วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประกันภัยรถยนต์,ความรู้ด้านประกันภัยรถยนต์ กับ Asn Broker: ส่อง รถยนต์ใหม่ ปี2014 จาก ญี่ปุ่น

ประกันภัยรถยนต์,ความรู้ด้านประกันภัยรถยนต์ กับ Asn Broker: ส่อง รถยนต์ใหม่ ปี2014 จาก ญี่ปุ่น: ส่อง รถยนต์ ใหม่ ปี 2014 จาก ญี่ปุ่น สถานการณ์ด้านการเงินของญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐหลังจากโดนปั...

ประกันภัยรถยนต์,ความรู้ด้านประกันภัยรถยนต์ กับ Asn Broker: ส่อง รถยนต์ใหม่ ปี2014 จาก ญี่ปุ่น

ประกันภัยรถยนต์,ความรู้ด้านประกันภัยรถยนต์ กับ Asn Broker: ส่อง รถยนต์ใหม่ ปี2014 จาก ญี่ปุ่น: ส่อง รถยนต์ ใหม่ ปี 2014 จาก ญี่ปุ่น สถานการณ์ด้านการเงินของญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐหลังจากโดนปั...

ส่อง รถยนต์ใหม่ ปี2014 จาก ญี่ปุ่น



ส่อง รถยนต์ ใหม่ ปี 2014 จาก ญี่ปุ่น

สถานการณ์ด้านการเงินของญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐหลังจากโดนปัญหาเงินฝืดเล่นงานจนงอมไปเมื่อปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นรายได้หลักกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ นวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยการลดขนาดเครื่องยนต์และน้ำหนักตัวช่วยทำให้รถยุ่นในอีก 1-2 ปีข้างหน้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้เชื้อเพลิงได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น...

Nissan Teana 2014
Nissan เตรียมปล่อยซีดานขนาดกลางที่มีบุคลิกแบบผู้บริหาร รถ Nissan Teana 2014 จะออกสู่ตลาดโลกในช่วงกลางปี 2013 สำหรับรุ่นปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้ดีในทวีปอเมริกาเหนือ มันกลายเป็นรถรุ่นหลักที่มียอดจำหน่ายโดดเด่นโดยมีคู่แข่งอย่าง Honda Accord Hyundai Sonata และ Toyota Camry วิศวกรของ Nissan พัฒนาระบบเครื่องยนต์ลูกผสมแบบ Hybrid ติดระบบอัดอากาศแบบซุปเปอร์ชาร์จในเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ซึ่งวางขายทั้งในญี่ปุ่นเองและในตลาดรถซีดานของยุโรปกับอเมริกา โดยเน้นไปที่อัตราสิ้นเปลือง 23 กิโลเมตรต่อลิตร

Acura ILX 2014
Honda ในแผ่นดินอเมริกาส่ง Acura ILX 2014 รถสปอร์ตซีดานที่มีรูปลักษณ์และสมรรถนะใกล้เคียงกับ Civic ออกทำตลาดเสริมช่องว่างของรถซีดานสมรรถนะสูงในอเมริกาเหนือ เรือนร่าง 4 ประตูเสริมภาพลักษณ์แบบสปอร์ต เครื่องยนต์ V-TEC แบบแถวเรียง 4 สูบ ปริมาตร 2.4 ลิตร 204 แรงม้า ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้สีดำ คอนโซลพลาสติกขึ้นรูปสีดำและพวงมาลัยสปอร์ตสามก้านหุ้มหนัง เร่งจาก 0-100 ใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Nissan Cube Minor Change 2013
Nissan Cube รถทรงกล่องที่ประสบความสำเร็จพอสมควรบนตลาดรถยนต์แบบครอบครัว ล่าสุด Nissan เตรียมคลอด Cube Minor Change รถใน generation ที่ 3 ออกมาแล้ว ทรงกล่องนมที่กลายเป็นจุดขายยังคงเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ รถ Cube Minor Change มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลัง 110 แรงม้าติดตั้งระบบ Auto Stop - Start และมีเทคโนโลยีแบบ 2WD model ด้วย

อัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ 9 ลิตร /100 กิโลเมตร คิดเป็นอัตรา 44.7mpg US หรือ 5.3lt/100km หรือ 53.7mph UK ซึ่ง Nissan เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Smoother Acceleration รถอเนกประสงค์ทรงเหลี่ยมจัดคันนี้ยังมาพร้อมกับสีใหม่ให้เลือก รวมถึงเพิ่มออฟชั่นใหม่เข้าไปให้มีความหรูหรามากขึ้นในคอนเซปต์แบบ AXIS และปิดท้ายด้วยความเป็นสปอร์ตแบบ Rider Performance Spec อีกด้วย

Roadster สองที่นั่งตัวจิ๋วจาก Daihatsu รูปที่เห็นด้านบนคือรถ Concept Copen DR ซึ่งจะมาแน่นอนในปี 2014 เครื่องยนต์แถวเรียง 2 สูบ อัดอากาศผ่านเทอร์โบ เป็นนวัตกรรมเครื่องยนต์ตัวเล็กแรงเยอะที่เข้ามาช่วยในด้านความประหยัด และการปล่อยมลพิษดีกว่าเครื่อง 4 สูบรุ่นเก่า รูปลักษณ์แหวกแนวกับน้ำหนักตัวที่เบาหวิวไม่เกิน 890 กิโลกรัม เหมาะสมกับเครื่องจิ๋วและเกียร์แบบ CVT ซึ่งก็มีขนาดที่กะทัดรัดเช่นกัน เครื่อง 2 สูบมีเรี่ยวแรง 64 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 11.2 กิโลกรัม/เมตร กินเชื้อเพลิง 30 กิโลเมตรต่อลิตร ขายในญี่ปุ่นก่อนใครปีหน้านี้ สำหรับไทย หากไม่มีรถจดประกอบคงต้องพึ่ง Daihatsu ในซอยเสนาไปก่อนเลย

Mitsubishi Outlander PHEV 2013
Crossover พลังงานผสมเครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้าจาก Mitsubishi นี่คือ Outlander PHEV รถครอสโอเวอร์พลังไฮบริดที่วิ่งได้ไกล 60.2 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ล้วนๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์ (แต่ต้องวิ่งที่ความเร็วต่ำ) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ วางมอเตอร์ขับเคลื่อนไว้ที่ด้านหน้าและด้านหลัง มันใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 300 โวลต์ สามารถสร้างแรงขับเคลื่อน 12 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เมื่อต้องการกำลังในการสปีดตัวเองบนไฮเวย์ เจ้า Outlander PHEV จะใช้เครื่องยนต์ล้วนๆ โดยมีมอเตอร์เข้ามาช่วยเสริมแรงขณะที่ต้องการกำลัง เพื่อแซง สำหรับการวิ่งใช้งานในเมือง โหมด EV จะใช้เพียงมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ส่วนโหมด Series เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ อัตราสิ้นเปลืองรุ่นสูงสุดประมาณ 18 กิโลเมตรต่อลิตร (อย่าลืมว่ามันตัวโตและหนัก) รถ Outlander PHEV ขายในญี่ปุ่นแล้วเมื่อช่วงต้นปีและมีเสียงตอบรับดีพอสมควร

Mazda MX-5 Roadster 2015
กำหนดขายของโรสเตอร์รุ่นที่สี่จากค่าย Zoom Zoom คาดว่าน่าจะประมาณปี 2015 หรือเร็วกว่านั้นเล็กน้อย เทคโนโลยี SkyActiv ทำให้เครื่องยนต์และน้ำหนักของ MX-5 เวอร์ชั่น 4 จะน้อยกว่ารุ่นที่ผ่านมา เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 140 แรงม้า หรือ 1.8 ลิตร 200 แรงม้า กับน้ำหนักตัวที่ 900 กิโลกรัม จะทำให้ความสนุกของการขับขี่ควบคุมคงอยู่เหมือนเดิม สำหรับหลังคาทาง Mazda ยังไม่เปิดเผยว่าจะใช้หลังคาโลหะแบบพับเก็บได้หรือหลังคาผ้าที่เบาและกางออก หรือพับเก็บได้เร็วที่สุดในโลก

Toyota Compact FR 2015
แผนการสร้างรถสปอร์ตขนาดเล็กน้ำหนักเบากำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะในฝ่ายงานวิศวกรรม ของค่ายสามห่วง รถสปอร์ตสองที่นั่งทรงคูเป้ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.5 ลิตร 120 แรงม้ากำลังถูกพัฒนาบนรหัสเครื่องยนต์ 3 SZ-VE ตัวถังของรถสปอร์ตรุ่นนี้คาดว่าจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 800 กิโลกรัมเพื่อไม่ทำให้เครื่องยนต์ตัวเล็กต้องรับภารกรรมมากนัก ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติหรือแมนนวล 5 สปีด ช่วงล่างคล้ายกับ Toyota GT86 ด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน รูปลักษณ์ภายนอกที่แปลกตาและสวยงาม สัดส่วนของตัวถังที่ลงตัวจากความลาดเอียงของฝากระโปรงหน้าบวกกับเสาหน้าที่ โค้งรับกับแนวของหลังคา กระจังหน้าแบบใหม่และโป่งซุ้มล้อที่อวบอ้วน ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้วกับยาง 205/45/R16 ทำให้นักซิ่งรุ่นเล็กสามารถสนุกกันได้เหมือนเดิมที่เคยทำไว้กับ MR-2

Toyota Vitz Turbo Gazoo Racing 2013
ขายแล้วในญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รถ Vitz หรือ Yaris รุ่นล่าสุดวางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบสมรรถนะสูงอัดอากาศด้วยเทอร์โบ แฮตช์แบค 3 ประตูขนาดเล็กคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง 1.5 ลิตร 178 แรงม้า พร้อมแรงบิด 220 นิวตันเมตร กำลังจากเครื่องยนต์ช่วยเพิ่มเติมประสิทธิภาพของเจ้า Vitz ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว รัดด้วยยาง 225/40/R18 ดีไซน์สติกเกอร์และชุดแต่งเสริมหล่อจาก Gazoo Racing ไฟหน้า HDI ล้อรมดำและท่อทรงแนวทำให้มันดูน่าขับมากกว่ารุ่นมาตรฐาน ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์แมนนวล 5 สปีด เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 6.8 วินาที งานสปอร์ตขับหน้าคันจิ๋วสมรรถนะเป็นเลิศแบบนี้ทำให้ Yaris ในไทยถึงกับจืดสนิทกันไปเลยทีเดียว.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
 
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
 
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รถเสีย ควรทำอย่างไร



 รถเสีย ควรทำอย่างไร

                เมื่อรถเสียควรทำอย่างไร คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนก็คงอยากรู้คำตอบ ซึ่งหลายคนที่ขับรถนั้นคงไม่ใช่ช่างที่จะสามารถซ่อมรถให้วิ่งต่อได้ในบัดดล แต่สิ่งที่พึงจำไว้คือว่าเมื่อรถพังเราควรที่จะทำอย่างไรก็ตามไม่ให้เกิดปัญหากับเพื่อนร่วมทาง โดยวันนี้เราก็มีข้อแนะนำมาฝากดังต่อไปนี้ครับ
  • ตั้งสติ และเปิดไฟฉุกเฉิน ทุกครั้งเรามาย้ำว่าสติคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการที่คุณจะแก้ปัญหาต่างๆ และเมื่อคุณพบว่ารถเกิดปัญหา โดยเฉพาะดับกลางอากาศ หรือรถพบอาการผิดปกติ ให้เริ่มต้นด้วยปุ่มไฟฉุกเฉินเพื่อส่งสัญญาณเพื่อนร่วมทางก่อนว่ารถคุณบกพร่อง และไม่สามารถเดินทางต่อได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเข้าใจผิดของเพื่อนร่วมทาง เพื่อที่เขาจะได้หาทางเบี่ยง หรือหลบหลีกคุณ


พารถเข้าข้างทาง คุณคงไม่อยากเจออุบัติเหตุใช่ หรือไม่ ถ้าใช่!! จงรีบพารถคุณเข้าข้างทางโดยเร็ว เนื่องจากการจอดรถท่ามกลางจราจรมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถชนสูง ที่สำคัญที่สุดอย่าแอบไปทางขวาโดยเด็ดขาด ให้จอดรถเสียชิดๆ ไหล่ทางด้านซ้ายเท่านั้น




มือถือช่วยคุณได้ มือถือมีประโยชน์เสมอในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ให้โทรหาบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือตามผู้เชี่ยวชาญมาช่วยคุณ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ลองโทรเข้าวิทยุจราจรต่างๆ เช่น จส.100 หรือ สวพ. 91 หรือเบอร์อื่นๆ ก็ช่วยให้คุณสามารถผ่านเหตุการณ์ไปได้



อยู่กับรถเสมอ จงจำไว้ว่าอย่าไปไกลจากรถเพียงเพราะว่ามันเสีย หรือใช้การไม่ได้ คุณควรจะอยู่ในรถ หรือใกล้รถ  ที่สำคัญอย่าเปิดประตูฝั่งที่มีการจราจร เพื่อความปลอดภัย และหากรถคุณมีป้ายสัญญาณฉุกเฉินสามเหลี่ยม ก็ควรนำมันมาตั้งในระยะ 50 เมตร จากตัวรถเพื่อบอกว่ารถคุณเสียด้วย เพื่อเป็นจุดสังเกตกับเพื่อนร่วมทาง




ลงมือตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น ถ้าคุณพอเป็นอยู่บ้าง บางครั้งปัญหารถเสียก็อาจจะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด และคุณสามารถที่จะระบุปัญหาได้ เช่น ขั้วแบตเตอร์รี่หลวม หรือยางแบน ซึ่งบางอย่างคุณสามารถทำเองได้เพื่อช่วยตัวเอง แต่มันก็ไม่ใช่จะง่ายทุกครั้งไป ดังนั้น ถ้าคุณพอจะทำได้ควรจะช่วยตัวเองดูก่อนบ้าง และควรตรวจสอบให้ดีเผื่อจะสามารถระบุปัญหาได้



คอมมอนเซนส์ช่วยคุณได้ ความรู้สึกกับยามฉุกเฉิน อาจจะช่วยให้คุณรอดได้ยิ่งกับถนนต่างจังหวัดอันห่างไกล บางครั้งเมื่อคุณรู้ปัญหาก็จะสามารถแก้เอาได้ง่ายๆ เช่นน้ำมันหมด แต่เมื่อสักพักใหญ่ก่อนรถเสียเหมือนเพิ่งผ่านปั้มมา บางทีคุณอาจจะตะเกียกตะกายไปปั้ม เพื่อหาทางออกด้วยตัวเองได้ หรือถ้าไม่คุ้นสถานที่ คนท้องถิ่นอาจช่วยคุณได้ แต่ก็ต้องรู้จักระวังคนที่แฝงตัวเป็นมิจฉาชีพในคราบพลเมืองดีด้วย



ระวังคนดีเกินไป บางคนอาจจะพบว่าเมื่อรถเสียเรามีพลเมืองดีมาช่วยทันใจ แต่บางทีเราก็ต้องคอยระวังตัวอย่าระเริงไปมาก เพราะปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบคนดีมากพอสมควรรถเสียอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากจจะเจอกับตัว เพราะมันทั้งเสียเวลา และเสียทรัพย์ แต่เรื่องนี้ก็ใช่ว่าทุกคนจะหลีกเลี่ยงได้..  ฉะนั้นควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถทุกครั้ง ก่อนออกเดินทางไกลครับ
 
 
ที่มา: http://www.asnbroker.co.th/
 
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
 
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog
 
ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

  กิจกรรม Like & Share ลุ้นรับตั๋วคอนเสิร์ต
  ประกันภัยรถยนต์


  กิจกรรม "Like & Share"
  จัดขึ้นเพื่อให้ชาว Fan Page บน Facebook ของ ASN Broker เพื่อร่วมลุ้นรับบัตรชมคอนเสริ์ต
  Black Head White line จำนวน 2 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง
  กติกาง่ายๆ ดังนี้
  1. Like หน้า Fanpage ของ ASN
  2. Share รูปกิจกรรมไปยังหน้า Wa...ll ของคุณ
  3. Comment ใต้รูปกิจกรรมว่า “www.asnbroker.co.th ประกันภัยชั้น1”
  4. กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ ณ.ขณะนี้ ไปจนถึง 1 ก.ย. 56
  5. 1 ID Facebook ต่อ 1 สิทธิ์ในการร่วมกิจกรรม
   คลิกลิงค์ เพื่อร่วมกิจกรรมได้เลยครับ
  ทาง ASN Broker จะจับรางวัลและประกาศผล ผู้โชคดีจำนวน 2 ท่านที่ทำตามกติกา ภายในวันที่ 2 ก.ย. 2556
  (ทางผู้โชคดีจะต้องติดต่อเข้ามาภายในวันที่ประกาศ เพื่อความสะดวกในการจัดส่งรางวัล มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์)ดูเพิ่มเติม

Like & Share to win concert tickets.


Do "Like & Share".
Held to the Fan Pjavascript:void(0); a chance to win ASN Broker to get concert tickets.
Black Head White line 2 prizes, 2 seats.
Rules are simple.
1. Like Pages Fanpage of ASN.
2. Share Events to Wa ... ll your
3. Comment of the events that "Www.asnbroker.co.th. First class insurance ".
Four. Activity began at this time to 1 Sep 56.
5. 1 ID Facebook with the first right to participate.


Click the link to join me.
The ASN Broker will draw and announce the result. Winner number two will follow the rules within 2 Sep 2556.
(The winners will be contacted by the Post. To facilitate the delivery of the prize. Otherwise it will be deemed a waiver) to see more.
designblaclhead1

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การประกันภัยรถยนต์,การนำรถเข้าซ่อม โดย Asn Broker (asnbroker)

การนำรถเข้าซ่อมห้าง/อู่

การนำรถเข้าซ่อมเราจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

1 มีใบรับรองความเสียหาย
2 ไม่มีใบรับรองความเสียหาย

กรณีที่มีใบรับรองความเสียหาย (ตรวจสอบความเสียหายรถโดยพนักงานบริษัทฯ แล้ว) มีขั้นตอนวิธีปฏิบัติดังนี้
1. เมื่อต้องการนำรถจัดซ่อมที่อู่ในเครือ ให้นำรถเข้าอู่ในเครือเพื่อจัดซ่อมได้เลย เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการติดต่ออู่ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • สำเนาทะเบียนรถ (อาจจำเป็นในการจัดอะไหล่ให้ตรงกับรุ่นรถ)
  • สำเนากรมธรรม์ประกันภัย (สำหรับรถคู่กรณี เพื่อตรวจสอบการประกันภัย)
2. เมื่อต้องการนำรถจัดซ่อมเอง (จัดซ่อมกับอู่ที่ไม่ได้อยู่ในเครือ) ให้นำรถและใบรับรองความเสียหายติดต่อกับบริษัทฯ /รถ Mobile / จุดบริการต่าง ๆ เพื่อประเมินราคาค่าซ่อมก่อนดำเนินการซ่อม
2.1 หากอู่ซ่อมนั้นเป็นอู่ที่รับวางบิลกับบริษัทฯ เอกสารที่ท่านต้องนำไปให้อู่เพื่อให้อู่เบิกเงินกับบริษัทฯ โดยตรงได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • สำเนากรมธรรม์ประกันภัย ( สำหรับรถคู่กรณี เพื่อตรวจสอบการประกันภัย )
2.2 หากอู่ซ่อมนั้นเป็นอู่ที่ไม่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านสำรองจ่ายค่าซ่อมนั้นไปก่อน แล้วนำเอกสารตั้งเบิกกับบริษัทฯ ภายหลัง เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการตั้งเบิกกับบริษัทฯ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
  • นำรถมาตรวจสอบ หรือภาพถ่ายรถที่ซ่อมแล้วเสร็จ
  • ซากอะไหล่ ( ถ้ามีการร้องขอจากบริษัทฯ ไว้ก่อน )
3. เมื่อต้องการนำรถจัดซ่อมที่ศูนย์บริการ (ซ่อมห้าง)
3.1 หากเป็นศูนย์บริการ / ห้าง ที่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านนำใบรับรองความเสียหายมอบให้กับศูนย์บริการ / ห้าง เพื่อให้ศูนย์บริการ / ห้าง ตั้งเบิกแทนท่าน
3.2 หากเป็นศูนย์บริการ / ห้าง ที่ไม่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านสำรองจ่ายค่าซ่อมนั้นไปก่อน แล้วนำเอกสารตั้งเบิกกับ
บริษัทฯภายหลัง เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการตั้งเบิกกับบริษัทฯ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี
  • นำรถมาตรวจสอบ หรือภาพถ่ายรถที่ซ่อมแล้วเสร็จ
  • ซากอะไหล่ (ถ้ามีการร้องขอจากบริษัทฯ ไว้ก่อน)
กรณีที่ท่านไม่มีใบรับรองความเสียหาย (ยังมิได้นำรถให้พนักงานบริษัทฯ ตรวจสอบ)
1. เมื่อต้องการนำรถจัดซ่อมที่อู่ในเครือ ท่านสามารถนำรถไปติดต่อเคลมรถได้โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้
1.1 ให้นำรถไปติดต่อเคลมที่บริษัทฯ/รถ Mobile /จุดบริการ ต่างๆ พร้อมใบอนุญาตขับขี่เพื่อให้พนักงานบริษัทฯ ตรวจสอบความเสียหาย และออกใบรับรองความเสียหายให้ หลังจากนั้นให้นำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือ เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการติดต่ออู่ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • สำเนาทะเบียนรถ ( อาจจำเป็นในการจัดอะไหล่ให้ตรงกับรุ่นรถ )
  • สำเนากรมธรรม์ประกันภัย ( สำหรับรถคู่กรณี เพื่อตรวจสอบการประกันภัย )
1.2 ให้นำรถไปติดต่อเคลม และจัดซ่อมที่อู่เลย กรณีนี้สงวนสิทธิสำหรับรถที่มีความเสียหายโดยประมาณไม่เกิน 10,000 บาท และต้องเป็นอู่ที่เปิดเคลมได้เท่านั้น
  • อู่ที่เปิดเคลมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล = ดูรายชื่ออู่ที่เปิดเคลม
  • อู่ที่เปิดเคลมในเขตต่างจังหวัด = ให้ประสานกับสาขาที่รับผิดชอบตามพื้นที่ก่อน
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการเปิดเคลมที่อู่ ได้แก่
  • เลขเคลม (ขอได้จากการโทรแจ้งอุบัติเหตุ)
  • ใบอนุญาตขับขี่
  • ใบยอมรับผิดจากบริษัทประกันคู่กรณี (ถ้ามี)
  • สำเนาประจำวัน (ถ้ามี)
2. เมื่อต้องการนำรถจัดซ่อมเอง (จัดซ่อมกับอู่ที่ไม่ได้อยู่ในเครือ) ให้นำรถไปติดต่อเคลมที่บริษัทฯ / รถ Mobile /จุดบริการ ต่าง ๆ พร้อมใบอนุญาตขับขี่ เพื่อให้พนักงานบริษัทฯ ตรวจสอบความเสียหาย , ออกใบรับรองความเสียหายและประเมินราคาค่าซ่อม
2.1 หากอู่ซ่อมนั้นเป็นอู่ที่รับวางบิลกับบริษัทฯ เอกสารที่ท่านต้องนำไปให้อู่เพื่อให้อู่เบิกเงินกับบริษัทฯ โดยตรงได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • สำเนากรมธรรม์ประกันภัย ( สำหรับรถคู่กรณี เพื่อตรวจสอบการประกันภัย )
2.2 หากอู่ซ่อมนั้นเป็นอู่ที่ไม่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านสำรองจ่ายค่าซ่อมนั้นไปก่อน แล้วนำเอกสารตั้งเบิกกับบริษัทฯ ภายหลัง เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการตั้งเบิกกับบริษัทฯ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
  • นำรถมาตรวจสอบ หรือภาพถ่ายรถที่ซ่อมแล้วเสร็จ
  • ซากอะไหล่ ( ถ้ามีการร้องขอจากบริษัทฯ ไว้ก่อน )
3. เมื่อต้องการนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการ/ห้าง ให้ท่านนำรถไปติดต่อเคลมที่บริษัทฯ / รถ Mobile / จุดบริการ ต่าง ๆ พร้อมใบอนุญาตขับขี่ เพื่อให้พนักงานบริษัทฯ ตรวจสอบความเสียหาย และออกใบรับรองความเสียหาย
3.1 หากเป็นศูนย์บริการ / ห้าง ที่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านนำใบรับรองความเสียหายมอบให้กับศูนย์บริการ / ห้าง เพื่อให้ศูนย์บริการ / ห้าง ตั้งเบิกแทนท่าน
3.2 หากเป็นศูนย์บริการ / ห้าง ที่ไม่รับวางบิลกับบริษัทฯ ให้ท่านสำรองจ่ายค่าซ่อมนั้นไปก่อน แล้วนำเอกสารตั้งเบิกกับ
บริษัทฯภายหลัง เอกสารที่ต้องใช้ประกอบในการตั้งเบิกกับบริษัทฯ ได้แก่
  • ใบรับรองความเสียหาย
  • ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี
  • นำรถมาตรวจสอบ หรือภาพถ่ายรถที่ซ่อมแล้วเสร็จ
  • ซากอะไหล่ (ถ้ามีการร้องขอจากบริษัทฯ ไว้ก่อน)

ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก บมจ.ทิพยประกันภัย (http://www.dhipaya.co.th)

เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress Asn Broker Journal Blog

ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 

ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign

ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ โดย Asn Broker ,การประกันภัยรถยนต์ โดย Asnbroker

แบตเตอรี่รถยนต์ ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยนต์เพื่อให้ทำงานได้ เช่น มอเตอร์สตาร์ท ระบบจุดระเบิด ในขณะที่สตาร์ทรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้อนพลังงานให้กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง ด้วย เช่น ระบบไฟส่องสว่าง วิทยุเครื่องเสียง เป็นต้น
นั่น หมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์จะหมดได้ก็มีอยู่เพียง 2 กรณี นั่นก็คือ
1.เก็บไฟไม่อยู่ หรือ หมดอายุการใช้งาน
2.ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ หรือ บกพร่อง ซึ่งทำให้ประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้น้อยมากไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ไม่สามารถประจุไฟเข้าไปได้เลย

โครงสร้างทั่วๆไปของแบตเตอรี่รถยนต์
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์


โครงสร้าง และส่วนประกอบของแบตเตอรี่ มีดังนี้
1.ขั้วแบตเตอรี่ ประกอบไปด้วยขั้ว (+) และขั้ว (-) ซึ่งขั้วของแบตเตอรี่นั้นทำมาจากตะกั่ว แท่งนั้นจะยาวประมาณ 8-10 นิ้ว(สูงกว่าตัวแบตเตอรี่เล็กน้อย)
2.เปลือก แบตเตอรี่ที่เห็นตามท้องตลาดทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ เปลือกพลาสติก และเปลือกยางมะตอย ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์ส่วนมากจะใช้แบบเปลือกพลาสติก ซึ่งมีทั้งสีขาว และสีดำ ส่วนเปลือกยางมะตอยนั้นมักนิยมใช้กับเรือ หรือรถทหาร
3.ฝา ฝามีหน้าที่ปิดให้สนิท มิดชิดเพื่อป้องกันน้ำกรด ไม่ให้กระเด็นหรือหกออกมาจากแบตเตอรี่
4.จุก สำหรับแบตเตอรี่น้ำสามารถเปิด-ปิดได้ เพื่อเติมน้ำกลั่น แต่หากเป็นแบตเตอรี่แห้งบางชนิด จะไม่สามารถเปิดได้เลย
5.หูหิ้ว 
6.แผ่นธาตุ และแผ่นกั้น
   6.1 แผ่นธาตุขั้ว (+)
   6.2 แผ่นธาตุขั้ว (-)
   6.3 แผ่นกั้น(ชนวนกั้นแผ่นธาตุ)ทำหน้าที่ไม่ให้แผ่นธาตุขั้ว (+) และแผ่นธาตุขั้ว (-) ชนกันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ช็อต

ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1.แบบเปียก นิยม ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ แบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ต้องเติม และ ดูแลน้ำกลั่นบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง กับ แบบไม่ต้องดูแลบ่อย (Maintenance Free) ซึ่งจะกินน้ำกลั่นน้อยมาก โดยทั้ง 2 แบบนี้จะมีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น ในแบบแรกนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 1.5-2 ปี แต่ไม่ควรเกิน 3 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และ การดูแลรักษา ถ้ามีการดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อถึงอายุการใช้งานของมันก็สมควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้แล้ว 
2.แบบแห้ง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และ มีราคาแพง แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 5-10 ปี แบตเตอรี่แบบนี้ไม่มีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น หรือไม่ก็ถูกซีลทับฝาไปเลย แต่จะมีตาแมวไว้สำหรับไว้คอยตรวจเช็คระดับน้ำกรด และ ระดับไฟชาร์จ

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
1.การประจุไฟที่น้อยเกินควร Under Charging
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- เกิดคราบขาวที่แผ่นธาตุของแบตเตอรี่ส่งผลให้ประจุไฟได้ยาก
- ทำให้แผ่นธาตุจะเสื่อมสภาพ

2.การประจุไฟที่มากเกินควร Over Charging
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- น้ำกลั่นแปรสภาพเป็นแก๊สมากทำให้ระดับน้ำกลั่นลดลง
- อุณหภูมิสูงขึ้นมากทำให้แผ่นธาตุเสื่อม
- ทำให้ผงตะกั่วเกิดการสึกกร่อนจากแผ่นธาตุ
- แผ่นธาตุงอโค้ง
- ลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

3.การลัดวงจรในช่องแบตเตอรี่ Short Circuit
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- เกิดตะกอนที่อยู่ส่วนล่างของหม้อแบตเตอรี่มากเกินไป
- เกิดจากการแตกหักหรือการเสื่อมสภาพของแผ่นกั้นระหว่างแผ่นธาตุบวก และแผ่นธาตุลบ

4.ปัญหาระบบไฟในรถ
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- การติดเครื่องเสียง สัญญาณกันขโมย อุปกรณ์เสริมในรถเพิ่มเติม (ไฟไม่พอ)
- การเปลี่ยนแปลงขนาดของแบตเตอรี่
- การลัดวงจรของสวิทซ์ไฟต่างๆในรถ
- ประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จไม่เต็มที่

5.การมีสารอันตรายปะปนในหม้อแบตเตอรี่ Impurity
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- น้ำกรดไม่ได้คุณภาพ
- น้ำกลั่นที่เติมลงไปไม่บริสุทธิ์
- เติมน้ำกลั่นสี (สารหล่อเย็น) ลงไป

6.การเกิดซัลเฟต (Sulfation)
แผ่นธาตุที่มีผลึกซัลเฟตสีขาวเกาะติดอยู่ที่บริเวณแผ่นธาตุ เกิดจาก…..
- ปล่อยทิ้งแบตเตอรี่ไว้นานๆ โดยไม่นำไปใช้
- การประจุไฟที่น้อยเกินไป (Under Charging)
- แผ่นธาตุโผล่พ้นระดับน้ำกรด

ข้อสังเกตเมื่อแบตเตอรี่เสื่อม
1. เครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก
2. ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง
3. ระบบกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
4. ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ

การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ 
ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่นั้น ถ้าหากว่าไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์อะไร เพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ติดตั้งพวกระบบเครื่องเสียงต่างๆ หรือ ติดตั้งพวกอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้น เพราะจะเป็นการทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้มีการคำนวณ และ เลือกขนาดของแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถรุ่นนั้นๆ อยู่แล้ว 
แต่ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมขึ้นมาก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นได้สิ่ง ที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ แบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นมักจะมีขนาดของตัวแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นด้วย ดังนั้นฐานของแบตเตอรี่เดิมติดรถสามารถรองรับได้หรือไม่ 
ไม่ควรที่จะ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ โดยไปลดขนาดของแอมป์ลงโดยเด็ดขาด แต่สามารถเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นได้โดยประมาณ 10-30 แอมป์

วิธีการเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับรถ
1. เลือกยี่ห้อแบตเตอรี่ ที่เชื่อถือได้มีโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานสูง
เช่นยี่ห้อ panasonic , GS , YAUSA , BAT-3K , FB , BOLIDENT
2. ควรเลือก ขนาด แอมแปร์ ของแบตเตอรี่ ให้พอดี หรือมากกว่าที่เคยติดมากับรถ
เช่น 
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1300cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ - 60แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1600cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ - 60แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 1800cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45แอมป์ - 60แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ - 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2200cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ - 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 2400cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ - 75แอมป์
รถเก่ง ญีปุ่น เครื่อง 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60แอมป์ - 75แอมป์
รถกะบะ  เครื่อง 2000cc - 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70แอมป์ - 90แอมป์
รถเก๋ง ยุโรป  เครื่อง 2000cc - 3000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด  75แอมป์ ขั้วจม
รถเก๋ง ยุโรป  เครื่อง 2800cc - 4000cc   อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100แอมป์ ขั้วจม
*** การเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาด แอมแปร์มากกว่าจะใช้งานได้ทนทานกว่า แบตเตอรี่ที่มีขนาด แอมแปร์น้อยกว่า ***
3. เลือกแบตที่มีความสดใหม่ ผลิตมาไม่นาน  ไม่ค้าง stock

แบตเตอรี่สามารถดูได้ในบริเวณของมุมล่างซ้ายของแบตเตอรี่โดยให้ด้านที่เป็นขั้วแนบชิดเข้าหาตัวท่าน จะอยู่บริเวณล่างซ้าย ตามรูป
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์
จะสังเกตุได้ว่าอยู่บริเวณมุมล่างซ้ายของแบตเตอรี่ใต้ขั้วนั้นเอง
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

เอาละทีนี้เรามาดูกันว่าเป็นตัวอักษรอะไรบ้าง พบว่าเป็น  31J011
- 31 ตัวแรกให้อ่านเป็นเลขสองหลักคือวันที่ครับ
- J ตัวอักษรภาษาอังกฤษคือปีที่ผลิตซึ่งจะต้องดูตารางประกอบในภาพถัดไปครับ
- 01 คือเดือนครับ ให้อ่านเป็นเลขสองหลักคือ 01
- เลขเดียวตัวสุดท้ายอันนั้นเป็นไลน์ที่ผลิตของเค้าครับ
เมื่อรู้ข้างต้นแล้วว่าแต่ละตัวนั้นมันคืออะไรบ้างทีนี้เรามาอ่านตามตารางกันดีกว่าครับ

ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

เอาละที่นี้เราก็มาอ่านกันว่า 31J011 มันคืออะไร สรุปมันก็คือ วันที่ 31 ปี2013 เดือนมกราคม ผลิตในไลน์ที่1 นั้นเอง

การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ 
การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือ การประจุไฟเข้าไปในแต่ละครั้งนั้น ควรจะเลือกใช้การชาร์จอย่างช้าเอาไว้ และทิ้งไว้ซักประมาณ 5-10 ชั่วโมง โดยเฉพาะในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพได้ช้าลง และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น แต่ตามร้านที่เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์โดยทั่วไป มักจะใช้วิธีชาร์จเร็วเพื่อรีบให้บริการลูกค้า ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่ลูกนั้นเสื่อมสภาพเร็ว ต้องเวียนมาเปลี่ยนใหม่เร็วขึ้นเล็กน้อย 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์

ข้อควรระวังในการทำงานกับแบตเตอรี่ 
เนื่องจากในแบตเตอรี่นั้นมีสารเคมีอยู่ภายใน เช่น สารตะกั่ว น้ำกรด เป็นต้น ดังนั้นในการทำงานกับแบตเตอรี่ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ 
1.ให้ระมัดระวังพวกไฟ หรือ ประกายไฟต่างๆ รวมทั้งประกายไฟจากการสูบบุหรี่ด้วย
2.ให้ทำการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา
3.ระวังอย่าให้เด็กเข้าใกล้น้ำกรด และ แบตเตอรี่
4.การจัดวางและจัดเก็บแบตเตอรี่เก่าควรจัดวางและเก็บในสถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นจุดที่จัดเก็บแบตเตอรี่โดยเฉพาะไม่วางทิ้งเกลื่อนกลาด
5.ไม่ควรทิ้งแบตเตอรี่รถยนต์เก่าลงในถังขยะปกติธรรมดาทั่วไป
6.ให้ระมัดระวังอันตรายจากแบตเตอรี่ระเบิด ในขณะที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะมีแก็สเกิดขึ้น ซึ่งแก็สนั้นเป็นสารที่ทำให้เกิดการระเบิดได้อย่างสูง
7.ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำบนตัวแบตเตอรี่ ปฏิบัติตามคู่มืองานซ่อมประจำอู่เรื่องระบบไฟฟ้า และ ปฏิบัติตามคู่มือประจำรถ
8.ให้ระวังอันตรายจากน้ำกรดเวลาเดือด น้ำกรดในแบตเตอรี่นั้นเป็นสารกัดกร่อนอย่างรุนแรง ดังนั้นควรสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา และ ถุงมือขณะที่ทำงานในกรณีนี้อยู่ รวมทั้งระวังอย่าเอียง หรือ ตะแคงแบตเตอรี่เป็นอันขาด เพราะน้ำกรดสามารถรั่วไหลออกมาทางรูระบายได้

การดูแลแบตเตอรี่ ให้ถูกวิธีจะช่วยให้เราใช้งานแบตเตอรี่ได้คุ้มค่าที่สุด
1. ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า
2. ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบเกลือเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด
3. ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกๆ 1 สัปดาห์
4. ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์ ว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไป ถ้าต่ำไป จะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในระเหยเร็วหรือเดือดเร็วได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน
5. ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำ ประสิทธิภาพการแพร่กระจาย ของน้ำกรด และน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น
6. ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี
7. ควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนด ไม่ควรเติมต่ำหรือสูงเกินไป (เติมสูงไป เป็นสาเหตุหลักทำให้ขี้เกลือขึ้นเร็ว แบตสกปรกเร็ว)

การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
ขั้นตอนที่ 1 – ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับรถของคุณ
ก่อนอื่น เราต้องหารถอีกคันเพื่อทำการนี้ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่า จะมีใครที่ยอมให้เราพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ของเขา หรือไม่ และจะมีสายพ่วง แบตเตอรี่ที่เหมาะสมด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีสายพ่วงแบตเตอรี่ที่มีความยาวอย่างน้อย 10 ฟุต เตรียมพร้อมในรถคุณ เพื่อที่จะง่ายสำหรับพ่วงกับรถทุกประเภท

ขั้นตอนที่ 2 – แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของคุณ พ่วงสายได้
หากแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายก่อนที่จะทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ต้องเสียเวลาทำเลย มีหลายวิธีในการตรวจดูว่า เสียหรือไม่ ถ้าแบตเตอรี่ของคุณมีฝาอยู่ ให้ลองดูว่าน้ำกลั่นแข็ง หรือไม่ หากแข็งก็ไม่ต้องดูอย่างอื่นแล้ว และคุณควรกระโดดถอยห่างไม่ต้องพ่วงแบตเตอรี่แล้ว และหากคุณพบรอยแตกที่แบตเตอรี่ เป็นเรื่องร้ายที่สุด และคุณก็ควรถอยห่างเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 3 – ขั้นตอนก่อนการพ่วงสายแบตเตอรี่
หลังจากตรวจดูว่า เราจะทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ได้ หรือไม่ ต้องตรวจเช่นกันว่าแบตเตอรี่ของรถคันอื่นมีกระแสไฟตรงกับรถคุณหรือไม่ด้วย มันอาจจะตรงกันแต่ตรวจสอบก่อนดีกว่า และควรดับเครื่องรถทั้งสองคันก่อนการพ่วงสายแบตเตอรี่
 
ขั้นตอน 4 – พ่วงสายแบตเตอรี่
ที่แบตเตอรี่แต่ละตัว จะมีขั้วโลหะสองขั้ว อันหนึ่งเป็นขั้วบวก (+) และอีกอันเป็นขั้วลบ (-) หนีบสายพ่วงที่เป็นขั้วบวกที่รถทั้งสองคันให้ตรงกัน จากนั้นหนีบสายพ่วงขั้วลบเข้ากับรถที่มีแบตเตอรี่เต็ม ส่วนอีกด้านต่อกับตัวถังรถของคันที่แบตเตอรี่หมด อย่าให้สายขั้วลบไปแตะกับแบตเตอรีที่หมดหรือตำแหน่งอื่นๆที่อยู่ใกล้กับ แบตเตอรี่
 
ขั้นตอนที่ 5 – สตาร์ทเครื่องยนต์!
ติดเครื่องรถคันที่มีแบตเตอรี่เต็มและทิ้งเอาไว้สักพัก หลังจากนั้นให้ลองสตาร์ทเครื่องรถอีกคัน ถ้าไม่ได้ ให้ทิ้งเอาไว้อีกสักพักแล้วลองใหม่
 
ขั้นตอนที่ 6 – เดินทางสู่จุดหมาย!
ถอดสายพ่วงออกจากรถที่มีแบตเตอรี่ก่อน แล้วจึงถอดจากคันที่มาขอพ่วง แล้วออกรถไปได้เลย
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์



เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog , Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress

ขอฝากกิจกรรม ไว้ด้วยนะครับ  กิจกรรม จับ แจก ฟรี ตั๋วหนัง !! 

ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker Campaign