เปิดปิดขณะเครื่องยนต์ทำงาน จะเกิดการเสียดสีกันตลอดเวลา โดยจะสึกมากน้อยขึ้นอยู่กับการชุบแข็งของเหล็กที่ใช้ทำบ่าวาล์ว จึงได้ยินกันบ่อยๆ ว่ารถบางรุ่นบางยี่ห้อ บ่าวาล์วและวาล์วสึกเร็วกว่าอีกยี่ห้อ ต้องตั้งวาล์วกันบ่อยๆ6.) ใช้เชื้อเพลิงเบนซินวิ่งสลับกับการใช้ก๊าซบ้าง อย่างน้อย 10-15 % ของระยะทางที่วิ่ง อันเนื่องจากปัญหาเรื่องวาล์วแห้งจากการใช้ก๊าซนานๆ วาล์วและบ่าเกิดการเสียดสีกันมากกว่าการใช้เชื้อเพลิงเบนซินจะเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่แห้งเหมือนก๊าซ จะไปช่วยเคลือบบ่าวาล์วบ้าง แม้จะไม่มากนักแต่ช่วยชะลอการสึกหรอของบ่าวาล์วได้ การสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรสตาร์ทด้วยน้ำมันเบนซินเสมอ เมื่อใช้งานสักระยะค่อยสลับกลับมาใช้ก๊าซถึงแม้จะใช้ระบบเปลี่ยนเชื้อเพลิงอัตโนมัติ แต่บางครั้งระบบเปลี่ยนเป็นการใช้ก๊าซเร็วเกินไปเราควรดูแลเรื่องการใช้เบนซินให้ถูกต้อง นอกจากนี้ก่อนจะดับเครื่องหรือถึงจุดหมาย ควรสลับมาใช้น้ำมันก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยลดการสึกหรอลงไปได้7.) ควรหมั่นดูแลกรองอากาศ บางท่านที่ใช้รถมักจะดูแลความสะอาดของกรองอากาศเมื่อนำรถเข้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หากเราใช้แก๊สโดยเฉพาะระบบ Mixer คงต้องหันมาสนใจมันมากหน่อย คือควรที่จะทำความสะอาดทุกๆ 2 สัปดาห์เนื่องด้วยระบบดูด หากกรองอากาศตันเครื่องยนต์พยายามที่จะดูดอากาศเข้าไปแต่กรองอากาศมันตันเสียแล้ว มันก็จะไปดูดแก๊สเข้าไปแทน จะทำให้ส่วนผสมระหว่างแก๊สกับอากาศผิดไป เป็นส่วนผสมที่หนา ทำให้เปลืองแก๊สมากขึ้น และอาจทำให้เครื่องยนต์ดับได้เมื่อเราเหยียบเบรกหรือชะลอความเร็วยังคงมีอีกหลายข้อ เกี่ยวกับการดูแลใส่ใจรถใช้แก๊ส ที่ควรต้องดูแลเพิ่มเติม เพราะการใช้รถที่มีระบบเชื้อเพลิง 2 ระบบต้องการการดูแลที่เพิ่มมากขึ้น มีเงื่อนไขกำหนดระยะเวลา รวมถึงสภาพการใช้งานมาเกี่ยวข้องในการดูแลบำรุงรักษาด้วย จึงอยากจะให้ท่านเจ้าของรถผู้ใช้รถก๊าซดูแลรถที่ใช้ให้มากขึ้น จะเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้พอสมควร มีความปลอดภัยขณะใช้งาน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงที่เกิดจากการดูแลไม่ถูกต้องและขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://newcar2thai.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
โบรกเกอร์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557
ว่าด้วยเรื่องของการเคลมประกันรถยนต์ : ASN Broker ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ว่าด้วยเรื่องของการเคลมประกันรถยนต์ : ASN Broker ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ประกันภัยรถยนต์ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ต้องทำความเข้าใจให้มากๆทุกวันนี้ประกันรถยนต์มีแพ็คเกจให้เลือกมากมายทั้ง ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ที่ยังมีเพิ่มเติมแยกย่อยไปอีกเพื่อเพิ่มความคุ้มครองแตกต่างกันลดหลั่นตามวงเงินที่ผู้เอาประกันจ่ายในแต่ละปีก่อนทำประกันคนขายจะให้ข้อมูล รายละเอียดต่างๆแก่ผู้เอาประกันหรือที่เรียกแบบเป็นกันเองว่า “ลูกค้า” นั่นล่ะว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะคุ้มครองยังไงบ้าง ซ่อมรถคันที่เอาประกันไว้และรถคู่กรณี หรือซ่อมเฉพาะรถคู่กรณีก็ว่าไป ตรงนี้ล่ะที่สำคัญ เงื่อนไขต่างๆ ต้องอ่านทำความเข้าใจให้กระจ่างแจ้ง เอกสารแผ่นผับที่ได้รับแจกระบุไว้ครบถ้วนหรือไม่ โฆษณาชวนเชื่อเพียงครึ่งเดียวหรือเปล่า และเพื่อไม่ให้ผิดกฏหมายโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค เป็นประมาณว่า “บอกแต่บอกไม่หมด” ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ที่ว่าเข้าใจผิดส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องค่า Excess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรกนี่แหละ บางคนคิดว่า “ฉันทำประกันไปตั้งเป็นหมื่น ทำไมเวลาเคลมต้องมาจ่ายเพิ่มอีก ไม่เห็นบอกเลยตอนทำประกัน” เป็นเรื่องปกติครับ บริษัทประกันเค้าก็ต้องป้องกันตัว ไม่ให้ลูกค้าเอาเปรียบ ซึ่งการจ่ายค่า Excess นั้นเป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่เกิดจากการขับขี่ที่ไม่ระวัง ฉะนั้นมันค่อนข้างจะค้านต่อความรู้สึกของคนทำประกันชั้น 1 ที่ว่ากันว่าคุ้มครองทุกกรณี (ยกเว้นภัยก่อการร้าย) เวลาที่ขับไปเกิดเหตุเฉี่ยวชนที่ไม่มีคู่กรณี เช่น เสาในห้างสรรสินค้า กระถางต้นไม้ เอาง่ายๆ ก็คือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ควรแจ้งประกันภัยให้เร็วที่สุดเหมือนกรณีชนแบบมีคู่กรณีเช่นกันแต่กหากไม่สามารถทำได้ก็ควรแจ้งให้เร็วที่สุด ไม่ควรทิ้งเวลาไว้นานเกินไป (ทางที่ดีควรถ่ายรูปไว้ด้วยว่าชนอย่างไร ที่ไหนเมื่อไหร่) ขณะเดียวกันการชนโดยไม่มีคู่กรณี ยังหมายถึง การที่เราไม่สามารถระบุว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร เหตุการณ์ใด หรือเมื่อไหร่ หรือมีการชนแล้วหนี จำทะเบียนไม่ได้ตามไม่ทัน ซึ่งก็จะกลายเป็นไม่มีคู่กรณี แบบนี้ก็ควรแจ้งให้เร็วที่สุดเช่นกัน ประเด็กก็คือ การเกิดเหตุในลักษณะนี้เวลาที่เจ้าของรถเคลมประกันจะต้องเสียค่า Excess หรือไม่?คำตอบก็คือมีทั้ง ไม่และใช่ งงมั้ยแหละครับ? ที่ว่าไม่ต้องเสียค่า Excess ที่ตอนนี้บริษัทประกันเค้าเรียกเก็บเหมือนกันหมดทั่วประเทศกับการเกิดเหตุครั้งละ 1,000 บาท ในกรณีที่เราขับรถไปชนเสาแล้วเกิดรอยแผลชัดเจนประเภท หัก แตก ร้าว บุบ อย่างนี้เคลมได้สบายไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่กลับกันหากไม่ได้เกิดแผลในลักษณะอย่างที่กล่าวไว้ หรือเป็นรอยนิดเดียวขัดก็ออกแล้วแต่ต้องการเคลมเปลี่ยนใหม่ กรณีนี้ต้องเสียค่า Excess เพราะบริษัทประกันเค้าต้องป้องกันลูกค้าที่เคลมพร่ำเพรื่อ หรือต้องการเอาเปรียบบริษัท (อยากเปลี่ยนชิ้นไหนก็แกล้งทำเป็นชนแบบไม่มีคู่กรณีกันไป)ส่วนกรณีที่ชนแล้วหนีจนกลายเป็นไม่มีคู่กรณีบางบริษัทจะยอมเคลมให้โดยไม่ต้องเก็บค่า Excessขั้นตอนการเคลมประกันชั้น 1 ที่เกิดจากการเฉี่ยวชนโดยไม่มีคู่กรณีนั้นหากชนเสา ชนกระถาง เจ้าของรถควรแจ้งให้บริษัทประกันทราบโดยเร็ว อย่าปล่อยไว้นาน พร้อมทั้งให้รายละเอียดวัน และสถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจน จากนั้นทางบริษัทประกันจะนัดลูกค้าอีกครั้งเพื่อตรวจสอบ รวมทั้งอธิบายขั้นตอนต่างๆ ในการเอารถเข้าซ่อม หรือนัดให้ไปเปิดใบเคลมกับศูนย์บริการและอู่ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท (ทางบริษัทก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ๆ ลูกค้าสะดวก) และหลังจากได้ใบเคลมที่บริษัทประกันออกให้แล้วก็สามารถนำรถเข้าซ่อมได้เลยเรื่องของประกันภัยฟังดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่ถ้าหากพยายามทำความเข้าใจกับมัน อ่านใจความในกรมธรรม์ให้ละเอียด ไม่เข้าใจตรงไหนต้องสอบถามเพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบและเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ธุรกิจประกันภัยมีการแข่งขันสูงและผู้บริโภคมีสิทธิเลือก จึงควรเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้ มีภาพลักษณ์ที่ดี ประเภทเบี้ยถูกๆ (ถูกจนน่าแปลกใจ) ถึงเวลาเคลมจริงๆอาจไม่แฮปปี้ก็ได้ครับและขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://newcar2thai.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557
ซ่อมห้าง กับ ซ่อมอู่ แตกต่างกันอย่างไร? ASN Broker มีคำตอบจ้า : ต่อประกันรถยนต์ #ประกันรถเก๋ง
ซ่อมห้าง กับ ซ่อมอู่ แตกต่างกันอย่างไร? ASN Broker มีคำตอบจ้า : ต่อประกันรถยนต์ #ประกันรถเก๋ง
ซ่อมห้าง หมายถึงซ่อมกับศูนย์รถที่ซื้อมา เช่น ซื้อโตโยต้า มาจากศูนย์โตโยต้า เวลาซ่อมศูนย์ก็คือส่งซ่อมศูนย์โตโยต้านั่นเองส่วนซ่อมอู่ หมายถึงซ่อมกับอู่นอก ซึ่งเป็นอู่ที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากบริษัทประกันแล้วนั่นเองจ้าซ่อมห้าง กับ ซ่อมอู่ อันไหนดีกว่ากัน?อย่างที่แอดมินได้อธิบายไปข้างบนแล้วว่าต่างกันยังไง คราวนี้มาดูข้อแตกต่าง/ข้อเปรียบเทียบกันบ้างดีกว่าซ่อมห้าง/ซ่อมศูนย์ จะมีบริการ รับ-ส่งรถ หมายความว่าไม่ต้องไปส่งรถเอง หรือไม่ต้องไปรับรถเอง เค้าส่งคนมารับ-ส่งให้ ประหยัดเวลาไปได้เยอะ ใช้สีแห้งช้าและมีห้องอบสี หมายความว่าคุณภาพสีดีกว่า เนียนกว่า และทนกว่า และบางศูนย์มีบริการรถสำรองด้วยนะ คือมีรถให้สำรองใช้ระหว่างส่งซ่อม แต่ก็ไม่ได้มีทุกที่นะส่วนซ่อมอู่เนี่ย เดี๋ยวนี้บางอู่คุณภาพดีเทียบเท่าซ่อมห้างแล้วนะ มีคนเคยกระซิบมาบอกว่าบางอู่เจ๋งกว่าซ่อมห้างอีก ส่วนเรื่องสี อู่ส่วนใหญ่แล้วใช้สีแห้งเร็ว และไม่ได้มีห้องอบสี ฉะนั้นคุณภาพอาจไม่ได้ดีเท่าสีแห้งช้า แต่ราคาก็จะถูกกว่าจ้าจริงๆเดี๋ยวนี้จะให้ชี้ความต่าง หรือจะให้บอกว่าซ่อมห้างหรืออู่ดีกว่าเนี่ย ตอบยากนะ อย่างที่บอกไป เดี๋ยวนี้อู่หลายเจ้าบริการดี และเร็วกว่าส่งซ่อมห้างอีก ยังไงก็ตาม เพื่อนๆจะส่งรถไปซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ก็ควรตัดสินใจดีๆนะจ๊ะ ถ้าจะซ่อมอู่ก็เช็คให้ดีก่อนว่าอู่มีความน่าเชื่อถือหรือเปล่า คุณภาพโอเคมั๊ยส่วนจะส่งซ่อมห้างก็เช็คให้ดีก่อนอีกเช่นกันนะว่าบริการได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้หรือเปล่านะจ๊ะ เพราะบางที (มีคนกระซิบมา) ว่าบริการไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็มีอีกหลายเสียงที่บอกว่ามีศูนย์ซ่อมอีกหลายๆที่ซ่อมดี๊ดี บริการดี๊ดี เพื่อนแอดมินหลายคนก็ไม่ได้ส่งรถซ่อมศูนย์นะ หลายคนก็ซ่อมอู่ เพราะใกล้กว่า ไวกว่าแล้วก็ถูกกว่า ทีนี้ก็แล้วแต่ความจำเป็นด้วยนะจ๊ะว่ารีบใช้รถมากน้อยแค่ไหนจ้าเพื่อนๆสามารถเข้าไปติดตามข่าวสารทั้งเรื่องรถใหม่ รถเก่าคลาสสิคเจ๋งๆ ทั้งในบ้านเรา และต่างประเทศ โปรโมชั่นประกันภัยรถยนต์ราคาเบาๆ สินเชื่อรถยนต์ผ่อนได้สบายกระเป๋า เกมส์ชิงของรางวัลต่างๆ และอีกมากมายได้ที่ เฟซบุ๊ค ของเราจ้าส่วนใครที่กำลังมองหารถอยู่แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาคันไหนดี หรือมองหาประกันรถยนต์ หรือมองหาสินเชื่อ นอกจากจะติดตามข่าวสารเราผ่าน เฟซบุ๊ค ได้แล้ว ยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Car Zeek ได้อีกด้วย ที่นี่เลยจ้าและขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://blog.carzeek.com/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันภัยรถยนต์,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
ประกันรถยนต์ชั้น1,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)