อ็อปชั่นมากมายที่ติดตั้งมาในรถรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางเนวิเกเตอร์และระบบอินโฟเทนเมนท์ที่มีฟีเจอร์เจ๋งๆ ให้เล่นมากมายไม่เพียงให้ประโยชน์ด้านความความสะดวกสบายเท่านั้น แต่บางครั้งยังอาจส่งผลเสียเพราะทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิลดลงขณะขับรถด้วย
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าอุปกรณ์ติดรถแบบดั้งเดิมอย่าง “เครื่องเสียง” ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน
เวบไซต์
Carlist.my รายงานว่า สถาบันวิจัยจากอิสราเอลทำการสำรวจประสิทธิภาพและสมาธิของผู้ขับรถยนต์ด้วยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิ สุนัขวิ่งตัดหน้ารถกะทันหัน พบว่าผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ฟังเพลงขณะขับรถจะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป
ขณะที่ผู้ขับที่ฟังเพลงไปด้วยนั้นจะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่คงที่มากกว่า ฟังเผินๆ อาจหมายความว่าการฟังเพลงขณะขับรถจะทำให้ผู้ขับมีความรู้สึกสงบมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจชี้ว่าผู้ขับที่มีความรู้สึกสงบมากกว่านั้นเป็นเพราะพวกเขาขับรถด้วยความเคยชินและเสียงเพลงได้ “ลดสมาธิ” ในการขับทำให้อัตราการเต้นของหัวใจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ผลสำรวจระบุด้วยว่า ผู้ขับขี่ที่ฟังเพลงที่มีเสียงดังและมีจังหวะที่เร็วยิ่งขึ้น (ระหว่าง 120 – 140 จังหวะต่อนาที) มีแนวโน้มว่าจะฝ่าไฟแดงและเสียงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเท่าตัวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับคนที่ฟังเพลงช้าๆ หรือเปิดเพลงเบาๆ
ดังนั้นควรเลือกฟังเพลงที่ไม่อึกทึกและไม่เปิดเสียงดังเกินควรถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น