วิธีรับมือรถเสียฉุกเฉินช่วงสงกรานต์ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์
แนะนำการขับขี่และการเตรียมรถให้พร้อมก่อนออกเดินทางช่วงวันหยุดยาวหลายวัน เมื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉิน
1. ยางระเบิด อย่าตกใจแล้วเหยียบเบรกหรือหักพวงมาลัยอย่างกะทันหันเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถยิ่งเสียการควบคุม รถอาจหมุนหรือพลิกคว่ำได้ แต่ให้รีบเปิดไฟฉุกเฉิน แล้วลดความเร็ว ค่อยๆ บังคับพวงมาลัยเพื่อประคองรถเข้าข้างทาง การลดความเร็วนั้นสามารถทำได้โดยถอนคันเร่งออก และค่อยๆ แตะเบรกถี่ๆ เบาๆ จากนั้นเมื่อความเร็วรถลดลงถึงระดับที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้แล้ว ให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำลงและหยุดรถเข้าข้างทาง
2. เบรกแตก สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ลดความเร็วรถทันที สำหรับเกียร์ธรรมดาให้เหยียบคลัตช์ เพื่อลดตำแหน่งเกียร์ และสำหรับเกียร์อัตโนมัติให้เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก D มาเป็น 3 ไว้ แต่ห้ามเปลี่ยนเกียร์เป็น L เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์พังได้ นอกจากนั้นเบรกมือจะช่วยชะลอความเร็วที่ล้อหลังของรถ แต่ต้องค่อยๆ ดึงเบรคมือขึ้นจนสุด อย่าดึงอย่างกะทันหัน
3. หม้อน้ำรั่ว สังเกตอาการผิดปกตินี้ได้จากหน้าปัดเข็มวัดอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติเมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัด หลังจากนำรถเข้าจอดข้างทางแล้ว ให้เปิดกระโปรงหน้า เพื่อระบายความร้อน จากนั้นรอสักพักจนเครื่องยนต์เย็นลงแล้ว จึงค่อยสวมถุงมือหรือใช้ผ้าในการเปิดฝาหม้อน้ำ แล้วค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อยๆ อย่างช้าๆ เพื่อให้รถวิ่งต่อได้ก่อนนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการอีกที สิ่งสำคัญคือห้ามเปิดหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนจัดอยู่ เพราะแรงดันของน้ำในหม้อน้ำที่น้ำยังร้อนอยู่นั้น อาจพุ่งขึ้นมาโดนหน้า หรือเป็นอันตรายต่อการถูกน้ำร้อนลวกได้
4. แอร์ไม่เย็น ถ้ารู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นให้ลองปรับอุณหภูมิแอร์และพัดลมให้เย็นที่สุด ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วลองเอามืออังที่แผงคอนเดนเซอร์หน้ารถดู หากมีลมร้อนออกมาแสดงว่า แผงคอนเดนเซอร์อาจสกปรกต้องทำความสะอาด หรือไม่อย่างงั้นให้ลองเช็กตาแมวของน้ำยาแอร์ดูว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ อาจถึงเวลาที่คุณต้องเติมน้ำยาแอร์ใหม่แล้วก็เป็นได้ แต่หากพบว่ามีเสียงดังระหว่างไฟแอร์เริ่มทำงาน แปลว่าคอมเพรสเซอร์กำลังจะเสียและถึงเวลาที่คุณต้องนำรถเข้าศูนย์บริการซ่อมแล้ว
5. แบตเตอรี่หมด สามารถขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นที่สัญจรผ่านไปมาได้ โดยดับเครื่องยนต์ของรถทั้งสองคัน และปิดระบบไฟของรถให้หมด รวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่ต่อเข้ากับช่องจ่ายไฟ เช่น มือถือ ไอพอด และไอแพด เป็นต้น จำไว้ว่าถ้าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพแตกหรือไม่สมบูรณ์ ห้ามพ่วงสายเด็ดขาด มิฉะนั้นแบตเตอรี่อาจระเบิด จากนั้นพ่วงแบตเตอรี่ของคันที่หมดเข้ากับคันที่มีสภาพดีได้ รถส่วนใหญ่เครื่องจะติดได้ต่อเมื่อแบตเตอรี่มีพลังงานที่ 12 ถึง 13.6 โวลต์และขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.matichon.co.th/นำเสนอข้อมูลโดย Asn Brokerเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blogขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ เช็คเบี้ยฟรีวันนี้รับฟรี Voucher ส่วนลดคาร์แคร์ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557
วิธีรับมือรถเสียฉุกเฉินช่วงสงกรานต์ : ASN Broker ต่อประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์
ป้ายกำกับ:
เคลมประกัน,
ต่อประกันรถยนต์,
บริษัทประกันภัยรถยนต์,
เบี้ยประกันภัยรถยนต์,
โบรกเกอร์,
ประกันชั้น1,
ประกันชั้น2,
ประกันชั้น2พลัส,
ประกันชั้น3,
ประกันชั้น3พลัส,
ประกันภัย ชั้น1,
ประกันภัย ชั้น1 ราคา,
ประกันรถกระบะ,
ประกันรถเก๋ง,
ประกันรถยนต์,
โปรโมชั่น รถยนต์,
พ ร บ รถยนต์,
เมืองไทย ประกันภัยรถยนต์,
ราคา ประกัน ชั้น1
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น