ผู้บริโภคอย่างเรา จะเลือกทำ ประกันภัยรถยนต์ จะเลือกอย่างไรให้คุ้มค่า กับเงินที่จ่ายไป
สำหรับท่านผู้อ่านที่อ่านบทความนี้ ย่อมเข้าถึง internet แน่นอนแล้ว นับเป็นโชคดีของท่าน
เพราะปัจจุบันเราสามารถเช็คราคาประกันภัยรถยนต์ ผ่านทาง internet ได้โดยทราบราคาทันที ไม่ต้องรอติดต่อกลับจากบริษัทประกันเหมือนสมัยก่อน
ปัจจุบัน ปี 2555 ท่านสามารถ
เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ จากทุกบริษัท ผ่านหน้าเวปของนายหน้าต่างๆ เพียงกรอกข้อมูลออนไลน์ ครั้งเดียวเท่านั้น ช่างเป็นยุคของผู้บริโภคจริงๆ ครับ
มาดูวิธีเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ ปี 2555 กันครับ
1.
ค้นหาเบี้ยประกัน จากเวปไซต์ต่างๆ ที่เช็คเบี้ยออนไลน์ real time ทราบราคาทันที1.1
www.asnbroker.co.th เว็บนี้มี เบี้ยประกันภัยมากกว่า20 บริษัท โดยสามารถต่อรองราคาได้ + กับ มีVoucher สมนาคุณต่างๆให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการ โดยที่ ประกันชั้น1 และ ประกันชั้น2+ ยังมีให้เลือกผ่อนชำระหรือซื้อผ่านร้าน 7-11 ได้อีกด้วย เพื่อความสะดวกในการบริหารค่าใช้จ่ายของลูกค้า รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของลูกค้า ที่มั่นใจได้
1.2 www.Prakunrod.com เวปนี้มีราคาเบี้ยประกันมากที่สุด มากกว่า 10 บริษัทในการกรอกข้อมูลเพียงครั้งเดียว และค่อนข้างรักษาความเป็นส่วนตัวมาก ใส่แค่อีเมล์กับเบอร์โทรศัพท์และไม่เอาข้อมูลผู้ขอไปทำอย่างอื่น เนื่องจากขายประกันภัยรถยนต์เพียงอย่างเดียว
1.3 กล้วยกล้วย ดอทคอม เวปนี้เด่นตรงราคาลด 15% แต่ข้อเสียคือสำหรับรถประวัติดี โอนย้ายไม่ได้ เนื่องจากระบบคำนวนเบี้ยยังไม่ละเอียด และยังมีบริษัทประกันให้เลือกน้อยกว่าเวปแรก
1.4 silkspan เวปนี้เป็นเวปแรกๆ ที่ทำระบบคำนวนเบี้ยออนไลน์ real time เด่นตรงมีระบบผ่อน แต่ส่วนลดน้อยมาก และต้องยอมรับที่จะเอาข้อมูลของเราเพื่อเสนอขายสินค้าอื่น เพราะเวปนี้ทำเรื่องสมัครบัตรเครดิตด้วย
1.5 Tesco broker เป็นโบรกเกอร์ ของเทสโก้โลตัส สามารถคำนวนเบี้ยออนไลน์ได้ด้วย แต่ตัวเลือกยังมีน้อย ดีตรงมีระบบผ่อนชำระ เช่นเดียวกับ Silkspan
1.6 ANC Broker
1.7 TQM Broker
2. เมื่อได้ราคาเบี้ยแต่ละบริษัทแล้วสนใจบริษัทไหน ให้เช็คสถานะทางการเงินและสภาพคล่อง
เงินกองทุน จากเวป คปภ. ด้วย รวมทั้งอ่าน feedback ต่างๆ จาก google ว่าบริษัทไหนมีคนบ่นน้อยที่สุด ต้องบอกว่าน้อยที่สุดครับ เพราะเท่าทีหาดู มีคนบ่นทุกบริษัท เช่นลอง google คำว่า วิริยะประกันภัย ดีไหม
3. ตัดสินใจเลือกบริษัทประกันได้แล้ว ให้เลือกนายหน้าที่จะซื้อ
โดยดูความน่าเชื่อถือ เช่น feedback จากลูกค้า ใบอนุญาตนายหน้า ก่อนซื้อแต่ละครั้งสำคัญมาก ท่านต้องขอเอกสารที่ระบุถึงความคุ้มครอง และเบี้ยราคาเต็มของแพกเกจที่ท่านจะซื้อ
3.1 หากซื้อผ่านทางเน็ต ง่ายมาก capture หน้าจอไว้ว่าคุ้มครองอะไร อย่างละเท่าไหร่ เบี้ยเต็มกี่บาท เบี้ยลดแล้วกี่บาท
3.2 หากซื้อผ่านหน้าร้าน อย่างน้อยท่านต้องมีใบเสนอราคาเก็บไว้ด้วย อย่าตกลงปากเปล่า เพราะความคุ้มครองแต่ละบริษัท ในรถยี่ห้อ รุ่น เดียวกันมีหลายแบบ หลายราคา ท่านอาจโดนหลอกได้
3.3 ซื้อผ่านโทรศัพท์ วิธีนี้ไม่แนะนำ เพราะไม่มีหลักฐานว่าคุ้มครองอะไร เท่าไหร่ อย่างน้อยควรให้ fax หรือ e mail ใบเสนอราคามาเก็บไว้ก่อนสั่งซื้อ วิธีนี้โดนหลอกกันมาเยอะแล้วครับ เพราะได้กรมธรรม์มาแ่ต่เช็คดูแล้วไม่ตรงกับตอนที่โทรมาขาย จะไปเอาหลักฐานที่ไหนยืนยันครับ ตกลงกันแบบปากเปล่า
4. การชำระเงินค่าเบี้ยประกันมีทั้งสามารถชำระผ่านนายหน้า หรือชำระผ่านบริษัทประกันโดยตรง
4.1 การชำระผ่านนายหน้า ทำได้ครับ แต่ควรเลือกนายหน้าที่ feedback ดี ทำงานนี้มานานแล้ว และมีใบอนุญาต ปกตินายหน้าจะมีเงินวางมัดจำไว้กับบริษัทแล้ว สามารถรับเงินแทนบริษัทประกันได้ ข้อดีของการชำระกับนายหน้าคือความสะดวก คล่องตัวในการขอคืนเงิน หากตรวจสภาพรถไม่ผ่าน
4.2 การชำระเข้าบริษัทประกัน วิธีนี้ปลอดภัยแต่มีข้อเสียเวลาตรวจสภาพรถไม่ผ่าน อาจต้องรอคืนเงินกลับมาเป็นเช็คจากบริษัทประกันช้า 1-2 เดือนเพราะต้องผ่านอนุมัติหลายขั้นตอน
5. เมื่อได้รับกรมธรรม์ฉบับจริงแล้ว ควรตรวจสอบเลขกรมธรรม์กับบริษัทประกันด้วย ว่าเป็นเลขกรมธรรม์จริงหรือไม่ มีรายละเอียดสัญญา กรมธรรม์ ในฐานข้อมูลของบริษัทประกันหรือไม่ สาระสำคัญพวกเลขตัวถัง ทะเบียน ซื้อผู้เอาประกัน วันเริ่มคุ้มครอง ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้อง ต้องแจ้งให้นายหน้าหรือบริษัทออกสลักหลังแก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะครับ
ขอให้ท่านผู้อ่านเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ ได้คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไปครับ
ขอขอบคุณข้อมูลโดย prakunpairodyon.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น