การขายรถเองด้วยวิธีที่ถูกต้อง #เรื่องน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
สวัสดีครับวันนี้ ASNBroker นำเคสและวิธีตัวอย่างในการขายรถเองให้ได้ชัวร์ๆและไม่ขาดทุนมาฝากกันครับ เมื่อผมตั้งใจจะขายรถคันเดิม ผมได้บอกขายกับคนแถวบ้าน ( ทั้งชายและหญิง ) และเพื่อน ๆ หลายคน แต่ความผิดพลาดที่ไม่น่าปล่อยให้เกิดขึ้นคือ ในที่สุดผมกลับเลือกขายรถให้เต็นท์รถแทนที่จะขายให้กับผู้ซื้อโดยตรง และเนื่องจากทางเต็นท์ต้องขายรถต่อให้คนอื่นอีก ดังนั้นผมจึงถูกกดราคาต่ำมากจึงเป็นเรื่องที่ผมต้องเน้นกับคุณว่า ถ้าคุณไม่ต้องการขาดทุนจากการขายรถ ควรตัดคนกลางออกและใส่เงินจำนวนมากเข้ากระเป๋าตัวเอง ตามคู่มือในบทนี้เงินที่มากขึ้นจากการขายรถด้วยตัวเองถ้ารถของคุณมีราคาขายอยู่ที่ 225,000 บาท โอกาสที่คุณจะช่วยให้พ่อค้าคนกลางได้คือ 170,000 บาท แต่ถ้าคุณใช้ความอดทนและความพยายามมากขึ้น คุณจะสามารรถขายรถได้ในราคา 225,000 บาท หรือมากกว่านั้น หากขายให้ผู้ซื้อโดยตรงการขายรถตัวเองเริ่มจากความประทับใจแรก ! ก่อนลงโฆษณา คุณควรดูแลรถให้อย่ในสภาพดีสูงสุด ทำความสะอาดและขัดเงาให้ดีจัดซื้อส่วนที่ขาดหายหรือแตกหักมาเปลี่ยน วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถโชว์รถในสภาพดีที่สุด ถ้าคุณไม่รู้ว่าควรแก้ไขอย่างไร ? ควรสอบถามผู้รู้หรือขอคำแนะนำจากร้านค้าที่ไว้ใจได้เพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ที่ชำรุด ก่อนที่จะมีคนมาขอดูรถการดูแลส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์1.หากพบว่ามีน้ำมันหล่อลื่นรั่วให้ซ่อมแซมเสีย
2.นำรถไปยังอู่เครื่องยนต์ทำความสะอาดภายนอก1.แก้ไขรอยบุบและรอยแตก
2.ตั้งศูนย์ล้อให้ได้ระดับ
3.ทำความสะอาดภายใน
4.ตรวจดูกระโปร่งหลัง
5.การตกแต่งยางจะทำให้รถเกิดความแตกต่างอย่างมาก
6.การแก้ไขเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยขึ้นทั้งหมดนี้จะใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงตกแต่งรอยขูดขีด1.ทำความสะอาดก่อนแว็กซ์
2.ร้านขายอุปกรณ์เครื่องยนต์จะสามารถทาสีใหม่
3.ใช้การตกแต่งสีที่ประหยัดที่สุด
4.หารอยขูดขีด รอยบุบสลายทั้งหมดเพื่อแก้ไขแว็กซ์ภายนอก1.พยายามแว็กซ์ให้ดีที่สุด
2.ขัดจนเป็นเงาทำความสะอาดภายใน
1.ใช้เครื่องดูดฝุ่นใต้ที่นั่ง
2.ล้างพรม ทำความสะอาดบริเวณพื้น
3.ใช้แปรงสีฟันขจัดสิ่งสกปรกจากรอยกระเทาะและรอยแตกบนแผงปัด ประตู
4.ทำความสะอาดที่เขี่ยบุหรี่ และช่องเก็บของ
5.ใช้ผ้าชาร์มัวร์และยาขัดเงาขัดภายใน
6.ทำความสะอาดกระจกด้วยหนังสือพิมพ์ ระวังอย่าให้เป็นรอย
7.ถูเพดาน
8.ทำความสะอาดตัวถัง
9.หาข้อตำหนิ รอยฉีกขาด รอยขูด หรือแตก และแก้ไขให้เรียบร้อยแก้ไขส่วนที่ต้องใช้งาน
1.เครื่องปรับอากาศ
2.สายอากาศ
3.ไฟเบรก
4.นาฬิกา
5.ไฟแผงหน้าปัด/เกจ
6.ประตู/ที่จับประตู
7.ไฟฉุกเฉิน
8.ไฟหน้า
9.แตร
10.ไฟ ( รวมทั้งช่องเก็บของและป้ายทะเบียน )
11.ล็อก
11.กระจก
12.วิทยุ
13.ยางสำรอง
14.พวงมาลัย
15.ไฟท้าย
16.สัญญาณเลี้ยว
17.ที่ปัดกระจก
18.ของไหลทำความสะอาดกระจกตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์
1.แก้ไขส่วนที่สึกหรอ
2.เช็กท่อน้ำ
3.เช็กสายพาน
4.เช็กของไหลในอ่างเก็บของไหล
5.เปลี่ยนไส้กรองอากาศตรวจและเปลี่ยนของไหล1.ตรวจน้ำมันหล่อลื่นและไส้กรอง
2.ตรวจของไหลเกียร์อัตโนมัติ
3.เปลี่ยนคูแล็นท์อย่าลืม
1.แก้ไขหากมีเสียงผิดปกติเกิดขึ้น
2.เติมน้ำมันหล่อลื่น ประตู ฝากระโปรงรถ และบานพับตัวถังคุณมีเอกสารเรียบร้อยหรือไม่ ?
1.คู่มือรถ
2.บันทึกการบริการ
3.เอกสารประกันการซ่อมถ้าคุณไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมใหญ่ ควรตอบคำถามผู้ซื้อตามตรงในส่วนที่สึกหรอ เพราะส่วนใหญ่ผู้ซื้อมักมีช่างเครื่องมาตรวจสอบด้วยการโฆษณาขั้นแรก ราคาที่ถูก
1.ราคาที่คุณต้องการควรเป็นราคาที่ยังไม่ได้บวกดอกเบี้ยจากการกู้ยืม
2.ควรเผื่อราคา 10-15 เปอเซ็นต์สำหรับการต่อรองได้
3.ผู้ซื้อรถใช้แล้วมักคาดหวังว่า จะสามารถเจรจาต่อรองได้
4.ผู้ซื้อรถใช้แล้วจำนวนมากคุ้นเคยกับราคาตามหนังสือรถแหล่งโฆษณา
1.หนังสือพิมพ์
2.หนังสือรถ
3.นิตยสารซื้อขาย
4.เขียนป้ายชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ติดไว้ที่รถสิ่งที่คุณควรบอกในโฆษณา
1.แบบ / รุ่น
2.ปี
3.กิโลเมตรทที่ใช้ ( ถ้าไม่มากนัก )
4.ลักษณะสำคัญ – ความแข็งแรง สี และรายละเอียด ที่น่าสนใจ
5.ราคา ( บวกเพิ่ม 10-15 เปอร์เซ็นท์ของราคาที่คุณต้องการ )
6.เบอร์โทรศัพท์ และเวลาที่สามารถติดต่อคุณได้แนวทาง
1.ดูหนังสือเพื่อเป็นตัวอย่าง
2.ศึกษาหาข้อแตกต่างของรถ เพื่อดึงดูดความสนใจคนซื้อ
3.คนที่น่าสนใจย่อมติดต่อหาคุณตามเบอร์โทรศัพท์ที่ลงไว้ในโฆษณาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
4.ตอบทั้งหมดด้วยความซื่อสัตย์
5.แนะนำผู้ซื้อถึงทางที่จะมายังบ้านคุณ หรือสถานที่นัดโดยละเอียด และนัดเวลาที่แน่นอนโชว์รถของคุณ
1.อย่าร้อนใจถ้าไม่มีคนมาขอดูรถคุณทันที ให้อดทนรอ
2.หาสถานที่นัด ซึ่งคุณจะพบผู้ซื้อได้สะดวก
3.พาเพื่อนไปด้วย
4.คุณทั้งคู่ย่อมจำเป็นต้องขับรถทดสอบก่อนแน่นอน
5.บอกถึงลักษณะพิเศษ
6.สร้างความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับรถของคุณ เช่น “ เป็นรถที่ดีคันหนึ่งเลยนะค่ะ สะดวกสบาย ฉันรักและวางใจมันมาก “
7.พวกเขาย่อมมีช่างเครื่องมาตรวจเช็กด้วยการเจรจาต่อรองอย่างง่าย ๆหลังจากได้ทดลองขับแล้ว ถ้าผู้ซื้อสนใจพวกเขาจะเริ่มยอมรับ หรือต่อรองราคาที่คุณสามารถลดให้ได้ ถ้าผู้ซื้อชอบ คุณสามารถลดราคาลงได้เล็กน้อย โดยไม่ต้องเป็นราคาขาดตัวที่คุณกำหนดไว้ ถ้าผู้ซื้อถามคุณถึงราคาต่ำที่สุดที่คุณสามารถลดได้บอกราคากลับไป ถ้าได้ราคาที่พอใจก็ไม่มีเหตุผลที่คุณต้องขับรถกลับบ้านเสียเที่ยวเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วป้องกันตัวเอง1.ถ้าพวกเขาไม่มีเงินสดจ่าย ให้ขอเงินมัดจำ 10-30 เปอร์เซ็นต์ โดยคุณต้องการมีสัญญาหรือใบเสร็จให้เขาซึ่งเมื่อถึงเวลาชำระเงินหากเขาผิดนัดคุณสามารถยึดเงินก้อนนั้นได้
2.ระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุจนกระทั่งส่งมอบรถ
3.เขียนใบรับเงิน ลงชื่อทั้งคุณและผู้ซื้อ
4.อย่าให้ใบเสร็จแก่ผู้ซื้อจนกระทั่งได้เงินครบใบเสร็จ / ใบสัญญาประกอบด้วย1.ชื่อ ที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
2.ประวัติรถ แบบ รุ่น ปี และอื่น ๆ
3.ทะเบียนรถ
4.ราคาซื้อขาย
5.วันที่
6.สภาพในขณะที่ขาย
7.ลายเซ็นทั้งคู่
8.ก๊อบปี้ให้ผู้ซื้อ และคุณเก็บต้นฉบับไว้ทั้งหมดนี้คงเป็นแนวทางเพียงพอที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ฉลาดกับรถได้ไม่ยาก และหวังใจอย่างยิ่งว่านอกจากคุณจะเป็นคนหนึ่งที่ฉลาดกับรถแล้ว คุณยังเป็นคนที่ฉลาดกับการรักษามลภาวะรอบตัวคุณด้วยขอบคุณครับ
ที่มา : http://www.asnbroker.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น