ประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งคุ้มครองและปกป้องยามเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ด้วยข้อกำหนดอันมากมายของกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละแบบที่ทำให้เราอาจสับสนได้ บทความนี้จะอธิบายข้อควรรู้ต่างๆ ของประกันภัยรถยนต์เก่า ที่จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกได้ถูกใจที่สุด
เริ่มอย่างไรกับประกันภัยรถยนต์เก่า?ศึกษาข้อมูลของรถยนต์ที่จะทำ
ประกันภัยว่าเป็นยี่ห้อ ขนาดเครื่อง ชนิดรถ อายุของรถ และ
ประกันภัยเดิมนั้นเป็นรูปแบบใด ถ้าความต้องการของคุณคือ
ประกันภัยชั้น 1 บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะรับคุ้มครองรถอายุตั้งแต่ 1-10 ปี (หรือไม่เกิน 8 ปี สำหรับบางรูปแบบ) แต่มีข้อยกเว้นสำหรับรถที่
ประกันภัยกับบริษัทเดิมอาจได้สิทธิ์ต่ออายุ
ประกันภัยอีก ในกรณีที่อายุรถมากกว่า 10 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของบริษัทที่จะรับต่ออายุหรือไม่ รวมทั้งคิดเบี้ยประกันที่อัตราสูงขึ้น นั่นทำให้เราต้องจ่ายแพงกว่ารถปกติทั่วไป ดังนั้นควรสอบถามรายละเอียดและตรวจสอบการประเมินราคากรมธรรม์ชนิดต่างๆ กับตัวแทนหรือบริษัทประกันภัยให้เข้าใจถูกต้องก่อนจะเลือกแบบใด
รถมีอายุมากแล้วจะทำประกันภัยที่มีการคุ้มครองหลายด้านได้หรือไม่?แน่นอน ความคุ้มครองต่างๆ ยังคงอยู่ครบถ้วนแต่เบี้ยกรมธรรม์เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ถ้ารถของคุณมีอายุมากเกินกว่าที่บริษัทกำหนดสำหรับประกันภัยชั้น 1 หรือบริษัทประกันภัยเดิมปฏิเสธที่จะต่ออายุให้ เราก็ยังมีทางเลือกอื่นๆ ที่ครอบคลุมและเหมาะสมทดแทนได้ เช่นประกันชั้น 2 และชั้น 3 แบบพิเศษ สำหรับการคุ้มครองเพิ่มเติม ที่ให้การคุ้มครองครอบคลุมตามรูปแบบที่ต้องการ ในเบี้ยประกันที่คุณรับได้
เลือกแบบไหนดี ที่เหมาะกับเราที่สุดประกันชั้น 1 สำหรับรถเก่าอาจมีราคาสูงเกินไป ดังนั้นการเลือกประกันภัยชั้น 2 และชั้น 3 ดูจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า ถ้าต้องการความคุ้มครองครองเพิ่มเติม ก็อาจจะเลือกแบบพิเศษเช่น ประกันภัยชั้น 2 พิเศษ ที่มีทุนประกันตั้งแต่ 400,000-700,000 บาท ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาท ต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาท และค่าประกันตัวสู้คดีรวมถึงการคุ้มครองอื่นๆ เช่น น้ำท่วม หรือประกันภัยชั้น 3 พิเศษ ที่มีค่าสินไหมทดแทนคล้ายกับ ชั้น 2 พิเศษ แต่จะมีทุนประกันลดลงระหว่าง 100,000-200,000 บาท ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมเช่นนี้ ทำให้เราต้องเสียค่ารับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 2,000-5,000 บาท เมื่อเกิดอุบัติเหตุ(ขึ้นอยู่กับรูปแบบกรมธรรม์) ให้กับบริษัทประกันภัยด้วย
ประกันภัยรถยนต์แบบปกติและ พ.ร.บ. จะดีเพียงพอหรือไม่? ในกรณีที่เราไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากเมื่อเราครอบครองรถยนต์ประเภทใดจะต้องมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับตามที่กฎหมายกำหนด เสมอหรือที่เรียกกัน ว่า พ.ร.บ. เพื่อคุ้มครองผู้ขับขี่และบุคคลอื่น เช่น ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต 200,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท ทั้งนี้ไม่รวมสินไหมทดแทนเบื้องต้นที่ไม่ต้องรอการพิสูจน์อย่างค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท และเสียชีวิต 35,000 บาท ถ้าคุณเป็นคนใช้รถน้อยและสามารถจัดการส่วนเสียหายของตัวเองและคู่กรณีได้ การซื้อ พ.ร.บ. จะเป็นแนวทางที่ประหยัดที่สุด ส่วนประกันภัยแบบปกติเช่น ชั้น 2 และชั้น 3 นั้น มีความคุ้มครองที่เพียงพอเช่นกัน แต่มีส่วนยกเว้นเช่น รถหาย ไฟไหม้ ทรัพย์สินบุคคลที่ 3 หรือคุ้มครองการซ่อมของผู้เอาประกันภัย รวมถึงทุนประกันที่ลดลง เมื่อเรามี พ.ร.บ. และกรมธรรม์แบบต่างๆ แล้วก็มั่นใจได้อย่างเต็มว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างที่เราต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละคนและการใช้งานเป็นหลักว่าต้องการแบบใด เท่านี้คุณก็จะได้ประกันภัยรถยนต์เก่าที่ใช่และสบายกระเป๋าที่สุด
ที่มา:http://ska1.postjung.com/1523920-blog-188613.html
ที่มา http://www.pattanakit.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น