รถยนต์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างด้วยวัสดุที่ทนทานแข็งแรงและมีคุณภาพนั้นก็จริงอยู่ แต่ด้วยการใช้งานของแต่ละคน รวมกับสภาพท้องถนนในปัจจุบัน จึงมีสิทธิ์ทำให้รถของคุณป่วยได้ อีกทั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการซ่อมแซมได้เช่นกัน ซึ่งหลายคนก็มีหลากหลายวิธีในการซ่อมรถตั้งแต่ขั้นซ่อมเอง (กรณีเป็นไม่มาก) จนถึงต้องเอาเข้าศูนย์หรือเข้าอู่ แต่จะทำอย่างไรให้ซ่อมได้อย่างคุ้มค่าที่สุด "ASTVผู้จัดการ มอเตอริ่ง" มีทางเลือกของการซ่อมมาให้ลองพิจารณาดูกัน
|
รถยนต์ใหม่...ต้องเข้าศูนย์บริการ รถยนต์ป้ายแดงทุกรุ่นต้องมีการรับประกันคุณภาพในขอบเขตที่เหมาะสม เช่น ความบกพร่องของอุปกรณ์ ความเสียหายอย่างผิดปกติจากการผลิตหรือประกอบ โดยมีการยกเว้นการใช้งานผิดประเภทหรืออุปกรณ์ที่ต้องเสื่อมสภาพ ผู้ประกอบการแต่ละรายกำหนดระยะเวลารับประกันคุณภาพแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่รถยนต์ยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่นหรือรุ่นเดียวกันแต่ในช่วงเวลามีข้อเสนอส่งเสริมการจำหน่าย อาจมีเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพที่แตกต่าง หากยังอยู่ในระยะรับประกันควรนำรถยนต์เข้ารับบริการตรวจสอบสภาพและดูแลที่ศูนย์บริการเท่านั้น เพื่อให้การรับประกันยังครอบคลุมอยู่ ผู้ที่ใช้รถยนต์ใหม่และยังอยู่ในระยะรับประกัน จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดและถ้ามีปัญหาในการใช้งาน เช่น รถยนต์เสียกลางทางสามารถให้ช่างทั่วไปซ่อมแซมเบื้องต้นได้ แต่ห้ามเปลี่ยนอุปกรณ์หลักโดยเด็ดขาด รวมถึงการเปลี่ยนอุปกรณ์ตกแต่ง เพราะมีผลต่อการรับประกันคุณภาพโดยตรง เช่น การโมดิฟายเครื่องยนต์อาจทำให้มีผลต่อเนื่องไปยังอุปกรณ์อื่นด้วย
|
ศูนย์บริการมั่นใจได้...แต่(มักจะ)แพง คุณต้องเข้าใจว่าศูนย์บริการนั้นเป็นตัวทำกำไรสำคัญของผู้จำหน่ายรถยนต์ทุกราย หลักในการให้บริการ มักถูกประยุกต์จากต้นกำเนิดบริษัทแม่ซึ่งคำนวณอายุการใช้งานเฉลี่ยของอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนไว้แล้ว แต่ผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยมักใช้วิธีเสียแล้วค่อยเปลี่ยนซึ่งถือว่าผิดหลักการอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าไว้ได้ การนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการเมื่อพ้นระยะรับประกัน ควรแจ้งความประสงค์ให้ชัดเจน ตรวจสอบว่ามีอะไหล่ชิ้นไหนที่เสียและให้ช่างแจ้งราคาก่อนลงเมื่อเปลี่ยนทุกครั้ง ไม่ควรบอกช่างว่าถ้าเจออะไหล่ชิ้นไหนเสียก็ให้เปลี่ยนได้เลย เพราะช่างจะเปลี่ยนอะไหล่ของรถคุณชนิดที่ราคาออกมาอาจจะเป็นลมเพราะอะไหล่บางชิ้นนั้นถึงแม้ว่าอาจจะเสื่อมลงบ้าง แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่หรือไม่ก็อาจจะหมดอายุการใช้งานแล้วแต่คุณใช้รถมาอย่างทะนุถนอมก็อาจจะใช้งานได้อีก (อย่าลืมว่าศูนย์บริการคือตัวทำกำไรของผู้จำหน่าย) แต่ถึงกระนั้นการเข้าศูนย์บริการก็มีข้อดีอยู่ที่มีการรับประกันทั้งคุณภาพการซ่อมและอะไหล่ที่มั่นใจได้
|
อู่ทั่วไปมีหลายระดับ...คุณก็เลือกเองได้ อู่ทั่วไปนั้นแบ่งเป็นหลายระดับ ผลงานในการซ่อมไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่บริการและเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับฝีมือของช่างและคุณภาพของอะไหล่ด้วย ไม่ควรเลือกอู่ที่ขาดอุปกรณ์มาตรฐานที่จำเป็นหรือสกปรกไปด้วยฝุ่นทรายคราบน้ำมันจนเกินไป บางอู่อาจสร้างความประทับใจด้วยการคิดค่าแรงต่ำแล้วเอากำไรด้วยการบวกค่าอะไหล่แทน บางครั้งอาจจะบวกค่าอะไหล่เกิน 100% ด้วยซ้ำ หากคุณสงสัยให้ลองโทรสอบถามร้านอะไหล่อื่นๆ แต่อย่าไปอ้างถึงศูนย์ที่ไปซ่อมเด็ดขาด หรือไม่ก็ลองเช็คราคาจากหลายๆ แห่ง ในส่วนของความคุ้มค่ากับการใช้อู่ทั่วไปให้เน้นที่ผลงานการซ่อม คุณภาพ และราคาอะไหล่ รวมถึงการคิดราคาอย่างตรงไปตรงมา อีกเรื่องที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามก็คือการเช็คสภาพรถของคุณก่อนเข้าอู่ว่าอยู่ในสภาพไหน เลขไมล์ที่เท่าไหร่เพราะบางอู่อาจจะมีช่างที่แอบเอารถลูกค้าออกไปใช้งานหลังจากซ่อมเสร็จ หรือบางทีอาจจะทำให้อุปกรณ์ของเราเสียไปด้วย
|
ศูนย์ซ่อมอิสระ...ทางเลือกใหม่ของผู้ใช้รถยนต์ อู่แบบนี้จะเหมือนเป็นการรวบรวมข้อดีของศูนย์บริการและอู่ทั่วไปเข้าไว้ด้วยกัน มีการระบุค่าแรงในการซ่อมแต่ละประเภทอย่างชัดเจน ไม่มีการคิดตามอำเภอใจ จึงมีจุดเด่นคือ คิดค่าแรงถูกว่าศูนย์บริการหรือบางแห่งก็ไม่คิดค่าแรง มีเครื่องมือมาตรฐานที่ครบครันและมีอะไหล่หลากหลายยี่ห้อให้เลือก ไม่จำเป็นต้องใช้อะไหล่แท้เท่านั้นแต่ก็สามารถรับประกันได้ด้วย โดยอะไหล่ที่นำมาใช้นั้นบางครั้งอาจจะถูกผู้จำหน่ายรถกล่าวอ้างว่าเป็นอะไหล่ปลอมเชื่อถือไม่ได้ ไม่มีคุณภาพ ทั้งที่ในความเป็นจริงบริษัทรถส่วนใหญ่ก็สั่งจากผู้ผลิตอื่นให้ผลิตให้ ซึ่งผู้ผลิตเหล่านั้นหลายรายก็ผลิตอะไหล่ออกมาจำหน่ายในยี่ห้อของตัวเอง ในคุณภาพที่ทัดเทียมกับที่ส่งให้กับบริษัทรถและไม่ได้จัดเป็นอะไหล่ปลอมแต่เป็นอะไหล่ทดแทน ที่มีราคาถูกว่าเกือบครึ่ง ฉะนั้นศูนย์บริการแบบนี้จึงเฟ้นหาอะไหล่แบบนี้มาบริการดึงดูดลูกค้ากัน แต่ศูนย์ซ่อมอิสระนี้ส่วนใหญ่เน้นที่การดูแลรักษาโดยใช้เวลาไม่นานมากคืองานซ่อมย่อยๆ ถึงปานกลาง เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, เปลี่ยนยาง, ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ, เปลี่ยนโช้คอัพ, เปลี่ยนผ้าเบรก ฯลฯ ...ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่แนวทางในการเลือกเท่านั้น เพราะหากรถของคุณเสียมาขึ้นมาวันใดก็ควรเอาเข้าศูนย์ที่ใกล้ที่สุดไว้ก่อนจะดีที่สุด หรือไม่ก็ลองเช็คจากหลายๆ ที่เพื่อดูว่าที่ไหนจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเพราะ "ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง" ก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าศูนย์ไหนหรือว่าอู่ไหนจะดีที่สุด แต่อยู่ที่คุณเป็นคนตัดสินใจ... |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น