วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิธีขัดคราบเหลือง ขุ่นมัว ล้างโคมไฟหน้าด้วยตัวเอง:ASN Broker ประกันภัยรถยนต์



วิธีขัดคราบเหลือง ขุ่นมัว ล้างโคมไฟหน้าด้วยตัวเอง:ASN Broker ประกันภัยรถยนต์

ใครกำลังมีปัญหาโคมไฟหน้ารถขุ่นมัวหรือหมอง ไฟไม่สว่างพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบ้านรุ่นใหม่ๆ
สมัยนี้โคมไฟหน้าส่วนมากเป็นพลาสติกไม่ใช่แก้ว เมื่อใช้รถไปนานๆ เจอแดดเจอฝน
มีฝุ่นละอองหรือไอน้ำเล็ดลอดเข้าไปทำให้เกิดคราบขุ่นมัว ไม่สดใสทำให้รถดูเก่า
หรืออีกปัญหานึงคือเกิดจากความร้อนจากหลอดไฟที่สูงเกินไป หรือให้ความสว่างมากเกินไป
ก็เป็นสาเหตุให้เกิดคราบขุ่นเหลืองที่โคมไฟได้เช่นกัน อยากหาวิธีแก้แบบทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินจ้างอู่หรือคาร์วอชทำให้ เรามาดูวิธีเลย
วิธีทำความสะอาดโคมไฟหน้า
ใช้กระดาษทรายเบอร์ 2,000 ตัดเป็นชิ้นแล้วแช่น้ำ จากนั้นราดน้ำลงบนโคมไฟให้ทั่วทั้งโคม
ใช้กระดาษทรายที่แช่น้ำขัดเอาคราบเหลืองออก (ขณะที่ขัดนั้นควรให้ฉีดพรมน้ำไปด้วย) เมื่อขัดเสร็จเช็ดโคมไฟให้แห้ง
ใช้ครีมขัดรถป้ายที่โคมไฟจนทั่ว แล้วใช้ผ้าขนแกะหรือเครื่องปั่นขัดออก ทำซ้ำ 2-3 รอบจนกว่าโคมไฟจะกลับมาใสปิ๊งงงง...
โคมไฟหน้ารถบ้านแต่ละรุ่นนั้นไม่เหมือนกัน ในกรณีที่รถเราสามารถถอดไฟหน้าออกมาล้างได้ก็คงไม่มีปัญหา
แต่โดยมาแล้วรถเล็กส่วนใหญ่จะถอดไม่ได้ หากโคมไฟหน้ามีคราบเหลืองขุ่น มีรอยขีดข่วน ต้องใช้ยาขัดหยาบขัดแล้วใช้เครื่องปั่น
ซึ่งอาจจะทำด้วยเองไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสี่ยงทำเองก็อาจจะต้องนำเข้าอู่ คาร์วอช บริการล้างโคมไฟ
เลือกร้านที่ไว้ใจได้แล้วตกลงราคาค่าใช้จ่ายกันดีๆ อีกอย่างคือก่อนจะล้างโคมไฟหน้า
อย่าลืมเช็คดูร้านอะไหล่ประดับยนต์ว่าราคาของใหม่ ราคาขายเท่าไหร่ ถ้าซื้อของใหม่ราคาไม่สูงมาก
ก็เปลี่ยนใหม่ซะเลยดีกว่า คุ้มกว่ามานั่งขัด เพื่อความปลอดภัยของรถคุณเอง
ขอบคุณที่มา:http://auto.sanook.com/
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen ,
Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress
 , Asn Broker Journal Blog
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น