วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การต่อประกันภัยรถยนต์ อะไรที่เราควรรู้บ้าง ทำไม ถูกแพงไม่เท่ากัน มาดูกัน : ASN Broker ประกันภัยรถยนต์



การต่อประกันภัยรถยนต์ อะไรที่เราควรรู้บ้าง ทำไม ถูกแพงไม่เท่ากัน มาดูกัน : ASN Broker ประกันภัยรถยนต์

เนื่องจากตัวผมเอง นอกจากขับรถพอเป็นแล้ว ความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับรถเนี่ย แทบจะเป็น 0 เลยก็ว่าได้ (ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ หุหุ อย่าได้เรียกให้ไปซ่อมอะไรเด็ดขาดเชียวนะ) ตอนซื้อรถก็แค่หาข้อมูลว่ารถรุ่นนี้ดีไม่ดียังไง ส่วนประกันรถยนต์ ทางศูนย์แถมมาให้เลย อาจจะเป็นเพราะว่าคำแรกที่ผมโทรไปถาม ผมถามเลยว่ารถรุ่นนี้ แถมประกันชั้น 1หรือเปล่าละมั้ง

ใช่ไอ้ตอนซื้อน่ะ เค้าแถมประกันมาให้เลย รายละเอียดก็เปิดดู สองแวบ แล้วก็ไม่เคยดูอีกเลย รู้แค่ว่าประกันชั้นหนึ่ง เคลมได้หมด และถ้ารถหายก็ยังได้เงินด้วย (ไม่เต็มจำนวน แต่ไม่รู้ว่าเท่าไร) ทีนี้พอมาถึงวันที่จะต้องต่อประกัน ก็มานั่งคิดว่า แล้วราคามันจะเท่าไรหว่า รู้แต่ว่าหมื่นกว่า แต่ไม่รู้กว่าเท่าไร ก็เลยไปลองหาข้อมูลดู อ้าวทีนี้ งง เลย ทำไมแต่ละคน ราคาต่างกันมากน้อยไม่เท่ากัน แถมเจอศัพท์แปลก ๆ ไม่คุ้นหูอีกหลายคำ ยิ่งทำให้สับสนไปใหญ่

แต่พอตั้งตัวได้ ก็เริ่มค่อย ๆ หาข้อมูลที่ไม่เข้าใจไปทีละนิด ๆ ก็ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เราเข้าใจอะไรมากขึ้น ซึ่งส่วนนึงที่ผมนั่งหา นั่งเก็บข้อมูล เพราะเชื่อว่า เพื่อน ๆ ที่แวะผ่านมาผ่านไป ยังมีอีกหลายคนที่มีความรู้เรื่องรถยนต์น้อยเหมือนกัน และอาจจะกำลัง งง ๆ แบบเดียวกับที่ผมงงอยู่ในตอนแรกก็เป็นได้ ก็เลยรวบรวมข้อมูลที่ได้มาฝากไว้ ให้ผ่านหูผ่านตากันไว้บ้าง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้คิดว่าสำคัญพอสมควร และตัวผมเองไม่ได้มีความรู้มากเท่าไร ก็เลยหา Reference ในส่วนที่มันสำคัญ ๆ เอาไว้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ๆ และถ้าหากข้อมูลบางส่วนผิดพลาดแต่ประการใด เพื่อน ๆ ก็ช่วย แนะนำ หรือแก้ไขเพิ่มเติมให้ด้วยละกัน เพื่อที่ชาวชลบุรีอย่างเรา จะได้มีความรู้เรื่องประกันรถยนต์กันมากขึ้น



ประกันศูนย์ / ประกันอู่ คืออะไร ต่างกันยังไง
คำถามที่มีการถามกันบ่อย ๆ คือ “ประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ กับ แบบซ่อมห้าง ต่างกันอย่างไร?” ทั้งนี้ก็เพราะว่า ราคาแบบซ่อมอู่นั้น ถูกกว่าไม่น้อยเลย (ส่วนใหญ่ถูกกว่า ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท) ซึ่งบางคนก็เลือกทำประกันแบบซ่อมอู่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ราคาถูกกว่า และเชื่อว่าบางอู่ (ถ้าศึกษามาดี) มีมาตรฐานดี ไม่แพ้ศูนย์เลยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คนจำนวนไม่น้อยยังยืนยันที่จะเลือกประกันแบบซ่ิอมห้าง เพราะรู้สึกอุ่นใจกว่านั่นเอง

เรามาดูข้อสรุปกันดีกว่า ว่าประกันรถยนต์หรือแบบซ่อมห้าง มีข้อดีข้อเสีย ต่างกันอย่างไร

ซ่อมห้าง ข้อดี
- อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อม เป็นอะไหล่แท้จากโรงงานเลย ทำให้เราอุ่นใจได้เลยว่าสิ่งที่เคลมเป็นของดีแน่นอน 100% (แม้ว่าจะมีเพื่อนเคยบอกว่า ซ่อมศูนย์บางทีเค้าก็ส่งอู่อีกที ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ว่าอะไหล่ที่เปลี่ยนนั้นก็ยังเป็นของศูนย์อยู่ดี เพราะเบิกได้โดยตรง)
- ส่วนใหญ่มีมาตรฐาน การจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้ต่อรองง่าย อยากเคลมออะไรก็ไม่เรื่องมากเท่าไร รับประกันการซ่อมด้วย ถ้าซ่อมไปแล้วมีปัญหาก็กลับมาแก้ได้เลย
- ส่วนใหญ่ การซ่อมแซมเป็นไปด้วยดี เพราะศูนย์เองก็ต้องการรักษาชื่อเสียงของตัวเองเช่นกัน (แต่บางศูนย์ก็ได้รับการบ่นว่า ทำไม่ดี ก็มีนะ)

ซ่อมห้าง ข้อเสีย
- เนื่องจากความน่าเชื่อถือสูงกว่าแบบอู่ คนจึงเลือกใช้แบบซ่อมห้างเยอะ ในขณะที่ศูนย์บริการมีน้อย (รถบางยี่ห้อ บางจังวัดไม่มีศูนย์บริการด้วยซ้ำ) ทำให้บางครั้งเราต้องต่อคิวในการซ่อมนานพอสมควร
- การซ่อมแต่ละครั้ง จะมีภาษีและค่าแรงที่สูงกว่าการเวลาเราไปซ่อมที่อู่ ซึ่งความแตกต่างในส่วนนี้ ถือว่าชัดเจนพอสมควรเลย
- บางครั้งนอกจากชิ้นส่วนที่เราเคลมแล้ว จะมีส่วนอื่น ๆ ถูกทางศูนย์เปลี่ยนให้ด้วย เพราะทางศูนย์มองว่าเกินอายุการใช้งานแล้ว ในขณะที่หลาย ๆ คนมองว่ายังใช้ได้อีกพอสมควรเลย ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเช่นกัน

ซ่อมอู่ ข้อดี
- ราคาเบี้ยประกัน (เงินที่เราต้องจ่ายค่าประกันรถยนต์ในแต่ละปี) ถูกกว่าแบบซ่อมห้างไม่น้อยเลย อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ส่วนใหญ่ประมาณ 2000-3000 บาท
- อู่มีให้บริการเยอะกว่าศูนย์ (จะเยอะจะน้อยขึ้นอยู่กับ บริษัทประกันด้วยนะ เช่นว่า อู่นี้รับรถที่ประกันของวิริยะ แต่ไม่รับของที่อื่นเป็นต้น) ดังนั้นจึงมีความสะดวกและรวดเร็วมากกว่า เพราะว่าเราอาจจะไม่ต้องเดินทางไปไกลมาก อีกทั้งรถที่มาซ่อมไม่ไปกระจุกกันที่เดียวแบบศูนย์
- ปัจจุบันอู่ทีี่ให้บริการ มีมาตรฐานสูง (บางคนบอกว่าไม่แพ้ศูนย์เลย) แต่อย่างไรก็ตาม เราควรหาข้อมูลว่าอู่ที่เข้าไปใช้บริการนั้นดีหรือไม่ เพราะถ้าได้อู่ดี ๆ การซ่อมจะมีมาตรฐานมาก บางอู่ซ่อมดีกว่าศูนย์ก็ยังมีเลย (บางอู่ที่รับเฉพาะบางยี่ห้อ เราสามารถมองว่า อู่นั้นมีความเชี่ยวชาญกับเฉพาะรถยี่ห้อนั้น ๆ ก็ได้)

ซ่อมอู่ ข้อเสีย
- การซ่อมจากอู่ อะไหล่ไม่จำเป็นว่าจะเป็นของแท้เสมอไป ซึ่งบางครั้งเป็นของเวียนซ่อมก็มี ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุพินิจของประกัน (เห็นว่ากันมาแบบนั้นนะ)
- บางครั้งเราอาจถูกอู่เล่นตุกติกก็ได้ เพราะถ้าเจออู่ที่ไม่ซื่อตรง อาจจะเอาอะไหล่ที่มีคุณภาพต่ำมาให้เรา โดยที่เราเองก็ไม่อาจรู้ได้
- บางอู อาจไม่มีความเป็นมืออาชีพพอ ในการตามแก้งานซ่อมที่ออกไปจากอู่เอง บางเจ้าอาจปัดความรับผิดชอบว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากการซ่อมที่อู่ก็มี
- โดยรวมแล้ว ข้อเสียของอู่ซ่อมนั้น มีความน่าเชื่อถือ ต่ำกว่าศูนย์มากนั่นเอง

*โดยสรุปแล้ว ประเด็นของการซ่อมศูนย์กับซ่อมห้าง ส่วนที่แตกต่างกันจริง ๆ ดูเหมืออนจะเป็นที่ตัวอะไหล่มากกว่า เพราะว่าเราจะได้อะไหล่แท้ ๆ ไม่ใช่ของเทียมนั่นเอง แต่บาง บริษัทประกันภัย ก็อนุญาติให้อู่ที่ contact กันอยู่เบกอะไหล่แท้จากศูนย์ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นอู่ใหญ่ ๆ ส่วนมาตรฐานอู่ซ่อมถ้าศึกษา หาข้อมูลหน่อยคิดว่าหาอู่ที่ดีไม่น่าจะยากนัก (เพิ่มเติม แต่บางศูนย์ที่ตัวพนักงานตุกติดอะไหล่เองก็มีนะ เคยได้ยินว่าแบตใหม่ ๆ ของเราถูกเปลี่ยนไปเป็นของเก่า โดยพนักงานก็มี)

** ถ้าเรามีประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ ที่จริงเราก็สามารถเอาเข้าศูนย์ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้อง เสีย “ค่าส่วนต่าง” เอง เช่น สมมุติว่าซ่อมศูนย์คิด 2000 แต่ซ่อมอู่ตีวงเงินไว้แค่ 1200 เราต้องเสียส่วนต่างเองอีก 800 บาท ซึ่งบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายมาก ทำให้ดูไม่คุ้มค่านักที่จะเอาเข้าศูนย์

*** ปกติแล้วเราจะสามารถเลือกประกันแบบซ่อมห้าง ได้สูงสุด 3 ปี แต่ว่าบางบริษัทรถยนต์ อาจจะทำการต่อรองกับบริษัทประกันภัย ทำให้ซ่อมห้างได้สูงสุด 5 ปี เช่น Nissan และ Mitsubishi เป็นต้น (ได้ยินมาว่างั้นนะ)



ประกันรถยนต์ ไม่ได้คุ้มครองทุกคน (ที่มีใบขับขี่) เหรอ?
พอดีว่า ตอนลองหาข้อมูลตอนแรก ๆ เห็นคนพูด ๆ กันว่า ได้ราคาประกันเท่านี้ แต่ระบุชื่อคนขับ 2 คนบ้าง / 3 คนบ้าง ก็ว่ากันไป ไอ้เราก็เลย งง ๆ คิดว่า อ้าว การทำประกันรถยนต์ไม่ได้คุ้มครองทุกคนที่ขับเหรอ (เคยได้ยินแต่ว่า ถ้าคนขับไม่มีใบขับขี่ ประกันไม่จ่ายให้) ก็เลยไปตามหาข้อมูลเพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้น ซึ่งได้ความมาว่า ปกติแล้วประกันก็ครอบคลุมไม่ว่าใครขับนั่นแหละ แต่ว่าการกำหนดคนที่ขับลงไปด้วยนั้น จะทำให้เบี้ยประกันของเราถูกลงนั่นเอง (ก็คือ ลดราคาลงมานั่นแหละ)

โดยการลดราคา จะเป็นไปตามนี้
อายุ 18-24 ปี ลดให้ 5 %
อายุ 25-35 ปี ลดให้ 10 %
อายุ 36-50 ปี ลดให้ 15 %
อายุ 50 ปีขึ้นไป ลดให้ 20 %

อ้างอิงจาก:
http://www.prakunrodyon.com/820043/



ส่วนลดประกันในแต่ละปี กรณีที่เราไม่ได้ทำการเคลมประกันเลย
ผมเชื่อว่า แทบทุกคน ถึงแม้จะมีความรู้เรื่องประกันรถยนต์ไม่มาก แต่ก็จะรู้ว่าถ้าเราไม่ได้ทำการเคลมเลย ปีถัดไปเราจะจ่ายเบี้ยประกันลดลง (เรื่องอื่นไม่เคยรู้ พอเรื่องเกี่ยวกับเงินทองเนี่ย รู้กันดีเชียว หุหุ) ก็คือ ทางบริษัทประกัน จะให้ส่วนลดเรา เนื่องจากว่าเรามีประวัติในการขับขี่ดีนั่นเอง (ชื่อภาษาอังกฟษ เรียกว่า No Claim Bonus - NCB)

การเคลมนั้น จะไม่มีผลใด ๆ ถ้าหากว่าคู่กรณีของเราเป็นฝ่ายผิด เพราะทางบริษัทประกันภัยสามารถ ให้คู่กรณีเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เราได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะยังได้ส่วนลดเหมือนเดิม

แต่แม้ว่าหลาย ๆ คนจะรู้ว่าเราได้ส่วนลดในกรณีแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ส่วนลดประมาณเท่าไร ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ส่วนลดจะได้ดังนี้

ลด 20 % ถ้าไม่มีการเคลมเลย 1 ปี
ลด 30 % ถ้าไม่มีการเคลมเลย 2 ปี
ลด 40 % ถ้าไม่มีการเคลมเลย 3 ปี
ลด 50 % ถ้าไม่มีการเคลมเลย 4 ปี

กรณีที่เคลม ส่วนลดที่เราจะได้นั้น จะลดลง 1 ขั้น ก็คือ สมมุติว่าเรา ได้ส่วนลดไปถึงระดับ 40% แล้ว แต่เรามีการเคลมในปีนั้น เราก็จะได้ส่วนลด 30% ในการต่อครั้งต่อไป ขอเพิ่มเติมนิดนึง เห็นบอกกันว่า ถ้าเราเคลมเกินกว่า 200% ของ เบี้ยประกันที่เราจ่าย ส่วนลดจะลดลง 2 ขั้น ไม่ใช่ 1 ขั้น

http://www.finansa-asset.com/recently/articles/th_Auto_insure.html (ดูเรื่อง NCB)
 
ขอขอบคุณข้อมูลโดย http://bit.ly/1jIsEwM  คุณ Number18
เผยแพร่เพิ่มโดย Asn Broker
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blog
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์
 
 ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันรถยนต์ ชั้น1, ชั้น2พลัส, 3พลัส พรบ. ต่อประกันรถยนต์ จากบริษัท ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ โดย ASN Broker นายหน้าประกันรถยนต์ ออนไลน์อันดับ 1 ประกันภัยรถยนต์, ประกันรถยนต์ ,ประกันชั้น1, โบรกเกอร์, ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส, ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส, ต่อประกันรถยนต์, broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ, ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์,โปรโมชั่น รถยนต์,ประกันภัย ชั้น 1,พ ร บ รถยนต์,ราคา ประกัน ชั้น 1 ,เบี้ยประกันภัยรถยนต์,โปรโมชั่นรถ,ประกัน ชั้น1 ราคา,เมื่องไทย ประกันภัย รถยนต์,ประกันภัย ชั้น 3,เช็คเบี้ยประกันภัย รถยนต์
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น