วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สาวไทยในอเมริกา ประสบเหตุรถชน แชร์เรียกร้องความเป็นธรรม ในระบบภาคดูแล

สาวไทยในอเมริกา เรียกร้องความเป็นธรรม ในระบบภาคดูแลผู้ประสบเหตุรถชน
สาวไทยในอเมริกา ประสบเหตุรถชน แชร์เรียกร้องความเป็นธรรม ในระบบภาคดูแล

 เจ้าของกระทู้นามว่า ขายซาเล๊งไปเซ็งร้านทอง ตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ การทำงานของภาคเกี่ยวข้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนในอเมริกา
 ASN Broker มิได้ต้องการวิพากษ์หรือวิจารณ์ใคร เพียงแต่นำเรื่องราวที่แชร์ในบอร์ดสาธารณะ มาให้อ่านเพื่อเปิดโลกทัศน์และพิเคราะห์ด้วยตัวท่านเอง
 โดยเจ้าของกระทู้ ประสพเหตุรถชนจนทำให้เข้าโรงพยาบาล โดยเริ่มต้นไม่มีผู้ใดตามเรื่องคนผิดให้ หรือแม้แต่ประกันของคู่กรณีในอเมริกา
**********************************
 กว่า 80วันหลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการที่ต้องตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุชนแล้วหนี (Hit-and-Run)โดยที่ตลอดเวลาไม่สามารถทำงานได้และไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ นอกจากไม่มีเงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียวแล้วคดีความก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ฉันเฝ้าพยายามโทรฯติดต่อตำรวจเพื่อรับทราบความคืบหน้าของคดีแต่ไม่เคยได้ข้อมูลอะไร ไม่มีการโทรฯกลับ บางทีก็โดนกระแทกสายใส่ บางทีก็เจอคำถามที่ทำให้ เจ็บ จุกจนตัดสินใจเลิกโทรฯ ปลงและพยายามปล่อยวาง

 ผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีรายได้อื่นใดและภาระลูกที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยสองคน สภาพร่างกายที่บอบช้ำและอาการ Herniated Disc ตั้งแต่ C-1 ไปจนถึง L-5 สภาพจิตใจย่ำแย่จนสุดจะบรรยายฉันได้ตัดสินใจส่งหนังสือร้องทุกข์ไปที่ออฟฟิศของ Mayor ประจำ County ที่ฉันมีถิ่นอาศัยอยู่ ปาฎิหารย์มีจริง หลังจากติดต่อ Mayor เพียงไม่ทันข้ามสัปดาห์ตำรวจ ต่างพากันโทรฯมาหาฉันจนรับสายไม่ทัน โทรฯมาแม้กระทั่งนอกวันและเวลาราชการ ขยันขึ้นมาแบบตาลีตาเหลือก ซุกเรื่องใต้พรมมาเป็นเดือนๆพอโดนร้องเรียน ตะลีตะลานเอาผักชีมาโรยหน้า ไม่น้อยหน้าประเทศโลกที่สามที่พวกเขาพากันเรียกขานประเทศไทย จะว่าไปก็ไม่โทษตำรวจ ไม่โทษตัวคนแต่เพราะ....(ไม่ขอพูดต่อในจุดนี้)

 ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเรื่อง 911; เมื่อมีการโทรฯแจ้ง 911 ไม่มีกฏหมายหรือข้อบังคับใดๆว่าตำรวจ...ต้อง...มาที่เกิดเหตุ ไม่เชื่อว่านี่คือความจริงจนกระทั่งได้ฟังจากปากทนาย, ตำรวจ พนักงานกู้ภัย/ดับเพลิง หมอที่เข้ารับการรักษาด้วยและพนักงาน ER เคยคิดและเชื่อว่าตำรวจ Obligated ที่จะต้องมาแต่นั้นมันเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก

 ตอนเกิดเหตุโทรฯแจ้ง 911 ตำรวจก็ไม่มา หลังจากการเกิดเหตุ เป็นเดือนๆฉันโทรฯถามความคืบหน้าก็ไม่เคยได้คำตอบ ระยะหลังๆไม่มีการรับสาย ไม่โทรฯกลับ แล้วจะให้ผู้เสียหายอย่างฉันทำอย่างไร? ต่อไปนี้ใครหน้าไหนมาเรียกประเทศไทยว่าประเทศโลกที่สามฉันจะชี้หน้าด่าพร้อมกับบอกเล่าถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันในอุบัติเหตุหนนี้และบอกให้มันหุบปากไปเสีย ปกติก็ไม่เคยอวยฝรั่ง(แถมอคติและข่มเขามาตลอด)อยู่แล้ว

 อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดแต่การเมาแล้วขับไม่ใช่อุบัติเหตุ การหลบหนีจากที่เกิดเหตุมันคือความผิดอาญา -Felony hit and run  แต่กระทั่งวันนี้ผู้กระทำผิดก็ยังไม่ถูกจับกุมและถ้าฉันไม่ทำหนังสือร้องทุกข์คดีนี้ก็จะเป็นแค่กระดาษไม่กี่แผ่นที่กองรวมกับอีกหลายหมื่นหลายพันแผ่นในตู้เอกสารที่แผนก Traffic Homicide Unite; ตั้งชื่อได้น่าเกรงขามแต่ได้เห็นการทำงาน(ในเคสของฉันเอง)แล้วเสียดายภาษี กฏหมายล้าหลังเอื้อประโยชน์ให้ผู้กระทำผิดและ ช่องโหว่อีกมาก และคำพูดที่ว่า งานเรายุ่ง เคสหนักๆสำคัญๆมีอีกมาก เคสมโนสาเหร่รอไปก่อน

 การเคลมประกัน ; No fault States Law, ใครอาศัยอยู่ใน 1 ใน12 รัฐเหล่านี้ควรหาข้อมูลและซื้อประกันที่ครอบคลุมใว้ด้วยจะได้ไม่ต้องมาเสียใจและทนทุกข์ทรมานแบบฉันและลูก ฉันซื้อประกันแบบ Full Covered มาตั้งแต่วันแรกที่เหยียบเท้าเข้าอเมริกาแต่เมื่อสองเดือนก่อนเกิดอุบัติเหตุ: ฉันไม่เคยมีอุบัติเหตุ ไม่มีประวัติการขับรถไม่ปลอดภัย ความชะล่าใจ ทำให้ฉันยกเลิก Full Covered ไปแล้วก็เกิดอุบัติเหตุทันทีก็ว่าได้ นี่หล่ะที่เขาว่ากันว่า  Shit Happen

 Link ข้อมูล No fault States: http://www.iii.org/issue-update/no-fault-auto-insurance

 เมื่อฉันไม่มี Full Covered แล้วเกิดการบาดเจ็บหนัก(ค่า ER คืนเดียวเฉียดหมื่น$)การเคลมประกันมันเปรียบเสมือนการทำศึกอันยิ่งใหญ่ Insurance Adjustor ทำงานตามอารมที่เขาอยากทำ ไม่อยากทำเขาก็ไม่เดือดร้อนใดๆทั้งสิ้น เพราะคนชนหลบหนีไปฉันและผู้เสียหายอีกคนต้องใช้เวลา(ออกค่าใช้จ่ายกันเอง)ถึง 2 สัปดาห์จึงได้ข้อมูลประกันของเขา ได้มาแล้วก็ไม่ใช่จะง่าย เมื่อโทรฯไปบ.ประกันของคนผิดพนักงานบอกว่าไม่มีผู้เอาประกันชื่อนี้ นามสกุลนี้!! บรรลัยแล้วไหมหล่ะ คุยกับผู้เสียหายอีกคน(สมมุติชื่อคุณเอ) คุณเอเดือดมากโทรฯ ๆ ๆ ๆ จนในที่สุดได้ข้อมูลมา นี่คือเหล่ห์เหลี่ยมอันน่าเกลียดน่ากลัวที่บ.ประกันนำออกมาใช้ อดสูกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว วันนั้นเราสองคนพากันโทรฯตั้งแต่ประมาณ 10 โมงเช้า ดูประวัติการโทรฯออกถึงได้เห็นว่าครั้งสุดท้ายในเวลาเกือบ 6 โมงเย็น

 ได้ข้อมูลมาแล้วบ.ประกันคุณเอ(บ.เดียวกันกับของฉันแต่ไมมีการประสานงานกันทั้งสิ้น)ได้จัดการเคลียร์เรื่องความเสียหายให้คุณเอ ความเสียหายของคุณเอเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับฉัน เพียงไม่กี่วันคุณเอก็ได้รับการชดเชยทุกอย่าง แต่ฉันต้องโทรฯตามจิกตามล่ากันต่อจนอ่อนใจ และจนวันนี้

 บ.ประกันผู้กระทำผิดก็ไม่ยิ่งหย่อนกัน Adjustor  ปากไม่มีหูรูดอีกต่างหาก ฉันโดนกดดันมาก คำพูดที่เขาใช้เลวร้ายไปกว่านั้นไม่มีอีกแล้ว ฉันเขียนEmail ส่งไปบอกกล่าวเขาตามที่พิมพ์มาก่อนหน้า ฉันเคยได้ขอให้ทำการบันทึกการสนทนาใว้ด้วยแต่ถูกปฎิเสธ  จนในที่สุดฉันปฎิเสธที่จะรับการ Treat แบบนั้น และไม่พูดคุยเจรจาด้วยนอกจากการพูดคุยนั้นๆจะทำผ่านล่าม ฉันมาอยู่อเมริกาตัวคนเดียวจะยี่สิบปีแล้วภาษาไม่ใช่อุปสรรค แต่เหตุผลที่ต้องขอล่ามเพราะต้องการมีบุคคลที่สาม เป็นพยานรับรู้ความเป็นไป ในสิ่งที่เขากระทำต่อฉัน ฉันไม่มีปัญหาการสื่อสาร แต่ฉันขอล่ามมาเป็นพยาน เพื่อเป็นการปกป้องตัวฉันเอง ที่ผ่านมาโดน Treat แบบไม่เป็นธรรมต่อไปข้างหน้าไม่แน่ใจจะเกิดอะไรขึ้น !!

 ใครจะเชื่อว่าทุกสิ่ง ทุกตัวอักษรเป็นความจริง ความจริงที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ที่ชื่อ  United State of America ถึงจุดนี้ ฉันในฐานะผู้เสียหายที่พยายามจะ work กับบ.ประกันให้รวดเร็ว เที่ยงตรงแต่โดนเล่ห์เหลี่ยมของคนทำงานบ.ประกัน ความล่าช้าของคดีทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นใดแต่ต้องตัดสินใจจ้างทนายความ

 3 วันก่อนวันครบรอบ 3 เดือนแห่งการเกิดอุบัติเหตุ , หนึ่งอาทิตย์หลังจากติดต่อ mayor ฉันได้มีโอกาสบอกเล่าความทุกข์ทรมานที่ฉันและลูกถูกยัดเยียดให้แบบเหี้ยมโหดและไม่เป็นธรรม ฉันได้บอกตำรวจว่าฉันไม่เคยต้องการให้ใครมารับผิดชอบฉันดูแลตัวเองและลูกมากว่า 20 ปีแล้วไม่เคยออกปากขอความช่วยเหลือจากใคร ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนนี้ร่างกายของฉันได้ถูกทำร้ายทำลายไปแล้ว เงินชดเชยที่ฝ่ายกระทำผิดจะให้มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ของฉัน ที่สำคัญไปกว่านั้นร่างกายของฉันที่ไม่มีวันจะกลับมาดีได้อย่างเก่า ฉันเป็นคนรักสุขภาพและใช้ชีวิตแบบ Healthy มาตลอด รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจฉันเป็นตัวตั้งตัวตีชวนเพื่อนร่วมงานลงแข่งวิ่งมาราธอนและพากันฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น แต่ตอนนี้ หลังจากอุบัติเหตุ ผู้หญิงอายุเพิ่งจะขึ้นเลข 4เพียงไม่กี่เดือนอย่างฉันมีสภาพไม่ต่างอะไรจากคนพิการ เงินกี่แสนกี่ล้านก็ไม่สามารถซื้อหาร่างกายที่ดี สมบูรณ์ที่ฉันเคยมีและดูแลรักษามันมาตลอดชีวิตของฉันคืนมาไม่ได้ ความเสียหายนี้ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางเยียวยาได้ แต่เพราะเหตุใดคนทำผิดก็ยังลอยนวล? และตำรวจ; ผู้บังคับใช้กฏหมายไม่ได้มีท่าทีจะใส่ใจ  ฉันะให้นิ่งดูดายอยู่อีกต่อไปหรือ?

 คำแรกที่ฉันพูดกับตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้คือ ฉันต่อสู้มาขนาดนี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของฉันแต่ผู้เดียว เพราะฉันเชื่อว่าทนายของฉันจะทำหน้าที่ของเขาได้สมกับค่าจ้างที่เขาจะได้รับ แต่ฉันต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ฉันได้รับการเทรนน์มาอย่างหนักทุกๆสามเดือน การเทรนน์ที่เน้นหนักในเรื่อง Alcohol consumption : How to identify and handling the intoxication ที่ที่ทำงานของฉันบังคับให้พนักงานทุกคนต้องได้รับการเทรนน์และผ่านการทดสอบ บวกกับอาการของผู้กระทำผิดฉันเชื่ออย่างสนิทใจเขามีสารมึนเมาอยู่ในร่างกายและมีอาการเมา พยานทั้งสองปากให้การในส่วนนี้ ขอให้ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ต้องทนทุกข์ทรมานรับกรรมที่ไม่ได้ก่อและใช้กฏหมายขั้นเด็ดขาดจัดการการผู้ทีเมาแล้วขับให้ได้

+++Delayed justice is injustice+++

 รายละเอียดมีอีกมากถ้าจะบรรยายให้ครบหมดคงยาวเป็นมหากาพย์ อาการปวดหัวเริ่มมาและนั่งนานไม่ได้ จะค่อยๆเขียนไปทีละ Subject ลำดับเหตุการณ์และขั้นตอน/ความเป็นไป ปัญหาและอุปสรรคในการเคลมประกัน ,การรักษาตัวและ อีกมากมาย Ugly America ถ้าไม่ได้ประสบพบเห็นด้วยตัวเองจะไม่มีวันเชื่อว่านั้นคือความจริงที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนที่คนหลายคนเรียกขานว่าดินแดนศิวิไลย์แห่งนี้ มันน่าอัปยดอดสูกว่าที่คิด

 1.การเกิดอุบัติเหตุ
 2. ขั้นตอนการเรียกร้องค่าเสียหาย Ugliness of an insurance company and its people
 3. การขอความช่วยเหลือจากรัฐฯในฐานะ Victim of Crime
 4.No fault State; กฏหมายย้อนยุคที่เลวร้ายและล้าหลังกว่ากฏหมายประเทศโลกที่สาม(ที่อเมริกันชน)เรียกขาน ความจริงที่ไม่มีคาดคาดคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น
 5.ทนาย อาชีพที่ไม่มีใครอยากคบหา(ถ้าไม่จำเป็นอย่างสุดวิสัย)
 6. ผู้กระทำผิด ลิ้นสองแฉก โกหกทุกคำพูดเพื่อให้ตนพ้นผิด
 7. 94 วันแห่งการต่อสู้ รอคอยและความทุกข์ทรมาน ในที่สุดผู้กระทำผิดก็ได้รับกรรมที่เขาก่อใว้ ด้วยสองข้อหากฏหมายอาญาแผ่นดินที่รัฐเป็นเจ้าทุกข์

 มันไม่ใช่บทสรุป แต่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ฉันในฐานะผู้เสียหายยังคงต้องต่อสู้กับมันไปอีกยาวนานหลายปี ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้จดหมายร้องทุกข์อีกสักกี่สิบกี่ร้อยครั้งกว่าคดีจะจบ ฉันจะได้รับความเป็นธรรม ได้รับการปฎิบัติต่อย่างถูกต้องเที่ยงตรงหรือไม่ จะต้องเสียน้ำตา เสียโอกาส เสียสุขภาพจิตอีกกี่มากน้อยแค่ไหนก็สุดจะเดา สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ก็คือ ฉันจะไม่ยอมให้ก้มหัวให้ความไม่ถูกต้องอีกต่อไป อนาคตฉันได้จบลงแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ฉันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีกแล้ว

 หมายเหตุ: เจตนาเดียวที่ฉันเขียนถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของฉันก็เพียงเพื่อเป็นอุธาหรณ์แก่ผู้อื่น จะไม่มีการให้ข้อมูลอื่นใดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ขอบคุณค่ะ

เพิ่ม Link; วันเกิดเหตุ http://pantip.com/topic/34111029
ที่มา http://pantip.com/topic/34099405
***************************
หลังจากนั้น ชาวบอร์ดพันทิป ก็มาร่วมแสดงความเห็นใจเจ้าของกระทู้ และแสดงความเห็นต่างๆนา สำหรับเรื่องที่เจ้าของกระทู้นำมาแชร์
ASN Broker (นายหน้าประกันภัยรถยนต์) ขอเป็นกำลังใจให้ จขทก. สามารถแก้ปัญหาต่างๆให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น