วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทำไงเมื่อเครื่องดับ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

ทำไงเมื่อเครื่องดับ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ทำไงเมื่อเครื่องดับ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

เมื่อเครื่องยนต์ของรถไม่ทำงานเอากำลังไปหมุนล้อตามหน้าที่อันดี  ก็ต้องรีบหาที่จอดรถที่ปลอดภัย  ซึ่งไม่ค่อยจะมีให้เลือกนอกจากริมถนน  ไหล่ทาง  หรือเลนในสุดของถนน ASN Broker จะมาอธิบาย ว่าถ้าเกิดรถตัวดีดับจะแก้อย่างไรบ้าง

          อย่านึกว่ารถเสียแล้ว  จะจอดทิ้งไว้กลาถนนได้ไม่ถูกปรับนะครับเพราะจอดรถเกะกะกีดขวางทางจราจร  ก็เป็นผู้สร้างปัญหาให้รถอื่น  หากเขามาชนเข้า  เสียหายทั้งเราและเขา  ไม่น่ารักสักนิด

          บางครั้งบางคราว  ผมเห็นรถแค่ยางแตก  แต่รถเจ้าของรู้ตัวตอนอยู่เลนกลางถนนแล้ว  เลยจอดรถเปลี่ยนยางเสียตรงนั้นอย่างไม่กลัวอันตราย   เพระไม่อยากให้บดยางไปเข้าข้างถนน
 รถข้างหลังติดกันเป็นแพท่านก็ไม่สนใจ    ผมเคยบดยางที่แตกไปร่วมกิโลเมตร  ยอมเสียยางเพราะตอนนั้นรถในถนนรัชดาฯ  ตรงข้ามสถานทูตจีนแน่นมาก  เข้าเลนซ้ายก็ขวางทางรถเลี้ยวซ้ายเขา  ต้องขับกระโดกกระเดกไปจนกลับรถจอดชิดซ้ายอีกฝั่งหนึ่งซึ่งว่างกว่าได้  ระหว่างนั้นรถคันอื่น็มอง  และบางท่านชี้ไม่ชี้มือบอกว่ารถผมยางแตกแล้วนะ
           แต่จะจอดเปบี่ยนเลยนี่ทำไม่ลงครับ  เกรงใจคนใช้ถนนท่านอื่น ๆ ส่วนอย่างของท่านเครื่องยนต์ดับขึ้นมานั้น  รถก็วิ่งไม่ไ  หากยังมีกำลังเหลืออยู่ท่านพอจะเปิดสัญญาณไฟกะพริบสี่ทาง  แล้วรีบเอากระจกลงให้สัญญาณขอเข้าชิดซ้าย
          หากเห็นรถที่ทำอย่างนี้อยู่ข้างหน้า  ก็อยากขอให้ท่านยอมใหห้ทางเขา  เพื่อจะไม่มีกีดขวางทางจราจรโดยท่านมีส่วนร่วมเพราะความใจดำเถิดนะครับ

          เมื่อเข้าจอดบนไหล่ทางหรือชิดซ้ายได้แล้ว  ก็อย่าปิดไฟสัญญาณสี่ทางนั่นเสียก่อน  ให้คนอื่นทที่สัญจรอยู่บนถนนเห็นท่านไว้ดีกว่าการจอดบนถนนที่กว้างเช่นบนซูเปอร์ไฮเวย์  หรือริมถนนทที่รถใช้ความเร็วสูงนี่  ต้องระวังตัวเองไว้ให้มากด้วย  ออกจากรถควรใช้ประตูซ้ายมากกว่า  และไม่ควรให้ใครเที่ยวได้วนรอบรถถอย่างไม่ระวังตัว  รวมทั้งไม่ไปยืนหลังรถจนบังแสงสัญญาณไฟกะพริบ

          อีกอย่างหนึ่งนะครับ  ควรใช้เบรกมือแล้วเข้าเกียร์ว่างไว้มากกว่าเข้าเกียร์อื่น  เพราะในกรณีอยู่ดี ๆ มีรถวิ่งมาชนท้ายแรง  ๆ   รถของคุณจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้หรือไม่ก็ตาม  แต่ฟันเฟืองเกียร์จะไม่ถูกกระทบกระเทือนจนเสียหาย

สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ  อาจจะต้องโยกคันเกียร์ไปที่  P  หรือการล็อก  ซึ่งหากถูกชนอย่างที่เรียนไว้ก็เสียหายไม่มาก  แค่สลักล็อกในห้องเกียร์   แต่ใจผมอยากให้เบรกมือแล้วใช้ตัว  N-Neutral  มากกว่าอยู่ดีนั่นแหละครับ

หากโชคดีถึงขนาดเกิดไฟไหม้ขึ้นกับรถของคุณ  คุณก็มีสิทธิตกอกตกใจได้ตามธรรมเนียม  ซึ่งผมเห็นว่าจำเป้น  แต่ขั้นแรกอย่าลืมนำรถ  เข้าจอดชิดขอบทางเอาคนโดยสารออกจากรถให้หมด  ให้ไปไกลจากรถจนเกินรัศมีการระเบิดจากถังเชื้อเพลิงด้วยเป็นดี  ทั้งที่จริง ๆ แล้วถังเชื้อเพลิงระเบิดยากอยู่สักหน่อย  แต่ผมเห็นในภาพยนตร์เขาระเบิดกันได้ระเบิดกันดี  รถชนกันก็ระเบิด  รถพลิกคว่ำถังน้ำมันก็ระเบิด  เลยกลัวตามไปด้วยเป็นธรรมดาน่ะครับ



ลืมนึกไปว่า  ในภาพยนตร์นั้นเขามักจัดฉากให้เกินจริงเอาไว้นิด  หน่อย  เช่นการนั่งคู่กันของคู่รักทที่ไปรับประทานอาหารด้วนกันก็ต้องนั่งหันหน้าเข้าหากล้อง   ไม่ได้ดูหน้ากันหรอกนั่นก็อย่างหนึ่ง

เมียเก่าคนหนึ่งก็เหมือนกัน  พอโกรธผมขึ้นมาจะต้องหันหน้าไปทางที่ไม่มีผม  แต่เปิดทางข้างหลังไว้ให้ผมเข้าไปพูด  ผมจะเข้าทางไหนเขาก็หันหน้าไปอีกทางแต่ไม่มีวันเป็นนฝาผนังได้  ผมขัดใจขึ้นมาก้บอกเขาว่าไม่ต้องหันไปทางไหนหรอก  กล้องไม่มี

เขาเลยไปแต่งงานกับคนชาติอื่นเสียรู้แล้วรู้รอดเขาไป     ทีนี้ก็ดึงสายเปิดฝาครอบเครื่องยนต์  แต่อย่าเปิดฝาขึ้นหากไม่เชื่อว่าคุณจะดับไฟได้รอนักเผชิญเพลิงเขามาจัดการดีกว่า

หากไฟลุกอยู่ในหม้อแรงมากพอคุณเปิดฝาครอบขึ้นไฟอาจจะพุ่งมาลวกเอาก็ได้นี่ครับ  ไม่จำเป็นก็อย่าเสี่ยง   ร้องเรียกให้ใครช่วยตามตำรวจดับเพลิงเถิดครับ

แต่ถ้าคุณมีน้ำยาดับเพลิง  ที่ผมอยากให้เลือกติดรถไว้ในขนาดกระป๋องงาม ๆ ไม่เล็กจนเกินไปจนน่ารัก  และเป็นเครื่องประดับมากกว่าใช้งาน   แล้วก็หาผ้ามาช่วยคลุมมือก่อนจะแง้มฝาครอบเครรื่องขึ้นนิดหน่อย  เอาน้ำยาดับเพลิงฉีดเข้าไปสลับกับการสังเกตอาการของไฟ  ให้แน่ใจเสียก่อนว่าจะไม่ถูกไฟลวกจึงค่อยเปิดฝาให้เต็มที่  แล้วจัดการดับไฟด้วยน้ำยาที่เหลือให้เรียบร้อย

ดับไฟเสร็จแล้ว  รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อนเป็นสิ่งแรก  กันไม่ให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจรเริ่มไฟใหม่ได้อีก

ก็หวังกันไว้นะครับ  ว่าจะไม่ต้องเจอกับเรื่องไฟไหม้รถ   ผมเองเคยเจอสามครั้ง  ครั้งแรกน้ำมันท่วมลงไปโดนท่อไอเสีย  ดับได้เองด้วยการเอาผ้าในรถโปะเข้าไป


ครั้งที่สองคลัตช์ของคอมเพรสเซอร์แอร์ไหม้  คราวนี้มีเครื่องดับเพลิง  และได้กลิ่นทันเวลาก็ดับได้

อีกครั้งไปเจอรถเฟียต  650  คันหนึ่ง  ไฟไหม้อยู่กลางถนน  ไม่มีใครช่ย  เผอิญผมมีเครื่องดับเพลิงติดรถอยู่  ก็กระโดดลงไปฉีดให้เขาจนดับ   แล้วก็นึกขึ้นได้เดี๋ยวนี้เองว่า  ผมยังไม่ได้เอาหม้อน้ำยาดับเพลิงของผมนั้นไปเติมน้ำยาเลย

ถ้าเครื่องยนต์ดับแต่ไม่มีปัญหาเรื่องไฟ  ก็จัดการจอดรถและให้สัญญาณ  แล้วมาดูกันว่ามันอะไรกันนักหนา    หากไม่ใช่เรื่องของความเสียหายที่หนักเกินกว่าขอบเขตของกลับให้ได้ไปถึงแล้วละก็  เรื่องที่เครื่องยนต์  ไม่ทำงานส่วนมากจะมีอยู่สามอย่างเท่านั้น

หนึ่งแบตเตอรี่  สองไม่มีไฟจุดระเบิดที่หัวเทียน  และสามน้ำมันไม่มา     การตรวจเช็กในสามจุดนี้  ผมจะเล่าให้ฟังอีกที  แต่ตอนนี้เรียนเตือนไว้ก่อนว่ากำลังไฟในแบตเตอรี่รถยนต์ทุกคันมีจำกัด  ถ้าคุณไม่หาสาเหตุของปัญหา  เอาแต่พยายามติดเครื่องด้วยการสตาร์ตอย่างเดียว 

ไม่นานไฟก็หมดหม้อแบตเตอรี่  ติดเครื่องไม่ได้อีก  ต้องยุ่งถึงการเข็นซึ่งถ้าไฟหมดหม้อจริงก็เข็นไม่ติด  และต้องเอาแบตเตอรี่ไปอัดไฟก่อนจะตรวจปัญหาอื่นเช่นการจุดระเบิดได้อีกด้วย

กับรถที่คุณคุ้นเคยและรู้จุดอ่อนอยู่แล้ว  คุณอาจจะลงความเห็นเป็นหนึ่งในสามข้อที่ผมว่าไว้  แล้วทำการตรวจเช็กที่เป็นระบบหน่อยละครับ

เพียงแต่ละว่า  ขั้นแรกคุณลองนึกสักนิดว่าก่อนเครื่องจะดับนั้น  มันมีอาการบอกเหตุเช่นไรบ้างหรือไม่

ที่มา https://www.asnbroker.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น