วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คลิป ปอ.33 ฝ่าไฟแดงแยกแคราย หวิดดับสยอง!! ลงโทษปรับแค่ 1,000 พักงาน 3 วัน #เรื่องรถน่ารู้ #ASNBroker #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

คลิป ปอ.33 ฝ่าไฟแดงแยกแคราย หวิดดับสยอง!! ลงโทษปรับแค่ 1,000 พักงาน 3 วัน #เรื่องรถน่ารู้
คลิป ปอ.33 ฝ่าไฟแดงแยกแคราย หวิดดับสยอง!! ลงโทษปรับแค่ 1,000 พักงาน 3 วัน #เรื่องรถน่ารู้ #ASNBroker #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์ 
เฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อ Chanthapak Ooseven ได้โพสต์คลิปรถเมล์ ปอ. 33 ฝ่าไฟแดงความยาว 20 วินาที เป็นเหตุการณ์ขณะจอดรถรอสัญญาณไฟอยู่บริเวณสี่แยกแคราย พอถึงช่วงสัญญาณไฟเขียว รถที่จอดอยู่ต่างทยอยเคลื่อนตัว แต่แล้วจู่ๆ ก็มีรถเมล์ ปอ.ฝ่าไฟแดงออกมาจากอีกฝั่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้รถฝั่งที่ได้สัญญาณไฟเขียวต้องหยุดรอให้รถเมล์ ปอ.ฝ่าไฟแดงคันดังกล่าวพ้นไปก่อนเพื่อความปลอดภัย
ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=ibF0fWT2YaU


ทั้งนี้ หลังจากคลิปรถเมล์ ปอ.ฝ่าไฟแดงถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การกระทำของโชเฟอร์รถเมล์ ปอ.คันดังกล่าว อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้
 



ล่าสุดบริษัท กิตติสุนทร จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารสายดังกล่าว โพสต์ชี้แจงว่า ทางบริษัทฯได้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าเป็นการกระทำผิด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงได้ โดยวันนี้ริษัทฯได้เรียกพนักงานขับรถ รหัส 33A-22 เข้ามารับทราบความผิด พร้อมทั้งอบรมและบทลงโทษในการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมครั้งนี้ บริษัทฯพิจารณาแล้วว่าควรลงโทษหักเงิน 1,000 บาท และพักการทำงานเป็นเวลา 3 วัน

Credit: ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เกียร์ออโตติดไฟแดงนานๆ เหยียบเบรกหรือปลดเกียร์ว่าง แบบไหนดีกว่ากัน #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

เกียร์ออโตติดไฟแดงนานๆ เหยียบเบรกหรือปลดเกียร์ว่าง แบบไหนดีกว่ากัน #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
เกียร์ออโตติดไฟแดงนานๆ เหยียบเบรกหรือปลดเกียร์ว่าง แบบไหนดีกว่ากัน #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ดูๆ ไปแล้ว การใช้งานเกียร์ออโตที่มีความคิดเห็นแตกต่างออกไปจากเหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญชำนาญการเรื่องของเกียร์ก็เหมือนกับการคิดล้มล้างทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไตน์ยังไงยังงั้น แนวความคิดของการใช้งานเกียร์อัตโนมัติที่แปลกแยกแตกต่างไปจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์กลายเป็นผิดไปหมดทั้งๆ ที่ความเป็นจริงสามารถกระทำได้ เกียร์ออโตที่ออกแบบให้เลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้นั้น เมื่อติดไฟแดงนานๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ส่วนใหญ่หรือเกือบจะทั้งวงการแนะนำให้เหยียบเบรกคาเกียร์ D เอาไว้จนกว่ารถคันข้างหน้าจะเคลื่อนตัว หากติดไฟแดงไม่นานก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดการติดแบบสาหัสสากรรจ์ เช่น ข้างหน้ามีอุบัติเหตุจนขวางช่องทางจราจร หรือฝนตกน้ำท่วมขังทำรถติดทั้งเมือง การจะมานั่งใช้เท้าขวาเหยียบเบรกยัดเกียร์ D หรือเกียร์ขับเคลื่อนเอาไว้นานจนแมงมุมเริ่มชักใย ดูไปมันช่างฝืนความรู้สึกและเต็มไปด้วยความเมื่อยขบปวดขากับความคิดดังกล่าว

แรงดันในระบบของเกียร์อัตโนมัตินั้น เมื่อเลื่อนคันเกียร์จาก N ไปที่ตำแหน่ง D จะเกิดแรงดันขึ้นเพื่อดันของเหลวหรือน้ำมันเกียร์ให้มีการไหลเวียนเพื่อหล่อลื่นการทำงาน การเลื่อนคันเกียร์บ่อยๆ จะทำให้เกียร์สึกหรอโดยใช่เหตุ !! ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำวิธีการใช้งานเกียร์ออโต โดยมักจะบอกกันว่าตั้งแต่สตาร์ตเครื่องยนต์ใส่เกียร์ D ขับออกจากบ้าน เมื่อเจอสภาพจราจรที่ติดขัดไม่ว่าจะสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน ก็ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์เลื่อนไปเลื่อนมาระหว่าง D และ N ให้เหยียบเบรกเอาไว้พร้อมกับคาเกียร์ในตำแหน่ง D ตลอดเวลาแม้รถจะติดโหดจนขาแทบพลิกเพราะต้องเหยียบแป้นเบรกยาวนานจนตะคริวกินขาเลือดไม่เดิน แทนที่เกียร์จะพังกลับเป็นขาของคนขับที่พังแทน เกจิในวงการบางท่านหรือนักเลงรถเจ้าของอู่ที่เชี่ยวชาญในด้านระบบส่งกำลังต่างออกมาบอกกันว่า ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ ในเกียร์อัตโนมัติจะหยุดส่งถ่ายแรงดันเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ว่างหรือเกียร์ N และหากเลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่งขับเคลื่อนหรือ D เพื่อขับเคลื่อน แรงดันจากระบบเกียร์จะทำงานต่อทันทีที่เข้าเกียร์ D ทำให้ภายในระบบเกียร์และวาล์วภายในมีแรงดันไม่ต่ำกว่า 2-5 บาร์ สำหรับให้กำลังในการออกตัว หากทำแบบนั้นบ่อยๆ จะทำให้เกียร์สึกหรอซึ่งพิสูจน์กันแล้วว่าไม่จริงเสมอไป

ตลอดระยะเวลาในการขับใช้งานรถยนต์ส่วนตัวของผม ซึ่งเป็นรถ BMW 318i e36 ปี 1997 ระยะเลขไมล์ที่ 197,920 กิโลเมตร เมื่อติดไฟแดงนานๆ เกิน 3-5 นาที ในบางแยก เช่น จากศรีนครินทร์ไปลำสาลีในช่วงเย็น หรือจากห้าแยกลาดพร้าวไปยังแยกรัชโยธินในช่วงวันศุกร์สิ้นเดือนที่มีฝนตกหนักในตอนเย็น หรือแม้แต่แยกสาทรในช่วงเวลาเลิกงาน เมื่อผจญกับรถติดหนักติดนาน ผมใช้การเลื่อนคันเกียร์อัตโนมัติจาก D ไปที่ N แล้วดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถไหล เกียร์ออโตของ BMW 318i รุ่นนี้เป็นเกียร์อัตโนมัติของ GM ที่มีการดูแลรักษาเปลี่ยนถ่ายของเหลวหรือน้ำมันเกียร์ตามระยะทาง ไม่ค่อยขับแบบลากเกียร์หรือยัดเกียร์เองในโหมดแมนนวล ไม่ว่าจะติดนานแค่ 1-2 นาที หรือนิ่งสนิทลากกันยาวจนแทบจะหลับคารถ ผมมักเลื่อนคันเกียร์ไปยังเกียร์ว่างหรือ N แล้วดึงเบรกมือเพื่อพักเท้าขวา จากปี 1997 จนมาถึงปี 2015 เป็นระยะเวลา 18 ปีแล้วที่เกียร์ยังคงรับใช้ทำหน้าที่่เป็นปกติไม่มีอาการของการสึกหรอหรือลดการตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น ใส่เกียร์ D หรือเกียร์ R ก็ไม่ต้องรอกันนานแบบอาการก่อนเกียร์จะพัง หากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ผมคงต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ลูกจากระยะเวลาในการใช้รถ และการเลื่อนคันเกียร์ไปมาระหว่าง D-N-R P ตลอด 18 ปี ลองคิดกันเอาเองนะครับ

เกียร์ออโตจะเกิดการสึกหรอเสียหายนั้น นอกจากการเลื่อนคันเกียร์ไป-มาซึ่งเป็นวิธีใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้วที่คุณต้องเลื่อนจาก P ไป R ไป N ไปที่่ D หรือแม้แต่ D1-D2 หากพบเจอกับทางขึ้นเขาลงเนิน การสึกหรอเสียหายยังเกิดขึ้นได้จากการใช้งานที่่ผิดวิธี เช่น ไม่เคยเปลี่ยนของเหลวหล่อลื่นมานานจนจำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ ชอบขับแบบลากรอบลากเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงด้วยตัวเองบ่อยครั้งแทนที่จะให้ ECU ของเกียร์ทำงานไปตามเรื่องตามราวของมัน รถยังไม่ทันหยุดก็ทำตัวเป็นเด็กแว้นใจร้อนรนยัดเกียร์ถอยซะแล้ว แบบนั้นแหละครับที่เป็นตัวการในการทำให้เกียร์ออโตของคุณกระจายก่อนวัยอันควร ไม่ใช่แค่การเลื่อนคันเกียร์จาก D ไป N เพื่อพักเท้าพักขาเมื่อเจอเข้ากับรถติดหนักๆ

วิธีที่ท่านผู้เชี่ยวชาญชำนาญการเรื่องรถยนต์แนะนำให้คาเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกเอาไว้ก็สามารถทำได้หากคุณเป็นคนหวาดระแวงและไม่มีเงินมากพอที่จะซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ใหม่เมื่อเกียร์เกิดอาการเสียไม่ทำงาน การกระทำแบบนั้น ถึงแม้รถจะหยุดนิ่งแต่ก็มีความเสี่ยงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ จากความเผอเรอเมื่อน้ำหนักเท้าขวาที่กดลงไปบนแป้นเบรกเกิดอาการอ่อนล้าเมื่อยขบ ขาเกิดอาการชาหรือตะคริวกินขาโดยเฉพาะคนที่มีอายุเยอะๆ เพียงแค่ผ่อนคลายน้ำหนักที่แป้นเบรกนิดเดียว แรงหมุนของเกียร์อาจเอาชนะแรงกดแป้นเบรกที่ลดลงได้จากความเผอเรอหรือเมื่อยล้า เกียร์ออโตที่ใส่ตำแหน่ง D หรือตำแหน่งของการขับเคลื่อนก็พร้อมที่จะทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าทันที ผลก็คือไหลไปเสยท้ายรถชาวบ้านชาวช่องแบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คุณต้องเสียเงินเสียเวลาเกิดเรื่องเกิดราว หากสภาพการจราจรเข้าขั้นจลาจล ติดหนักหนาสาหัสนานหลายนาที การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก D มายังตำแหน่ง N หรือตำแหน่งของเกียร์ว่างพร้อมๆ กับการใช้เบรกมือจะช่วยทำให้คุณใช้รถได้อย่างปลอดภัย มันอาจสึกหรอบ้างตามอายุการใช้งานแต่คงไม่พังคาเท้ากันไปในบัดดลอย่างแน่นอน

จะใช้วิธีไหนเมื่อรถติดก็เลือกเอาจากความถนัดและความชอบความเชื่อนะครับ การใช้งานอันหลากหลายของเกียร์ออโตขึ้นตรงต่อการดูแลรักษาอย่างที่บอก หากไม่เคยใส่ใจเหลียวแลเปลี่ยนถ่ายของเหลวแถมยังขับแบบทำร้ายเกียร์ตลอดเวลา ต่อให้คุณเหยียบเบรกคาเกียร์ D ยามรถติดทุกครั้งตามที่เกจิบอกเกียร์ของคุณก็พังได้เหมือนกัน อยากจะบอกว่าเกียร์ออโต 7 สปีดในรถสปอร์ต AUDI R8 V10 S-Line ของท่านที่รู้จักกัน รถอายุ 4 ปี วิ่งใช้งานน้อยมากไม่ถึง 8,000 กิโลเมตร เพราะมีรถเยอะเป็นสิบคันจึงไม่ค่อยได้ขับ เกียร์มีปัญหาไม่ยอมเปลี่ยนซะแล้ว แล้วยังไงครับ เปลี่ยนเกียร์ R8 ลูกหนึ่งได้ยินราคาแล้วลมแทบใส่ครับ
จะใช้วิธีไหนก็ได้ตามแต่สะดวกไม่มีใครผิดหรือถูกต้องไปซะทั้งหมด เพียงแค่เปิดใจให้กว้างยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างดูบ้าง โลกใบนี้คงน่าอยู่ขึ้นเยอะ สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผม หากรถติดไม่นานก็ทำตามอย่างที่เกจิอาจารย์แนะนำก็คือ เหยียบเบรกคาเกียร์ D เอาไว้ป้องกันเกียร์ระเบิดเพราะแรงดันมหาโหดในระบบ และเมื่อติดหนึบเหนียวแน่นจนปัสสาวะแทบราดเหยียบเบรกต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็ให้ใส่เกียร์ว่างหรือเกียร์ N แล้วดึงเบรกมือป้องกันรถไหลพอได้พักเท้านวดขานวดเท้าแก้เมื่อยขบก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะทำให้เกียร์กระจายก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom 

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/505942

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แก้ไขด้วยตนเอง เมื่อโคมไฟรถไม่สว่าง #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

การแก้ไขด้วยตนเอง เมื่อโคมไฟรถไม่สว่าง #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
แก้ไขด้วยตนเอง เมื่อโคมไฟรถไม่สว่าง #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ASN Broker พามาดูเรื่องโคมไฟรถไม่สว่างบ้าง อันนี้ก็ทำให้เกิดปัญหาเหมือนกัน เพราะทำให้ทัศนวิสัยในการขับรถตอนกลางคืนแย่ลง และทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน สาเหตุที่ทำให้ไฟไม่สว่างส่วนมากจะมาจากรถที่มีอายุการใช้งานนาน ๆ พวกโคมไฟหลอดไฟเสื่อมสภาพถึงแม้จะยังติดอยู่แต่ความสว่างก็จะน้อยลงเป็นลำดับ นอกจากนี้พวกสายไฟเก่า ๆ ก็ทำให้ไฟเดินไม่สะดวกเพราะเกิดความต้านทานในตัวสูงขึ้นและขั้วต่อต่าง ๆ สกปรกหรือหลวม

          การแก้ไขก็ต้องเดินสายไฟใหม่และเปลี่ยนหลอดไฟใหม่หากมันเก่ามาก ถึงจะหายขาดแต่ก็มีวิธีแก้ไขแบบชั่วคราวเมื่อยังไมพร้อมที่จะเดินสายไฟใหม่ คือการติดตั้ง “ชุดรีเลย์”ช่วยในการจ่ายกระแสไฟแทนของเดิมซึ่งอาจมีปัญหาในการจ่ายกระแสไฟไม่พอจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวมา ซึ่งรีเลย์จะทำหน้าที่เช่นเดียวกับสะพานไฟแบบหนึ่งที่สามารถจ่ายไฟกระแสสูงได้มากกว่าสวิทช์ไฟธรรมดาจึงเหมาะแก่การจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินกระแสมาก ๆ ได้โดยปลอดภัยไร้ปัญหา
 
          คงต้องขออธิบายเรื่องของการ “กินกระแสไฟ” เพื่อความเข้าใจกันเสียก่อน กล่าวคือ หากอุปกรณ์ไฟฟ้ามีการกินกระแสไฟมาก ๆ เช่น โคมไฟหน้า มอเตอร์สตาร์ท การจ่ายกระแสไฟฟ้าไปให้จะต้องเพียงพอแก่ความต้องการอุปกรณ์เหล่านี้ถึงจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากเป็นไฟส่องสว่างก็จะให้แสงสว่างได้เต็มที่ไม่หรี่แดงเหมือนไฟตะเกียง ดังนั้นตั้งแต่สายไฟ สวิทซ์ไฟ ก็ต้องสามารถให้กระแสไฟสูงผ่านได้โดยสะดวก เพราะหากสายไฟเล็กเกินไปหรือสวิทซ์ไฟทนกระแสสูงได้ได้ก็จะทำหเกิดความร้อนและต้านการไหลของกระแสไฟจึงต้องมีการคำนวณอัตราการกินกระแสไฟเพื่อเลือกใช้สวิทซ์และสายไฟขนาดที่ถูกต้องในอุปกรณ์แต่ละชนิด

          อย่างหลอดไฟหน้าที่ติดมาจากโรงงานซึ่งมีกำลังในการส่องสว่าง 55-60 วัตต์ จะมีอัตราการกินกรแสไฟ 4.5 และ 5 แอมป์ชั่วโมงตามลำดับ ขึ้นอยู่กับว่ากำลังเปิดไฟสูงหรือไฟต่ำอยู่  เมื่อรวมกัน 2 ดวงก็จะกินกระแสประมาณ 10 แอมป์ ดังนั้นการใช้สวิทซ์ก็จะต้องทนกระแสสูงได้โดยสวิทซ์จะต้องมีพื้นที่หน้าสัมผัสของสะพานไฟหรือคอนแท็คท์เพื่อให้กระแสไฟไหลผ่านมากพอ ในรถสมัยโบราณจะใช้สวิทซ์ไฟที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่เป็นแบบใช้มือดึง ผู้ที่มีอายุประมาณเกิน 40 ปีขึ้นไปและเคยขับรถรุ่นเก่า ๆ จะคุ้นเคยเป็นอย่างดีเนื่องจากตอนนั้นยังไม่นิยมใช้รีเลย์เพราะเน้นความง่ายและคงทนในการติดตั้งและใช้งานเป็นหลัก การลิฟท์ไฟสูงต่ำก็ยังใช้สวิทซ์มีทั้งมือดึงและเท้าเหยียบ อย่างในรถ JEEP ต่อมาการออกแบบรถยนต์รวมทั้งอุปกรณ์ภายในมีความทันสมัยและหรูหราขึ้นสวิทซ์ไฟใหญ่และไฟหรี่ถูกย้ายขึ้นมาอยู่ที่ก้านไฟเลี้ยวซึ่งมีขนาดเล็กเพราะพื้นที่จำกัด เหตุที่ย้ายขึ้นมาไว้ตรงนี้เพื่อให้อยู่ใกล้มือสะดวกในการเปิด-ปิดไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย และดูทันสมัยขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดสวิทซ์ก็ต้องมีขนาดเล็กลงจึงต้องใช้รีเลย์เป็นตัวจ่ายไฟกระแสสูงแทน โดยใช้สวิทซ์อันเล็กเป็นตัวปล่อยไฟกระแสต่ำไปคอนโทรลให้รีเลย์ทำการตัดหรือจ่ายกระแสไฟอีกที

          ในตัวรีเลย์จะประกอบด้วยหน้าคอนแท็คท์ขนาดใหญ่และใช้แรงแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นตัวกระทำให้หน้าคอนแท็คท์สัมผัสกันโดยรับกระแสไฟจากสวิทซ์ที่ก้านไฟเลี้ยวหรือตลาดแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งกินกระแสไม่มาก ในระบบไฟรถยนต์เดี๋ยวนี้จะใช้รีเลย์เป็นตัวจ่ายไฟ กระแสสูงให้กับวงจรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากเพราะสะดวกในการใช้งานและมีความคงทน สามารถออกแบบสวิทซ์ควบคุมอุปกรณ์ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อความสวยงามในห้องโดยสารและคอนโซลหน้า และยังเหมาะกับการนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเพิ่มเติมซึ่งมีการกินกระแสไฟสูงหรือช่วยแก้ปัญหาเรื่องไฟไม่สว่างได้ดีดังที่จะนำมาให้ดูเป็นตัวอย่างในตอนนี้

 

          การแก้ปัญหาลักษณะนี้ทำได้ทั้งแบบซื้อรีเลย์มาติดเองหรือไปให้ร้านซ่อมไดนาโมช่วยจัดการให้ก็ได้ และอีกวิธี คือ ซื้อชุดสำเร็จจากร้านอะหลั่ยรถยนต์มาติดตั้งก็ค่อนข้างสะดวกเพราะไม่ตอ้งมานั่งไล่วงจรกันใหม่ สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยสันทัดในเรื่องไฟฟ้าจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาก จะมีเป็นชุดทั้งของทำในประเทศและของนอกของนอกอาจจะไม่ค่อยเห็นเพราะราคาแพงและคุณภาพไม่หนีกันเท่าไหร่เท่าที่ดูแล้วของบ้านเราก็จัดว่าคุณภาพสูงพอควรเพราะใช้ตัวรีเลย์ของ HELLA   สำหรับชุดที่นำมาติดตั้งในรถคันที่นำมาเป็นแบบนี้มีความสามารถในการจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 25 แอมป์ จำนวน 2 ตัว มีการเดินสายไฟให้เรียบร้อยพร้อมขั้วต่อที่มีมาตรฐานพร้อมที่จะเสียบเข้ากับขั้วของหลอดไฟเดิมและต่อเข้ากับขั้วแบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดายและตัวรีเลย์ก็หาที่ติดตั้งในห้องเครื่องได้ไม่ยาก ชุดสายไฟมีปลอกหุ้มป้องกันมาให้อีกขั้นทำให้ดูไม่แพงสำหรับราคาประมาณ 400 บาท

          หลังจากติดตั้งและต่อวงจรโดยกระแสไฟที่มาเลี้ยงหลอดไฟเดิมจะถูกเปลี่ยนมาเลี้ยงที่รีเลย์เมื่อเราเปิดไฟตามปกติ กระแสไฟจะมาทำให้เกิดอำนาจแม่เหล็กทำหให้หน้าคอนแท็คท์แตะกันจ่ายไฟกระแสสูงไปยังหลอดไฟ โดยกระแสไฟจะมาจากแบตเตอรี่โดยตรงผ่านหน้าคอนแท็คท์ในรีเลย์ไปสู่หลอดไฟทำให้มีกระแสไฟไปยังหลอดไฟเต็มที่ไฟสว่างเต็มตามกำลังส่องสว่างที่ระบุไว้ในหลอดไฟ

ที่มา http://www.asnbroker.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ห้ามรถวิ่งในเมืองเกิน 50 กม./ชม. จัดเต็ม ความปลอดภัยจักรยาน #ข่าวจราจร #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

ห้ามรถวิ่งในเมืองเกิน 50 กม./ชม. จัดเต็ม ความปลอดภัยจักรยาน #ข่าวจราจร #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ห้ามรถวิ่งในเมืองเกิน 50 กม./ชม. จัดเต็ม ความปลอดภัยจักรยาน #ข่าวจราจร #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ต้นเดือน ก.ค.จะเสนอรายละเอียด
เกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินโครงการเส้นทางจักรยาน 1,000 แห่ง ภายในปี 2559
ตามนโยบาย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ให้ ครม.รับทราบ
ซึ่งจะมีรายละเอียดแผนการก่อสร้างทางจักรยานทั้งประเทศที่กำหนดให้มีการนำยางพารามาใช้เป็นส่วนประกอบ
รูปแบบมาตรฐานทางจักรยาน และแนวทางปรับเปลี่ยน กฎระเบียบ 
หรือออกมาตรการเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่จักรยาน

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ได้ดำเนินการก่อสร้างทางจักรยานไปแล้วรวมทั้งสิ้น 765 กิโลเมตร 
อยู่ระหว่างก่อสร้าง 19 กิโลเมตร และเตรียมการก่อสร้างเพิ่มอีก 2,225 กิโลเมตร 
ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยผู้ขับขี่จักรยาน ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) 
ได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 

โดยให้มีการปรับลดความเร็วการขับขี่รถยนต์ในเขตเมืองไม่ให้เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จากปัจจุบันใช้ความเร็วได้ 80 กม.ต่อ ชม. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับจักรยาน
ซึ่งจะนำกลับไปพิจารณาต่อไป รวมทั้งขอให้ปรับหลักสูตรผู้สอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ประเภทต่างๆ
โดยในอนาคตจะออกข้อสอบความรู้เกี่ยวกับการใช้ทางร่วมกับจักรยานอย่างปลอดภัยด้วย.

ที่มา http://www.asnbroker.co.th

VW แฮครถสร้างหน้าปัดไมล์ไฮเทค ใช้ลูกเตือนใจว่าพ่อแม่จ๋าอย่าขับซิ่ง! #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์

VW แฮครถสร้างหน้าปัดไมล์ไฮเทค ใช้ลูกเตือนใจว่าพ่อแม่จ๋าอย่าขับซิ่ง! #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์
VW แฮครถสร้างหน้าปัดไมล์ไฮเทค ใช้ลูกเตือนใจว่าพ่อแม่จ๋าอย่าขับซิ่ง! #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์

แบรนด์รถยนต์นอกจากจะโปรโมทขายรถคันเจ๋งของตัวเอง และสร้างเครือข่ายของบริการหลังการขายที่ดีแล้ว สิ่งที่ละเลยไม่ได้ก็คือ การทำให้ทุกชีวิตในรถและบนท้องถนนปลอดภัย ซึ่งก็มักจะอยู่ในรูปแบบของการทำกิจกรรมเชิง CSR และสำหรับโฟล์ก แบรนด์รถไฮเทคจากเยรมันก็เล็งเห็นความสำคัญนี้ จึงหยิบเอาความสัมพันธ์ในครอบครัวมาเป็นตัวแปรให้ผู้ขับรถ ขับให้ช้าลง และอุบัติเหตุก็จะน้อยตามลงมา
โดยทีมงานโฟล์ก จากนิวซีแลนด์จึงคิดออกมาเป็นกิจกรรมชื่อ Reduce Speed Dial ที่อาศัยการแฮคหน้าปัดรถยนต์ให้เปลี่ยนจากเขมไมล์มีดำๆ ขาวๆ และมีตัวเลขเต็มไปหมด ให้กลายเป็นกระดานดำวาดรูปของลูกๆ ที่สามารถใส่ข้อความน่ารักๆ ส่งเตือนใจให้กับพ่อแม่ที่ชอบบึ่งรถเร็วๆ ซึ่งลูกๆ สามารถวาดมันจากไอแพด และส่งไปยังหน้าปัดรถของคุณพ่อคุณแม่ได้เลย
2015-05-12_14-35-492015-05-12_14-35-29
ทุกทีที่เหลือบไปเห็นเข็มไมล์ก็จะเห็นหน้าคนรักที่รออยู่ที่บ้านขึ้นมาทันที ฉะนั้นสติมา การเร่งคันเร่งก็ลดลงเพราะต้องการปลอดภัยไว้ก่อน
เสียงจากพ่อแม่หลายคนที่ได้ใช้หน้าปัดไมล์ลายการ์ตูนฝีมือลูกๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อให้ไม่มีการควบคุมสปีดรถ แต่ลายมือของลูกคือการสั่งให้เราควบคุมจิตใจให้ดีขณะขับรถ และคุณพ่อบางคนก็บอกตั้งแต่ติดหน้าปัดแบบนี้เขาไม่เคยขับเกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงอีกเลย!

ดูวิดีโอเบื้องหลังกิจกรรม Speed Dial จากโฟล์กได้ที่นี่

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พ่อ...หยุดไลน์หาผมซะที! ผลสะท้อนการเกิดอุบัติเหตุแชทขณะขับรถ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

พ่อ...หยุดไลน์หาผมซะที! ผลสะท้อนการเกิดอุบัติเหตุแชทขณะขับรถ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
พ่อ...หยุดไลน์หาผมซะที! ผลสะท้อนการเกิดอุบัติเหตุแชทขณะขับรถ #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

 
เชื่อหรือไม่!!!! ว่าสถิติจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการใช้โทรศัพท์มือถือนั้น มีมากกว่าการเมาแล้วขับเสียอีก
โดยในสหรัฐอเมริกาเกิดอุบัติเหตุมากกว่า 1.6 ล้านครั้งต่อปี หรือเฉลี่ย 4 พันครั้งต่อวัน
โดยจากผลการวิจัยของสถาบันกิจการขนส่งเวอร์จิเนียร์เทคฯ พบว่าการพยายามพิมพ์ข้อความ ขณะขับรถจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุด
มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้อง ถนนสูงกว่าปกติถึง 23 เท่าเลยทีเดียว  


โดยการพิมพ์ข้อความ ขณะขับรถ ซึ่งผู้ขับจะไม่ได้มองถนนเป็นระยะเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ4.6 วินาที
ซึ่งนานพอที่รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว55 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 88.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
สามารถทำระยะทางได้เท่ากับหนึ่งสนามฟุตบอล ในขณะที่การสนทนามือถือระหว่างขับรถจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
เพียง 1.3 เท่าของผู้ขับทั่วไป 


ล่าสุดเพื่อตอกย้ำสถิติ การเกิดอุบัติเหตุจากการแชท ASN Broker จึงขอนำ ชิ้นโฆษณา
ที่ว่าด้วย ลูกชาย ต้องเสียพ่อที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยเหตุเพราะการแชทส่งข้อความผ่าน สมาร์ทโฟน


พ่อ…หยุดไลน์หาผมซะที!

ล่าสุด ได้เห็นคลิปจาก เจ้าพระยาประกันภัย ที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมนี้ ว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง  และเล็งเห็นความสำคัญในการรณรงค์ให้ทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และตระหนักถึงอันตรายของการแชทขณะขับรถ เพราะอันตรายถึงชีวิต แม้เพียงเราละสายตาพิมพ์ด้วยความประมาทไม่กี่วินาที

ไอเดียของคลิปนี้ คือการนำเรื่องราวชีวิตประจำวันของพ่อลูกคู่หนึ่งที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แต่ทั้งสองคนก็ยังคงรักและดูแลใส่ใจกัน ผ่านการแชททางโทรศัพท์มือถือ ดูแลใส่ใจกัน แสดงความรักต่อกันตามประสาครอบครัวยุคใหม่ ที่ดูแล้วก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้  เทคโนโลยีเป็นเรื่องดี ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กับเพื่อน กับคนรู้จัก แต่ก็อาจส่งผลเสียหากเราใช้มันด้วยความประมาท  ใช้เป็นประจำจนลืมนึกถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และอาจเป็นสาเหตุให้เราไม่ได้เจอกับคนที่เรารักชอีกเลยก็ได้


chaopraya2

คลิปวีดีโอตัวนี้จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจ และอยากให้เราช่วยกันแชร์มันออกไปสู่คนที่เรารัก พวกเราจะได้รู้ลิมิตและรู้จักใช้เวลาแชทที่เหมาะสมและไม่เป็นอันตราย


สำหรับ การใช้อุปกรณ์เสริมชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสโทรศัพท์ เช่น การใช้บลูทูธเชื่อมสัญญาณโทรศัพท์กับเครื่องเสียงในรถ หรือการใช้เสียงสั่งการเพื่อรับสายหรือโทรฯออกจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด อุบัติเหตุจากปัจจัยด้านกายภาพและปัจจัยด้านการมองเห็นลงได้ แต่อย่างไรก็ตามการคุยในขณะขับรถไม่ว่าจะคุยกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถคัน เดียวกันหรือคุยโทรศัพท์โดยจะใช้อุปกรณ์เสริมจะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิและ ทำให้ตอบสนองต่อสัญญาณจราจรและเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ช้าลงและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นกว่าผู้ที่มีสมาธิจดจ่อ อยู่กับการขับขี่ 


 
จาก การวิจัยพบว่าการสูญเสียสมาธิขณะขับขี่เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งของการเกิด อุบัติเหตุ โดยการโทรศัพท์ขณะขับรถไม่ว่าจะใช้มือถือโทรศัพท์หรือใช้อุปกรณ์เสริม ก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงพอ ๆ กัน คือผู้ใช้อุปกรณ์เสริมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าการขับขี่ปกติ 4 เท่า และผู้ที่ไม่ใช้อุปกรณ์เสริมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าการขับขี่ปกติ5 เท่า จะเห็นว่าการใช้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้มือถือโทรศัพท์ใน ขณะขับรถ แม้จะลดความเสี่ยงจากปัจจัยทางกายภาพได้ แต่ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการเสียสมาธินั้นยังสูงอยู่มาก 

ทั้งนี้สำหรับข้อแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้การขับรถมีความปลอดภัย คือหากขับรถในระยะทางใกล้ ๆ ใช้เวลาจนถึงที่หมายไม่นานนัก ไม่ควรรับสายหรือโทรฯออก  จนกว่าจะถึงที่หมาย หากขับรถระยะทางไกลและใช้เวลานาน ควรกำหนดจุดหยุดพัก เช่น หยุดพักทุกหนึ่งชั่วโมง แล้วค่อยโทรศัพท์เมื่อถึงจุดหยุดพัก หากจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ควรจอดรถข้างทางในที่ที่ปลอดภัยแล้วจึงโทรฯ หากอยู่ในที่ที่รถติดหรือจำเป็นต้องขับรถต่อไป ควรขับชิดซ้ายและชะลอความเร็วลง เตรียมอุปกรณ์เสริมให้พร้อมใช้งาน เมื่อเริ่มสนทนา ควรแจ้งให้คู่สนทนาทราบว่าเรากำลังขับรถอยู่และใช้เวลาในการพูดคุยให้สั้นที่สุด หลีกเลี่ยงเรื่องสนทนาที่ทำให้เศร้า โกรธ หงุดหงิดหรืออารมณ์เสีย และไม่รับหรือส่งเอสเอ็มเอสหรืออีเมลในทุกกรณี เท่านี้ก็เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง

ที่มา http://www.asnbroker.co.th

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

#กรณีศึกษา ช่วยด้วยค่ะ!! แฟนขับรถไปเฉี่ยวคน ถูกเรียกค่าทำขวัญ300,000บาท #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #pantip

#กรณีศึกษา ช่วยด้วยค่ะ!! แฟนขับรถไปเฉี่ยวคน ถูกเรียกค่าทำขวัญ300,000บาท #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์
#กรณีศึกษา ช่วยด้วยค่ะ!! แฟนขับรถไปเฉี่ยวคน ถูกเรียกค่าทำขวัญ300,000บาท #เรื่องรถน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #pantip
ป็นกระทู้แชร์ในโซเชี่ยลอย่างมากมาย กับเหตุการณ์ ขับรถเฉี่ยวคน แล้วโดนเรียกค่าทำขวัญ 3 แสน โดย จขกท.
ได้นำเรื่องราวของฝ่ายสามีมาบอกเล่าและปรึกษากับคนในพันทิป ทั้งนี้ความเห็น ก็มีต่างๆนาๆ ด้วยจขกท มีรายละเอียด ที่ไม่ค่อยชัดเจน
และอีกหลายๆอย่าง แต่ทั้งนี้ ก็ได้มีผู้ให้ความเห็น ที่เป็นประโยชน์ต่อ ผู้ที่ต้องการคำปรึกษาจริง จนติดเป็นสุดยอดความเห็นในกระทู้ดังกล่าว 
ASN Broker จึงอยากนำมาบอกเล่า เผื่อกรณีคุณเจอเคสผู้เสียหายเรียกร้องในมูลค่าที่สูงครับ
******************************
ถ้ามีประกันชั้น 1-3 ไม่ต้องไปโรงพัก  ไม่ต้องเซ็นต์รับ  ไม่ต้องให้ปากคำ  ให้ประกันจัดการอย่างเดียว 

ลูกน้องเคยเคสโดนคล้ายคุณขับมาเลนกลาง(ถนน 3 เลน)  มอเตอร์ไซร์ออกมาจากซอยตัดหน้าเข้ามาถึงเลนกลาง
ชนขาหัก  แขนหัก  รถเสียหายเล็กน้อย  บอกว่ารู้จักตำรวจ  เป็นคนขายข้าวแกงหน้า สน

พอไป สน ก็รู้จักตำรวจบน สน  จริงๆ  ตำรวจที่ทำเรื่อง บอกว่า  เป็นคดีอาญาส่งฟ้องศาลและติดคุกได้
ถ้าไม่ให้ส่งฟ้อง  ก็เครีย์กันเลย  ฝ่ายญาติมอเตอร์ไซร์ เรียก 300,000 รู้น้องเลยโทรผม



ผมเลยบอกให้ตำรวจทำเรื่องส่งฟ้องเลย  แต่ในชั้นของตำรวจ  ชั้นสอบสวน  ขอไม่ให้ปากคำใดๆ 
และไม่เซ็นต์รับในเอกสารใดๆทั้งนั้น  รอส่งฟ้องและอัยการเรียกสอบในชั้นศาลอย่างเดียว

เท่านั้นแหละ  ตำรวจก็เลยบอกว่างั้นพวกคุณก็เครียร์กันก็แล้วกัน  ว่ายังไงก็บอกผม  ญาติมอเตอร์ไซร์หน้าเหวอเลย

เพราะอะไร  คือ  คดีอย่างงี้ตำรวจมีส่วนแบ่ง  ก็จะขู่เยอะๆให้กลัวว่าจะเป็นคดีอาญา  จะส่งฟ้อง  จะขึ้นศาล  จะติดคุก
เพื่อให้จ่ายค่าเสียหาย  แล้วตำรวจก็จะได้ส่วนแบ่ง  แล้วก็จะลงบันทึกประจำวันพอเป็นหลักฐานจบๆกันไป


แต่ถ้าบอกให้ตำรวจทำเรื่องส่งฟ้องเลย  แต่ในชั้นของตำรวจ  ชั้นสอบสวน  ขอไม่ให้ปากคำใดๆ 
และไม่เซ็นต์รับในเอกสารใดๆทั้งนั้น  รอส่งฟ้องและอัยการเรียกสอบในชั้นศาลอย่างเดียว

ตำรวจจะกลัว  เพราะตัวตำรวจคนนี้ต้องไปให้ปากคำกับอัยการในชั้นศาลด้วย  ซึ่งตำรวจไม่อยากขึ้นศาลยิ่งกว่าคนธรรมดาอีก
เพราะเจ้านายก็เพ่งเล็ง  เพื่อนร่วมงานก็รังเกียจ  มันดูว่าไปหากินและยิ่งเรื่องไปถึงศาลแล้วด้วย  อาจโดนฟ้องกลับได้อีก


แต่ถ้ากินที่  สน  เรื่อง  ยังไม่ออกภายนอกแบบนี้ตำรวจชอบมากกว่า

ทุกวันนี้คดีลูกน้อง  ไม่ต้องจ่ายเงินอะไร  ให้คู่กรณีเดินเรื่อง  พรบ  เอาเอง 
ตำรวจหลังจากแค่ทำบันทึกประจำวัน  ก็ไม่มายุ่งอะไรแล้ว
*********************
ทั้งนี้การขับรถ เราต้องระมัดระวังคนบนถนน ด้วยเป็นหลักใหญ่ครับ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ ที่จะตามมาเหมือนกระทู้นี้ครับ