วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

นายกฯ สั่งลดราคาสินค้าทั้งระบบ พาณิชย์เร่งตรวจต้นทุนสินค้า ผู้ขายวอนไม่สามารถลดได้

นายกฯ สั่งลดราคาสินค้าทั้งระบบ พาณิชย์เร่งตรวจต้นทุนสินค้า ผู้ขายวอนไม่สามารถลดได้
นายกฯ สั่งลดราคาสินค้าทั้งระบบ พาณิชย์เร่งตรวจต้นทุนสินค้า ผู้ขายวอนไม่สามารถลดได้

 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงฯจะเชิญผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และห้างสรรพสินค้ามาหารือ เพื่อหาทางปรับลดราคาสินค้าตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามต้นทุนราคาสินค้าทั้งระบบ และหากพบว่าต้นทุนมีการปรับลดลงก็ต้องหาทางให้สินค้าลดราคาลงมาด้วย โดยเฉพาะต้นทุนจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
 ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าทุกรายการแล้ว เบื้องต้นพบว่า สินค้าที่มีน้ำหนักบรรทุกมากและเป็นชิ้นใหญ่ จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ลดลง เช่น ปูนซิเมนต์ เหล็ก วัสดุก่อสร้าง เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมี เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการขอให้ผู้ผลิตปรับลดราคาจำหน่ายลงมาแล้ว แต่หากพบว่าต้นทุนลดลงจนสามารถปรับลดราคาลงได้อีก ก็จะขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาต่อไป
 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสินค้าบางรายการ แม้ต้นทุนในการผลิตจะลดลงจากราคาน้ำมัน แต่ก็มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบนำเข้า เช่น ปุ๋ยเคมี เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่า หรือเหล็ก ที่ขณะนี้มีการประกาศใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาให้รอบด้าน เพราะกระทรวงฯ ต้องดูแลทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค ให้ได้รับความเป็นธรรม
 สำหรับราคาอาหารปรุงสำเร็จ ขณะนี้ราคาส่วนใหญ่ทรงตัว ไม่ได้มีการปรับขึ้น เพราะวัตถุดิบในการปรุงอาหารไม่ได้สูงขึ้น แต่ยอมรับว่าอาหารที่บริโภคภายในห้าง มีราคาแพงกว่าที่บริโภคนอกห้าง เพราะมีต้นทุนแฝงหลายๆ ตัวที่ทำให้ต้นทุนการขายสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการหารือกับห้าง เพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ ปรับลดส่วนแบ่งการขาย และลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้กับผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้า เพื่อดึงราคาอาหารให้ลดลง
 “จะหารือกับห้าง โดยขอให้คิดว่าการจำหน่ายอาหาร เป็นบริการเสริมที่ห้างจะนำมาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าห้าง ไม่ใช่เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหากำไร เพราะธุรกิจหลักของห้างเป็นการจำหน่ายสินค้าและบริการ ส่วนการจำหน่ายอาหาร ก็อยากให้เป็นบริการเสริม ที่จะเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่มาซื้อของและใช้บริการในห้าง แต่กระทรวงฯอยากแนะนำให้ผู้บริโภครู้จักฉลาดซื้อประหยัดใช้ด้วย”นางอภิรดีกล่าว
 นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้จัดเตรียมแผนงานและแนวทางการดูแลค่าครองชีพ รวมทั้งแผนการส่งเสริมและผลักดันการส่งออก และการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลัง นำเสนอต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมและมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 2 ก.ย.นี้
 นางอภิรดี กล่าวว่า กระทรวงฯได้ปล่อยขบวนรถยนต์บรรทุกข้าวถุงตามโครงการข้าวถุงเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นข้าวในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1,000 ตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุงขนาด 2 กก. จำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด มีทั้งข้าวขาว 5% จำหน่ายราคา 30 บาทต่อถุง ข้าวสารเหนียว 10% จำหน่ายราคา 50 บาทต่อถุง หรือมีจำนวนรวม 5 แสนถุง โดยจะจำหน่ายผ่านสหกรณ์ทั่วประเทศ 58 จังหวัด เพื่อให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยได้บริโภคข้าวสารในราคาถูก โดยกระทรวงพาณิชย์การันตีถึงคุณภาพข้าวบรรจุถุง และยินดีให้ส่งคืน หากพบว่าข้าวไม่ได้มาตรฐาน
 ด้าน นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า แม้ราคาน้ำมันจะลดแต่ผู้ประกอบการไม่สามารถลดราคาสินค้าลงได้ เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนการผลิตเพียงแค่ 2-3% เท่านั้น
 นอกจากนี้ ราคาขายปลีกน้ำมันที่ลดลงลิตรละ 2-3 บาท แทบไม่ทำให้ต้นทุนผลิตสินค้าลดลงเลย และที่ผ่านมาผู้ผลิตได้จัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม สู้กับเศรษฐกิจชะลอตัวไปมากแล้ว จึงไม่สามารถลดราคาสินค้าลงไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว

ที่มา http://www.asnbroker.co.th/news.php?id=746

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น