คุณจะสตาร์ทรถด้วยสายพ่วงอย่างไร #เรื่องรถน่ารู้
ถ้าไฟและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในรถคุณไม่ทำงาน บางทีอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ใช้การไม่ได้ คุณสามารถกระตุ้นให้แบตเตอรี่ทำงานได้ชั่วคราวโดยวิธียืมพลังแบตเตอรี่จากรถคันอื่น แต่คุณต้องใช้อุปกรณ์ตัวหนึ่งนั่นคือ สายไฟที่ใช้เป็นตัวพ่วงกระแสไฟจากแบตเตอรี่รถคันอื่นเข้าสู่แบตเตอรี่รถคุณ ASN Broker มีวิธีแนะนำคุณควรมีสายไฟที่ใช้สำหรับพ่วงกระแสไฟไว้ในรถตลอดเวลา (ดูในบทที่กล่าวถึงอุปกรณ์ที่รถควรมี) ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยคุณจะใช้เวลาจัดการเรื่องนี้ไม่เกิน 10 นาที
- หารถที่มีแบตเตอรี่มากพอ (ควรเป็นรถที่มีเครื่องยนต์ไม่เล็กกว่าของรถคุณ แต่รถที่กำลังแล่นอยู่มักสามารถใช้ได้เสมอ)- ขับรถอีกคันเข้ามาเทียบรถคุณ ในระยะที่ใกล้พอจะต่อสายพ่วงได้- ใส่เกียร์รถเป็นเกียร์จอดหรือเกียร์ว่าง ดับเครื่องและดึงเบรกมือ- ต่อปลายสายพ่วงที่เป็นขั้วบวก (ตัวหนีบสีแดง) กับขั้วบวกของแบตเตอรี่รถทั้งสองคัน {( ) แดง =ขั้วบวก}- อย่าให้ตัวหนีบสายไฟแต่ละอันไปโดนอันอื่นเพราะจะทให้เกิดประกายไฟได้- ต่อปลายสายพ่วงที่เป็นขั้วลบ (ตัวหนีบสีดำ) ข้างหนึ่งกับขั้วลบของแบตเตอรี่รถคันที่มีแบตเตอรี่สมบูรณ์ { (-) ดำ = ขั้วลบ} และอีกข้างหนึ่งกับแท่นเครื่องยนต์ในรถคุณ ระวังอย่าให้โดนแบตเตอรี่- สตาร์ทรถคันที่เป็นตัวส่งแบตเตอรี่ และเร่งเครื่องยนต์หมุนเปล่าโดยเร็ว- สตาร์ทรถคุณ- ถ้าเครื่องยนต์รถคุณยังไม่ทำงาน ตรวจดูว่าต่อปลายสายพ่วงไว้ถูกต้องหรือเปล่า หรืออาจให้รถคันที่เป็นตัวส่งแบตเตอรี่ออกวิ่งสักประมาณ 3-5 นาทีก่อน แล้วลองอีกครั้ง- หลังจากรถคุณสามารถติดเครื่องได้แล้ว ให้ดับเครื่องรถคันที่เป็นตัวส่งแบตเตอรี่- ถ้ารถคุณยังคงไม่สามารถติดเครื่องได้ วิธีที่ดีที่สุดคือเรียกรถลาก คุณไม่ควรเสี่ยงกับความเสียหายของตัวมอเตอร์สตาร์ท (เพราะหากต้องเปลี่ยนตัวใหม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก) ดับเครื่องรถคันที่เป็นตัวส่งแบตเตอรี่- อย่าถอดสายไฟสีดำเป็นตัวแรก- ถ้าตัวไดชาร์จยังคงเบาอยู่ บางทีปัญหาไม่ได้เกิดจากแบตเตอรี่ คุณควรให้ช่างเครื่องตรวจเช็กNote : สายพ่วงต้องไม่เล็กเกินไป
ที่มา http://www.asnbroker.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น