วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

HONDA CIVIC ซิวรางวัลความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP


HONDA CIVIC ซิวรางวัลความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP 
จากการทดสอบการชนด้านหน้าแบบเยื้องศูนย์และได้คะแนน 82% ด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) นับเป็นอีกหนึ่งความความสำเร็จ หลังจากเมื่อปี 2555 ที่ Honda City ผ่านการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว และด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารเด็กได้คะแนน 81%

Honda นำเสนอรถยนต์ที่มีสมรรถนะความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กและกลาง ถึง 2 รุ่น การทดสอบการชนเพื่อทดสอบสมรรถนะด้านความปลอดภัยของรถยนต์ของ ASEAN NCAP จัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยความปลอดภัยบนท้องถนนของมาเลเซีย (The Malaysian Institute of Road Safety Research: MIROS) กระทรวงคมนาคมโดยนับตั้งแต่ปี 2554 สถาบันวิจัยความปลอดภัยบนท้องถนนของมาเลเซีย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับ Global NCAP ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหราชอาณาจักรเพื่อมุ่งลดอัตราการเสียชีวิต และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เร่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่มี ระบบเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นรวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของยานยนต์ ที่เชื่อถือได้

สำหรับผู้บริโภคทั่วโลกสถาบันวิจัยความปลอดภัยบนท้องถนนของมาเลเซียเป็นสถาบันอิสระที่มีบทบาทหน้าที่ในการทดสอบการชน
รถยนต์ รุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียน การทดสอบการชนครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่2 (กุมภาพันธ์ – สิงหาคม 2556) ซึ่งเป็นการทดสอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) และรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) จำนวนทั้งหมด 11 รุ่น รวมรถยนต์ Honda Civic ที่ผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งออกให้กับประเทศอินโดนีเซียได้รับเลือกเป็นหนึ่ง ในกลุ่มรถยนต์ทดสอบ โดยรถยนต Honda Civic รุ่นนี้มีสมรรถนะด้านความปลอดภัยเหมือนกับรถยนต์ Honda Civic ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย

นายพิทักษ์พฤทธิสาริกร รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท 
Honda Automobile Thailand Co. ltd กล่าว ว่า “ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ Honda Civic รุ่นปี2013 ผ่านการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นการทดสอบการชนโดย ASEAN NCAP สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Honda ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่มีคุณภาพ และมีระบบความปลอดภัยในระดับสูงสำหรับผู้โดยสารทุกคนทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อความมั่นใจ และความปลอดภัยในการเดินทาง”


สำหรับ Honda Civic ประกอบด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-CON ที่ช่วยจัดการแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการชนด้านหน้า และลดระดับความเสียหายอันเป็นผลมาจากการชนกันระหว่างรถทั้งยังมีอุปกรณ์ความ ปลอดภัย มาตรฐาน เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านผู้ ขับขี่และผู้โดยสาร ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbags ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวVSA และระบบพวงมาลัยพร้อมระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MotionAdaptive Electric Power Steering System : MA-EPS)* ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของตัวรถได้อย่างแม่นยำและช่วยลดการเกิด อาการหน้าดื้อโค้ง หรือท้ายปัด

สำหรับการทดสอบการชน ของASEAN NCAP เป็นการทดสอบการชนทางด้านหน้า ซึ่งรถยนต์ที่เข้าร่วมทดสอบจะพุ่งชนสิ่งกีดขวางซึ่งทำด้วยอลูมิเนียมที่ ความเร็ว 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีหุ่นทดสอบขนาดผู้ใหญ่ 2 ตัว นั่งอยู่ด้านหน้า และหุ่นทดสอบขนาดเด็กจำลองอายุ 3 ปี และ 18 เดือน อย่างละ 1 ตัว นั่งอยู่ในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กทางด้านหลังและบันทึกผลการทดสอบด้วยระบบ เซนเซอร์ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ตัวหุ่นทดสอบและที่รถยนต์ จากนั้นจึงเทียบผลที่ได้กับระดับความปลอดภัยของ NCAP.

นอกเหนือไปจาก ความปลอดภัยของตัวรถแล้ว สำนักงานใหญ่ของ Honda ประเทศญี่ปุ่นยังเปิดเผยว่า Honda ได้รับคะแนนสูงสุดด้านการเปิดเผยข้อมูลในกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นจากรายงานการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ 500 บริษัททั่วโลก ประจำปี 2556 โดยซีดีพี (Carbon Disclosure Project)*1 ซึ่งได้วิเคราะห์การดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก 500 บริษัทในการจัดทำมาตรการเพื่อจัดการปัญหาสภาวะโลกร้อน และการเปิดเผยข้อมูลด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas)ซึ่งผลจากการประเมินความก้าวหน้าด้านการดำเนินงาน และการเปิดเผยข้อมูล รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า Honda เป็นหนึ่งใน 12 บริษัทที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

รายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศของ 500 บริษัททั่วโลกประจำปี 2556 โดย CDP ระบุว่า Honda เปิดเผยการประเมินข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท Honda ทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ การผลิต การจำหน่าย และจากการใช้งานของลูกค้าตลอดทั้งวงจรผลิตภัณฑ์ของสินค้า Honda สอดคล้องตามเกณฑ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Protocol หรือ GHG Protocol นอกจากนี้ Honda ยังเป็นบริษัทแรกของโลกที่เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเกณฑ์ Scope ทั้งหมด ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทำให้ได้รับการประเมินในระดับสูง ส่งผลให้ Honda ได้รับคะแนนสูงสุดในการเปิดเผยข้อมูลในกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น ทั้งยังมีคะแนนการเปิดเผยข้อมูลสูงกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย

Honda ยังเป็นหนึ่งใน 60 บริษัท ที่อยู่ในรายชื่อบริษัทผู้นำด้านการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CDLI-Carbon DisclosureLeadership Index) อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จึงนับเป็นบริษัทที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก นอกจากนี้ Honda ยังเป็นหนึ่งใน56บริษัท ที่อยู่ในรายชื่อบริษัทผู้นำด้านการจัดการก๊าซคาร์บอน (CPLI-Carbon Performance Leadership Index) ทั้งหมดนี้ทำให้ค่ายรถแห่งนี้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานอย่างจริงจังในการ จัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เพื่อบรรลุเป้าหมายตาม วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของ Honda ในการสร้างสรรค์ "ผลิตภัณฑ์ที่มอบความสุขในการเดินทางให้กับผู้คน”(The Joy and Freedom of Mobility) เพื่อ “การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสังคมอันยั่งยืน”(A Sustainable Society where People Can Enjoy Life) Honda ดำเนินงานเพื่อการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ท้องฟ้าที่สดใสเพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป” (Blue Skies for Our Children) โดย Honda จะขยายการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในแต่ละภูมิภาค และยังคงเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป.
News Update : 2012-09-24
www.asnbroker.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ตอบข้อสงสัย ทำไมต้องทำประกันภัยรถยนต์ !!

อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นโรคร้ายที่สามารถป้องกัน และบรรเทาได้ด้วยความไม่ประมาท และทำการประกันภัย ที่นี่ก็มาเข้าเรื่องของเรานะครับ ประกันภัยรถยนต์กับคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ควรทำประกันภัยรถยนต์อย่างไร ?
ในเบื้องต้นที่จะแนะนำ คือ "คนรุ่นใหม่ต้องทำประกันภัยอย่างคนฉลาด" กล่าวคือ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ใน 10 ประเด็นที่สำคัญดังต่อไปนี้
  1. ทำไมต้องทำประกันภัย
  2. ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภทกี่แบบ แต่ละประเภท มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
  3. ทำประหยัดเบี้ยประกันภัยได้อย่างไร
  4. จะประกันภัยบริษัทไหนดี
  5. เกิดอุบัติเหตุจะต้องทำอย่างไร
  6. ค่าสินไหมทดแทนที่เป็นธรรมคิดจากอะไร
  7. เข้าอู่ซ่อมที่ไหนไม่ถูกหลอก (ถูกโกง)
  8. ตัวแทน-นายหน้าเป็นใคร
  9. บริษัทเซอร์เวย์ทำหน้าที่อะไร
  10. กรมการประกันภัยช่วยอะไรได้บ้าง
ในแต่ละประเด็นจะได้แนะนำให้รู้รายละเอียดในฉบับต่อๆ ไป ก็ขอให้ติดตามอย่างต่อเนื่องนะครับ สำหรับฉบับนี้จะได้เกรินนำเบื้องต้นก่อน ประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 ภาค คือ ภาคบังคับ กับ ภาคสมัครใจ
  1. ประกันภัยภาคบังคับ ได้แก่ การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ปี 2535 หรือที่เราเรียกกันติดปากและเป็นที่เข้าใจกันว่า "ประกันภัยตาม พรบ."
  2. ประกันภัยภาคสมัครใจ ได้แก่ ประกันภัยที่เจ้าของรถสมัครใจทำประกันเพิ่มจากภาคสมัครใจ (พรบ.) ซึ่งสามารถเลือกทำประกันภัยได้หลายประเภท (ประเภท 1, 2, 3, 4 )
ทำไมต้องทำประกันภัยตาม พรบ.
วัตถุประสงค์สำคัญที่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้ให้เจ้าของรถทุกคันต้องทำประกันภัยตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พอสรุปได้ 4 ประการ คือ
  • เพื่อคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากรถ ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต เพราะเหตุประสบภัยจากรถ โดยให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที่กรณีบาดเจ็บหรือช่วยเป็นค่าปลงศพกรณีเสียชีวิต
  • เป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาล หรือ สถานพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาล ในการรับรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยจากรถ
  • เป็นสวัสดิสงเคราะห์ที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย เพราะเหตุประสบภัยจากรถ
  • ส่งเสริมและสนับสนุนให้การประกันภัยเข้ามามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือนร้อนแก่ผู้ประสบภัยและครอบครัว
กฎหมายบังคับใครบ้างที่ต้องทำประกันตาม พรบ. ถ้าฝ่าฝื่นจะถูกลงโทษอย่างไร ?
  1. ผู้มีหน้าที่ต้องทำประกันภัยรถ ได้แก่ เจ้าของรถผู้ครอบครองรถในฐานะผู้เช่าซื้อรถและผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศ การฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการทำประกันภัยรถ พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ปี. 2535 กำหนดให้ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท)
  2. ผู้มีหน้าที่ต้องรับประกันภัย คือ บริษัทประกันวินาศภัยที่รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันภัยรถ ประชาชนสามารถทำประกันภัยรถ พรบ. ได้ที่บริษัทประกันภัยข้างต้นรวมถึงสาขาของบริษัทนั้นๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ที่รับประกันภัยเฉพาะรถจักรยานยนต์ มีสาขาให้บริการทั่วประเทศ บริษัทใดฝ่าฝืนไม่รับประกันภัยรถตาม พรบ. คุ้มครอง ฯ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000-250,000 บาท
รถประเภทใดที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำประกันภัย พรบ.
มีรถ 4 กลุ่ม ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำประกันภัยตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเนื่องจากมีองค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดรับผิดชอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอยู่แล้ว (รถคันใดหรือหน่วยงานใดจะทำประกันภัยตาม พรบ. เช่นเดียวกับรถของเอกนทั่วไปก็ได้)
  • กลุ่มแรก คือ รถสำหรับเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ พระรัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
  • กลุ่มที่สอง คือ รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียน และมีเครื่องหมายตามระเบียบที่เลขาธิการพระราชวังกำหนด
  • กลุ่มที่สาม คือ รถของกระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการต่างๆ รถยนต์ทหาร
  • กลุ่มที่สี่ คือ รถของหน่วยงานธุรการขององค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานธุรการ ที่เป็นอิสระขององค์กรใดๆ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
News Update : 2012-08-07
www.asnbroker.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
 
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
 
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ประกันภัยรถยนต์,ประกันชั้น1,ประกันรถยนต์ชั้น1 โดย Asn Broker (asnbroker)

ประกันภัยรถยนต์,ประกันชั้น1,ประกันรถยนต์ชั้น1 โดย Asn Broker (asnbroker)
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 คือ การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจชนิดหนึ่ง
BANNER1.jpg การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
คือ การประกันภัยที่เกิดขึ้น โดยความสมัครใจของ เจ้าของรถยนต์ ผู้ครอบครองรถยนต์หรือผู้ขับขี่รถยนต์โดยไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับโดกฎหมาย แต่อย่างใด การประกันภัยรถยนต์ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดประกันภัยในปัจจุบันนี้เป็นการประกันภัยในภาคสมัครใจ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 เป็น การตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยเป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการที่เหมาะสมของผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย )
การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
การประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากการใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
การประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะที่บุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์เป็นผู้ขับขี่ แต่ถ้าไม่ใช้ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าร่วมรับผิดชอบต่อ ความเสียหายส่วนแรก ด้วย
ความรับผิดชอบ กรมธรรม์ประเภทสมัครใจ ประเภท 1
  • ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ
  • ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  • ความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
  • ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
asnbroker,%bb%c3%d0%a1%d1%b9%aa%d1%e9%b91,%bb%c3%d0%a1%d1%b9%c0%d1%c2%c3%b6%c2%b9%b5%ec.jpg ความคุ้มครองต่างๆ สำหรับประกันภัยรถยนต์
1. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
บริษัทผู้รับประกันภัยจะเข้ารับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก หากความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกนั้น ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งความคุ้มครองในส่วนนี้จะแบ่งเป็น
1.1 ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย
ซึ่งจะคุ้มครองความรับผิดต่อความบาดเจ็บ มรณะ โดยบุคคลภายนอกที่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้ จะรวมทั้งบุคคลที่อยู่ภายนอกรถยนต์คันเอาประกันภัย และบุคคลภายนอกที่โดยสารอยู่ในหรือกำลังขึ้น หรือกำลังลงจากรถยนต์คันเอาประกันภัย โดยจะคุ้มครองเฉพาะจำนวนเงินค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าจำนวนเงินสูงสุดตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) ยกเว้น ผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งคู่สมรส บิดา มารดา บุตร ลูกจ้างในขณะปฏิบัติงานของผู้ขับขี่
1.2 ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย ยกเว้น เป็นทรัพย์สินของผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งคู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้ขับขี่
2. รถยนต์เสียหาย สูญหาย ไฟไหม้
2.1 ความเสียหายต่อรถยนต์ ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อรถยนต์ โดยบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในระยะเวลาเอาประกันภัย รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์
2.2 ความเสียหายส่วนแรก เงื่อนไขของผู้เอาประกันภัยจะเข้าร่วมรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจำนวนเงินที่ระบุในกรมธรรม์ สำหรับกรณีที่รถคันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายก่อให้เกิดความเสียหาย
2.3 รถยนต์สูญหายไฟไหม้ การสูญหายจะรวมถึงการสูญหายทั้งคัน สูญหายบางส่วน สูญหายจากการลักทรัพย์ของลูกจ้าง หรือบุคคลใดเป็นผู้ลักทรัพย์ก็ตาม การเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้ด้วยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่นใดก็ตาม
3. ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (อนุสัญญาแนบท้าย)
3.1 อุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองความบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารรถยนต์คันเอาประกันภัย หากความบาดเจ็บที่ได้รับเป็นผลให้บุคคลนั้นเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร หรือทุพพลภาพชั่วคราว โดยบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
3.2 ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองความบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของบุคคลที่อยู่ในรถยนต์คันเอาประกันภัย หากความบาดเจ็บเป็นผลให้ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าโรงพยาบาล ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
3.3 การประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีที่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย นำรถยนต์คันเอาประกันภัยไปใช้และเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นผลให้ถูกควบคุมตัวไว้ในคดีอาญา ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน พนักงาน อัยการ หรือศาล (จนถึงศาลฎีกา) โดยบริษัทต้องทำการประกันตัวผู้เอาประกันภัย หรือผู้ขับขี่โดยไม่ชักช้า ในวงเงินไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
4. ส่วนลดระบุอายุผู้ขับขี่ เป็นการคุ้มครองความรับผิดหรือความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันกันภัย ในกรณีที่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ (กรณีถ้าไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยต้องเข้าร่วมรับผิดต่อความเสียหาย) เฉพาะรถยนต์ที่ใช้ส่วนบุคคลเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 4 ระดับอายุ คือ
ช่วงอายุ 18 – 24 ปี ส่วนลด 5%
ช่วงอายุ 25 – 35 ปี ส่วนลด 10%
ช่วงอายุ 36 – 50 ปี ส่วนลด 15%
ช่วงอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
5. ส่วนลดความเสียหายส่วนแรก เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย สำหรับค่าความเสียหายส่วนแรกของทรัพย์สินบุคคลภายนอก และ/หรือความเสียหายส่วนแรกของความเสียหายต่อรถยนต์
6. ส่วนลดกลุ่ม กรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยกลุ่ม 10%
7. ส่วนลดประวัติดี ส่วนลดตามหลักเกณฑ์ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี ซึ่งคำนวณจากประวัติปีที่ผ่านมา
ตัวอย่างเงื่อนไข ประกันรถยนต์ชั้น1 ของแต่ละบริษัทฯ
asnbroker,%bb%c3%d0%a1%d1%b9%c0%d1%c2%c3%b6%c2%b9%b5%ec%aa%d1%e9%b91.jpg เรียบเรียงโดย : Asn Broker
บทความที่เกี่ยวข้อง : Asn Broker Blog OK Nation , Asn Broker Exteen , Asn Broker BlogSpot , Asn Broker Blog

การดูแลรักษาภายในรถยนต์

การดูแลรักษาภายในรถยนต์

การทำความสะอาดเบาะ
 ควรดูว่าวัสดุหุ้มเบาะเป็นผ้าหรือหนัง (หนังแท้หรือหนังเทียม) เพราะวัสดุทั้งสองชนิดมีข้อดี ข้อเสียต่างกันคือ เบาะผ้าจะดูแลทำความสะอาดยากกว่า แต่จะไม่เก็บความร้อนในขณะจอดรถตากแดด ส่วนหนังแท้หรือหนังเทียมจะดูแล ทำความสะอาดง่าย แต่จะเก็บความร้อนได้มากกว่าแบบผ้า ดังนั้นจึงควรเลือกวิธี ทำความสะอาดให้เหมาะสมก่อนเริ่มทำความสะอาด
ให้นำรถมาจอดไว้ในที่โล่งแจ้ง และมีแสงสว่าง เปิดประตูและกระจกหมดทั้ง 4 บาน ใช้ไม้ตีที่ทำมาจากหวาย (มีจำหน่ายตามร้านหวายทั่วไป) มาตีเบาะและพนักพิงให้ทั่วทั้งเบาะหน้าและหลัง ผู้ทำความสะอาดควรอยู่ต้นลมเพื่อป้องกันไม่ให้สูดดมฝุ่นที่ฟุ้งกระจายออกมาการทำความสะอาดเบาะหนังแท้หรือหนังเทียม
ควรใช้น้ำยาขัดเงา ทำความสะอาดเบาะ โดยใช้ผ้า หรือฟองน้ำจุ่มน้ำยาขัดเงาขัดคราบสกปรกให้ทั่ว จุ่มน้ำยาแต่น้อยเพื่อป้องกันการเหนียวเหนอะหนะ และน้ำยาชนิดนี้ยังสามารถนำมา ทำความสะอาดแผงหน้าปัดและแผงประตูได้เช่นกัน คุณสมบัติของน้ำยาจะช่วยทำให้ พื้นผิวหน้าสะอาดปกป้องฝุ่นไม่ให้จับติดแน่น ป้องกันการซีดจางกรอบแห้งแตกร้าวจากแสงแดดเผา และช่วยเพิ่มความเงางามให้ดูเหมือนใหม่ตลอด สำหรับพรมพื้นรถ ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ในรถ หรือเครื่องดูดฝุ่นบ้านมาดูดฝุ่นตามที่ต่างๆ แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว หรือมีฝุ่นไม่มาก ใช้กระดาษกาวมาพันรอบปลายนิ้วมือ 1 รอบโดยให้กระดาษกาวส่วนที่มีความเหนียวที่สามารถจับติดกับสิ่งอื่นอยู่ด้านนอก นำมาเก็บสิ่งต่าง ๆ เช่น เศษขนม เม็ดดิน เม็ดทราย หรือเส้นผมที่ตกหล่นบนพรมพื้นรถหลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เครื่องปรับอากาศภายในรถ
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องรู้จักวิธีการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้แก่ผู้ขับขี่ เพราะมิฉะนั้นอาจเกิดกลิ่นอับในรถได้ การเกิดกลิ่นอับในรถมักเกิดจากเครื่องปรับอากาศทำงานจนมีอุณหภูมิต่ำจนเกิด หยดน้ำสะสมภายในตู้คอยล์เย็นเป็นจำนวนมาก น้ำบางส่วนจะไหลออกมาทางท่อน้ำทิ้ง แต่ยังมีน้ำบางส่วนยังเหลือตกค้างอยู่ภายในตู้คอยล์เย็น ทำให้เกิดการอับชื้น และเกิดเชื้อราขึ้นได้ สำหรับกลิ่นเหม็นอับนี้ยังอาจเกิดได้จากการนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามารับประทาน ในรถหรือจากการสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่ไว้ในที่เขี่ยบุหรี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งอยู่ ใต้แผงวิทยุ และแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศโดยมากจะไม่มีฝาปิด ควันบุหรี่และ กลิ่นอาหารสามารถแพร่กระจายไปทั่วห้องโดยสาร และไปเกาะติดตามอุปกรณ์ต่าง ๆ หมุนวนเข้าไปในตู้คอยล์เย็นทำให้เกิดกลิ่นอับการใช้และการบำรุงรักษา ระบบปรับอากาศในรถยนต์
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันอากาศในเมืองไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ และความร้อนนี้ยังส่งผลต่อระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารของรถยนต์ ดังนั้นเพื่อลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสาร เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องทำงานหนัก สำหรับรถใหม่เครื่องปรับอากาศยังใช้งานได้ดี แต่เมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน (ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพการใช้งาน) ประสิทธิภาพในการให้ความเย็นจะลดลง ดังนั้น ผู้ใช้รถจึงควรรู้จักวิธีใช้ และการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อถนอมและรักษาอายุการใช้

วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง 
ทุกครั้งที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุม คอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ในลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อน ที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ต เมื่อเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่อง ปรับอากาศก่อน โดยปรับไปที่ตำแหน่งความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนออกจาก ช่องปรับอากาศ หลังจากนั้นจึงเปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึงปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลม และสวิตช์ควบคุมระดับความเย็น ลงสู่ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ เมื่อเลิกใช้งาน ก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ ควรปิดสวิตช์ คอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ก่อนเพื่อหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ แต่ยังคงเปิดสวิตช์พัดลงแอร์ไว้ในตำแหน่งที่แรงสุด เพื่อให้พัดลมแอร์เป่าลมผ่านตัวคอยล์เย็น หรือที่รู้จักกันดีว่า "ตู้แอร์" ซึ่งตัวคอยล์เย็นนี้จะมีสภาพที่เปียกชื้น และมีหยดน้ำมาเกาะอยู่ ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน และเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นให้เร็วขึ้น วิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวคอยล์เย็นให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น
สำหรับปัญหาการเกิดกลิ่นอับที่ออกมาจากช่องปรับอากาศ
สามารถแก้ไขได้โดย จอดรถในที่โล่งแจ้ง ที่แดดส่องได้อย่างทั่วถึง จากนั้นเปิดประตูรถให้หมดทุกบาน จอดรถตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ากลิ่นอับจะจางหายไป แต่ถ้ากลิ่นอับยังคงรุนแรงเหมือนเดิม ควรนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน อย่างไรก็ดี การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นอับภายในห้องโดยสารน่าจะเป็นการดีกว่าแก้ไข โดยหลีกเลี่ยงการนำเอาอาหารเข้าไปรับประทานภายในรถ โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน เป็นต้น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมปรับอากาศ การสูบบุหรี่ในรถ การขับรถเปิดกระจก เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คอยล์เย็นหรือตู้แอร์สกปรก และอุดตันเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งเกิดกลิ่นอับอันเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ด้วยเช่นกันเลี้ยงไข้แอร์
คนมีรถทั้งหลายชอบนัก ปรับปุ่มแอร์รถยนต์ไปที่ขีดหนาวสุดตลอดเวลา มีผลให้ตู้แอร์ใต้คอนโซลหน้ารถผุ น้ำยาแอร์รั่วซึมจนกลายเป็นช่องทางให้ช่างแอร์ใช้ตุ๋นเงินจากกระเป๋าเราวิธีตุ๋นไม่มีอะไรมากมาย เป็นวิธีพื้น ๆ ธรรมดาทั่วไป ใครเคยเอารถไปซ่อมแอร์จะเจอประจำ ถ้ารู้ไม่ทัน ...เจอช่างเลี้ยงไข้แอร์ เราเจอปัญหาตู้แอร์ผุ น้ำยาซึม แอร์ในรถไม่เย็นขับรถไปให้ช่างดู ช่างจะเปิดกระโปรงรถตรวจวัดโน่นดูนี่อันแรกที่ช่างชอบเช็ก ตรวจดูว่าท่อแอร์รั่วหรือเปล่า ถ้าจอดรถทิ้งไว้ให้ช่างซ่อม ไม่นั่งเฝ้ากลับมาช่างบางรายอาจจะมีรายการลักไก่ บอกอาการว่า ท่อแอร์รั่วเปลี่ยนท่อให้ใหม่พร้อมกับเติมน้ำยาแอร์ให้เสร็จสรรพ...เอารถกลับไปใช้ได้ไม่กี่วันแอร์ไม่เย็น ต้องกลับมาเสียเงินใหม่ แต่ถ้าเจอช่างมีจรรยาบรรณหน่อย เอาเปรียบน้อยหน่อย จะบอกแต่เพียงว่า น้ำยาแอร์หมดหรือไม่ก็เสื่อมสภาพ ช่างจะแก้ปัญหาด้วยการเติมน้ำยา แอร์ให้ใหม่ ใช้ได้ไม่กี่วัน ก็ต้องกลับไปหาช่างอีกรอบอยู่ดี เพราะตู้แอร์ยังรั่วอยู่เหมือนเดิม เหตุที่คนใช้รถอย่างเราต้องมาเจอปัญหาอย่างนี้บ่อย คุณพี่ไพรัช แพรคล้าย ผู้จัดการแผนกเทคนิค ฝ่ายบริการ ค่ายมิตซูบิชิ บอกว่าเป็นเพราะโดยปรกติทั่วไป ช่างแอร์ส่วนใหญ่จะไม่ชอบตรวจหารอยรั่วตรงตู้แอร์ เนื่องจากขั้นตอนในการรื้อ ตรวจหารอยรั่วตรงตู้แอร์ยุ่งยากกว่าตรวจตรงจุดอื่น ช่างแอร์จึงเอาง่ายเข้าว่า แถมทำแบบนี้ยังได้เงินค่าเติมน้ำยาแอร์จากเราบ่อย ทำง่ายกว่า... เลี้ยงไข้ได้เงินเยอะกว่า ช่างแอร์เลยชอบ ถ้าไม่อยากเสียเงินเติมน้ำยาแอร์ถี่
ควรให้ช่างตรวจหารอยรั่วตรงตู้แอร์ด้วย เจอผุ มีรอยรั่วซึม ทางที่ดียอมตัดใจควักเงิน ซื้อตู้แอร์มาเปลี่ยน จะดีกว่าให้ช่างอุดซ่อมค่ะเจอช่างเลี้ยงไข้วิธีนี้ "แม่ทองต่อ" ขอบอกว่า ไม่เพียงแต่จะทำให้เราต้องเสียเงินค่าเติมน้ำยาแอร์บ่อยเพียงอย่างเดียวเติมน้ำยาแอร์บ่อย ๆ ถ้ารู้ไม่ทัน เป็นเจอช่างวางยาเลี้ยงไข้ขยายโรคร้ายให้ระบบแอร์ เพราะคุณพี่ไพรัช กระซิบบอกมาว่า ทุกครั้งที่เติมน้ำยาแอร์ ต้องให้ช่างเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้ทุกครั้งเหมือนกันช่างส่วนใหญ่มักจะทำเป็นลืม เติมให้แค่น้ำยาแอร์อย่างเดียว ไม่ยอมเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์เจอ อย่างนี้ ไม่คอยเตือนความจำช่าง เตรียมตัวเตรียมใจ เสียเงินค่ารักษาโรคใหม่ให้แอร์ได้เลยครับ

เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
 
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
 
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

ทดสอบรถยนต์สปอร์ตไฮบริด Honda CRZ ตอนแรกกับการรีวิว รูปลักษณ์ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง

ทดสอบรถยนต์สปอร์ตไฮบริด Honda CRZ ตอนแรกกับการรีวิว รูปลักษณ์ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ช่วงล่างและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบนเทคโนโลยี Hybrid IMA

Honda Motor จงใจสร้าง CRZ เพื่อต้องการให้มันเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมยานยนต์ยุคใหม่ รวมถึงมีความล้ำสมัยเกินหน้าเกินตารถยนต์เครื่องยนต์ลูกผสมแบบเบนซินบวกมอเตอร์ไฟฟ้าหรือ Hybrid ที่มีอยู่ทั่วไป โครงการรถ Sport Hybrid จะเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจในเทคโนโลยีของการขับเคลื่อนยุคใหม่ มันคือยนตรกรรมสองที่นั่ง แม้จะมีเบาะหลังแต่ไม่เหมาะกับการนั่งเอาเสียเลย ซึ่งนำเอาการขับขี่แบบประหยัดมาผสมผสานกับความเป็นรถสปอร์ตที่ปราดเปรียวได้อย่างลงตัว ด้วยรูปทรงและกำลังของเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมแกนกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผ่านการควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ที่โปรแกรมมาเพื่อการขับสองรูปแบบ และมันทำได้อย่างที่ีคุยเอาไว้จริงๆ

รูปทรงที่เกินหน้าเกินตารถประหยัดพลังงานทั่วไป ทำให้ CRZ มีความเป็นเอกลักษณ์ทางตัวตนสูงกว่ารถรุ่นอื่นๆ ของค่าย Honda ยกเว้นรถในตระกูล Type R ซึ่งร้อนแรงกว่า การออกแบบด้านหน้าที่ใช้กระจังหน้าทรงเหลี่ยมซึ่งเป็นชิ้นงานสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ครอบส่วนหน้าของรถไว้ทั้งหมด ตะแกรงพลาสติกสีดำทรงรังผึ้งบ่งบอกถึงมาดสปอร์ตที่มันต้องการจะสื่อสารกับคนทั่วไป ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ยังมีเลนส์พลาสติกสีฟ้าอมน้ำเงินที่มีความสวยงาม แก้มข้างท่ี่โป่งออกมามากกว่าปกติทำให้ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้วดูเล็กไปถนัดใจ 

โครงสร้างทั้งหมดของ Honda CRZ มาจากโครงแชสซีส์ของรุ่น Insight ความยาวของฐานล้อถูกตัดออกไป 115 มิลลิเมตรเพื่อความกระชับของตัวถัง ส่วนขนาดของความกว้าง วิศวกรของ Honda เพิ่มระดับของความกว้างฐานล้อออกไปอีก 25 มิลลิเมตรเพื่อระดับที่ดีของการยึดเกาะกับผิวถนน ฐานล้อที่กว้างขึ้นส่งผลไปถึงการควบคุมที่ดีขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้านข้างของตัวรถจะเห็นแนวหลังคาที่ลาดลงด้านหลัง พร้อมกับเส้นนำสาบตาคมๆ จากแก้มข้างไล่สูงขึ้นไปจนถึงกระจกบานหลังขนาดเล็ก บานประตูออกแบบได้ดีและค่อนข้างลงตัวมากเมื่อรวมกับเส้นสายของด้านข้าง กระจกมองข้างสีเงินมีหลอดไฟเลี้ยวแบบ LED อยู่ภายใน โป่งข้างด้านหน้าที่ว่าใหญ่ยังดูเล็กลงเมื่อเทียบกับโป่งของล้อหลังที่บวมพองออกแบบมาสำหรับกระทะล้อขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งหลากสำนักที่โมเครื่อง 1.4 ลิตรของ CRZ ให้มีม้ามากถึง 200 ตัว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปเพิ่มขนาดของหน้ายางให้โตขึ้นเพื่อการทรงตัวที่ดี ล้อแม็กซ์อะลูมินั่มอัลลอยขอบ 16 นิ้วลายห้าก้านคู่แบบพื้นๆ ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางสมรรถนะสูงแต่แข็งเป็นหินของ Bridgestone รุ่น Potenza RE 050 Run Flat มันคือยางแก้มแข็งโป๊กที่สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ลมยางจะอ่อนหรือรั่วออกมาจนหมด 

ไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมใช้หลอด LED วางตัวเป็นระเบียบในกรอบโพลิเมอร์สีแดงสลับขาว ไฟท้ายของ CRZ คือจุดที่เชื่อมโยงมุมมองของสัดส่วนบั้นท้ายที่ทำให้มันดูดีจนไปคล้ายกับรถต้นแบบแนวคิดหรือ Concept Car มากจนเกินพอดี กระจกบานหลังแบบสองชิ้น กระจกบานบนไล่จากหลังคาลงมาต่อกับกระจกบานล่างจากความกล้าหาญของการออกแบบที่ล้ำมากๆ กระจกบานหลังมีใบปัดน้ำฝนติดมาให้ครบ กันชนหลังหรือสปอยเลอร์หลังขนาดมหึมา ชายล่างของกันชนหลังยังมีชิ้นงานที่ออกแบบให้การจัดเรียงอากาศส่วนท้ายมีความเป็นระเบียบตามหลักการแอร์โรไดนามิกส์ พร้อมแถบพลาสติกสะท้อนแสงสีแดง สปอยเลอร์หลังที่ใหญ่โตสอดรับกับส่วนท้ายที่คอดลงของ CRZ คล้ายกับรูปทรงของหยดน้ำ

เครื่องยนต์ของ Honda CRZ Hybrid เป็นเครื่องเบนซินแถวเรียงสี่กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 1,497 ซีซี 16 วาว์ล iVTEC เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กสมรรถนะดีที่ยกมาจาก Honda Jazz เวอร์ชั่นอเมริกา เครื่องยนต์ทำงานในระบบ Hybrid IMA Integrated Motor Assist ร่วมแกนกับมอเตอร์ ตัวมอเตอร์เสริมกำลังถูกติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ แบตเตอรี่ของ CRZ เป็นแบบ Matal Hydride วางอยู่ส่วนท้ายของรถใต้ห้องเก็บสัมภาระ เครื่องยนต์ของ CRZ ให้กำลัง 113 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 144 นิวตันเมตรหรือ 14.7 กิโลกรัมเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที เมื่อรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรง กำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 124 แรงม้า อัตราส่วนกำลังอัด 10.4:1 และมีความกว้างกระบอกสูบคูณช่วงชักที่ 73.0x89.4 มิลลิเมตร มอเตอร์ไฟฟ้ามีเรี่ยวแรงประมาณ 13 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 92 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังของ CRZ ใช้เกียร์ไฟฟ้าสายพานแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT ระบบบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ระบบเบรกด้านหน้าจานดิสเบรกพร้อมช่องระบายความร้อน เบรกหลังมีขนาดของจานเล็กลง พร้อมระบบช่วยเบรก ABS ชุดกันสะเทือนด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง สปริงของ CRZ มีระยะยุบหรือยืดตัวน้อยกว่าปกติ เพื่อทำให้ความรู้สึกในการขับขี่แบบสปอร์ต ถูกส่งตรงไปยังข้อมือของผู้ขับขี่ได้อย่าางรวดเร็ว ส่วนกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม 

ระบบขับเคลื่อนของ CRZ เป็นรถ Hybrid ในแบบที่กำลังของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะถูกส่งไปขับเคลื่อนล้อคู่หน้าพร้อมๆ กัน หรือตัดการทำงานเหลือเพียงการส่งถ่ายกำลังด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว พร้อมกับโหมด Auto Start-Stop ที่จะดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะตัวรถจอดสนิท การควบคุมที่ดีของ CRZ เกิดจากจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำในตำแหน่งของการวางเครื่องยนต์ รถทั้งคันมีน้ำหนักรวม 1,147 กิโลกรัม น้ำหนักของ CRZ อยู่ในระดับเดียวกันกับ MINI Cooper แถมยังมีคาแรกเตอร์ที่ใกล้เคียงกันมากในด้านการขับขี่ควบคุมจากระยะของฐานล้อและความสูง วิศวกรของ Honda ให้ความสำคัญในด้านความเสถียรของตัวรถอย่างสูงสุด โดยวางชุดแบตเตอรี่ไว้ให้ต่ำมากที่สุด เครื่ีองยนต์ของมันมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำมากกว่า Civic Type R และวางตัวเองอยู่ในระดับที่ต่ำมากที่สุดเท่าที่จะวางลงไปได้ ฝาสูบแบบสี่วาล์วต่อสูบของมันยังมีกลไกพิเศษ ในรอบต่ำ วาล์วไอดีจะเปิดเพียงตัวเดียวเท่านั้นและกลายเป็นเครื่องยนต์ 12 วาล์ว เพื่อช่วยในการเผาไหม้และการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ

Cockpit ของ Honda CRZ ออกแบบในแนวทางล้ำอนาคต รูปแบบคอนโซลสันเหลี่ยมจัดวางอุปกรณ์ได้แหวกแนว ช่องแอร์สี่เหลี่ยมเข้ากันได้ดีกับช่องกลมของมาตรวัดรอบแบบเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลของระบบต่างๆ Multi Information Display สวิตช์ปรับโหมดการขับสามรูปแบบที่มีแถบเรืองแสงสีฟ้าอยู่ภายใน มาตรวัดความเร็วซ้อนทับอยู่ตรงใจกลางของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ แจ้งความเร็วแบบดิจิตอลด้วยตัวเลขที่คมชัด และอ่านค่าได้ง่าย ปุ่มควบคุมอุณหภูมิ ปุ่มปรับความเร็วของพัดลมภายในห้องโดยสาร การสตาร์ตเครื่องยนต์ใช้กุญแจเสียบแล้วบิดแทนที่จะเป็นสวิตช์ Start -Stop On-Off เหมือน CRZ ที่วางขายในยุโรป เบาะนั่งห่อหุ้มด้วยผ้าสีดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้าโทน Hybrid ให้อารมณ์สปอร์ตแบบเต็มพิกัด แต่คนรูปร่างใหญ่คงต้องพบกับความอึดอัด เนื่องจากความกระชับของตัวเบาะที่บีบรัดด้านข้าง เบาะปรับด้วยมือโดยไม่มีระบบปรับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คอนโซลกลาง วางจอมัลติฟังก์ชั่นของระบบเครื่องเสียง ระบบนำทางและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียม ใช้งานผ่านเมนูภาษาไทย ส่วนซุ้มเกียร์ออโต้ไฟฟ้า CVT อัตราทดแปรผัน มีคันเกียร์น่าตาแปลกๆ กับช่องวางแก้วและคันเบรกมือที่อยู่ใกล้กับมือซ้ายของคนขับ 

แป้นคันเร่งเบรก และที่พักเท้าใช้วัสดุพวกอะลูมินั่มอัลลอย แผงประตูมีช่องวางแก้วและช่องเก็บของกระจุกกระจิก เบาะผู้โดยสารตอนหลังเหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือใช้วางของมากกว่าจะให้ผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างปกตินั่งลงได้โดยไม่อึดอัด หลังคาที่ลาดลงกับพื้นที่ส่วนวางเท้าของเบาะหลังที่มีอยู่เพียงนิดเดียว ทำให้การนั่งที่เบาะด้านหลังค่อนข้างยากลำบาก แต่เมื่อพับเบาะ เจ้าของรถก็จะได้พื้นที่ในการขนของมากยิ่งขึ้น โดยสามารถวางกระเป๋าหรือถุงกอล์ฟใบใหญ่ได้อย่างจุใจ พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนังแท้สีดำเย็บด้วยด้ายสีฟ้า ขนาดของวงพวงมาลัยเล็กกว่า Civic และ City เล็กน้อย และถึงแม้ว่าระบบส่งกำลังหรือเกียร์จะเป็นแบบพูเล่ย์สายพาน CVT แต่วิศวกรของ Honda ยังคงคาแรกเตอร์รถสปอร์ตเอาไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยการติดตั้งแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ด้านหลังของก้านพวงมาลัย มาตรวัดของ CRZ มีความทันสมัยและสามารถเปลี่ยนสีสันไปตามโหมดและความเร็วของรอบเครื่องยนต์ รุ่นเกียร์ธรรมดาเวอร์ชั่นยุโรปจะมีไฟเตือนการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ติดมาให้ แต่สำหรับรุ่นที่ Honda Automobile นำเข้ามาทำตลาดนั้นเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT แจ้งเตือนตำแหน่งของเกียร์อัตราทดแปรผันผ่านจอเล็กๆ ใกล้กับมาตรวัดรอบ ห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายมีความจุประมาณ 225 ลิตร พื้นที่ค่อนข้างตื้นเนื่องจากด้านล่างมีแบตเตอรี่ของระบบ Hybrid วางอยู่ ความฉลาดทางการจัดวางรูปแบบและองค์ประกอบของห้องโดยสารใน Honda CRZ จึงอยู่ที่ด้านหน้ามากกว่า เน้นไปที่การมองเห็นมากกว่าการสัมผัส ห้องโดยสารของ CRZ จึงดูดีแม้จะใช้วัสดุระดับปานกลางขณะเดียวกันกับที่ค่ายรถอื่นๆ พยายามใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง แต่กลับให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้มราคา

เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
 
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
 
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์