วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ยางระเบิดในขณะเวลาขับรถ..ทำอย่างไร!?!?


ยางระเบิดในขณะเวลาขับรถ..ทำอย่างไร!?!?
ปัญหาร้ายแรงที่สุดขณะขับรถก็คือ ยางระเบิดซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณได้ตลอดเวลา  และเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว  ผู้ขับขี่บางคนไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและบางรายเสียชีวิต ข่าวคราวเรื่องยางระเบิดจึงมีบ่อย ๆ แม้แต่ในต่างประเทศก็เกิดขึ้นเช่นกัน
ในขณะเราขับขี่แล้วเกิดยางระเบิด แน่นอนที่สุดย่อมเกิดอาการตกใจ และสิ่งที่ตามมาอาจเกิดอันตรายได้ และในฐานะของผู้ขับขี่ก็ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น แต่ในเมื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ฉุกเฉินขณะยางระเบิดไม่ได้ ในฐานะของผู้ขับขี่ จะทำอย่างไรดี? และนี่คือคำถามที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คน
การที่ยางระเบิดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของท่าน, ผู้โดยสารและผู้ร่วมใช้เส้นทาง ในฐานะผู้ขับขี่ ก่อนอื่นต้องตั้งสติให้ดี สมาธิให้ดี แล้วพยายามปฏิบัติตามวิธีดังดังต่อไปนี้
1. ควบคุมสติให้ดี แล้วมองกระจกหลังเพื่อดูว่ามีรถตามมาหรือไม่
2. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง
3. ถอนคันเร่งออก
4. แตะเบรกเบาๆ ถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน
5. ห้ามเหยียบคลัตซ์โดยเด็ดขาด เพราะถ้าเหยียบคลัตซ์ รถจะไม่เกาะถนน แต่จะลอยตัว ทำให้บังคับรถได้ยากขึ้นจนอาจเสียหลัก เนื่องจากการเหยียบคลัตซ์เป็นการตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ขาดจากเพลา
6. ห้ามดึงเบรกมือเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน
7. เมื่อความเร็วลดลงพอประมาณแล้ว ให้ยกสัญญาณไฟเลี้ยวเข้าข้างทางซ้ายมือ
8. เมื่อความเร็วลดลงในระดับควบคุมได้ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลง และหยุดรถ
ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิด ล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถก็จะแฉลบไปด้านซ้ายก่อน แล้วจะสบัดกลับ และสะบัดไปด้านซ้ายอีกทีสลับกันไปมา และหากล้อระเบิดด้านขวา อาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้าม หากยางระเบิดในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เพราะรถจะพลิกคว่ำทันที ความเร็วขณะขับขี่ที่ถือว่าปลอดภัยใน Defensive Driving คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
* ส่วนกรณี สามารถแก้ไข (เปลี่ยนยาง) ได้ด้วยตนเอง ให้นำสัญลักษณ์ขอทาง หรือ นำวัสดุที่พอจะเป็นที่สังเกตได้ไปวางไว้ก่อนถึงจุดจอดรถประมาณ 10 เมตร (ถ้าเป็นไปได้) อันนี้เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และผู้ใช้เส้นทางท่านอื่นด้วย
ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท  ให้คุณถือคติที่ว่า “ การป้องกันดีกว่าการแก้ไข  “   ก่อนนำรถออกใช้งานจึงควรตรวจสภาพของยางทุกเส้นว่าพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่  ถ้าพบว่าผิดปกติก็ขอให้แก้ไขเสียก่อน  การตรวจสภาพยางนั้นใช้เวลาไม่นานนักคุณก็จะทราบได้
อาการเบื้องต้นของยางที่เสื่อมสภาพ มีดังนี้
1. ลมอ่อนบ่อย ๆ  โดยไม่พบรอยรั่ว
2. มีอาการบวมที่แก้มยางหรือหน้ายาง
3. เบรกรถที่ควรต่ำ  ยางมีเสียงดังคล้ายการเบรกอย่างรุนแรง
4. ขณะเลี้ยวโค้งที่ความเร็วต่ำ  ยางมีเสียงดัง
5. พวงมาลัยหรือตัวรถมีอาการสั่น  ทั้ง ๆ ที่ได้ทำการถ่วงล้อมาแล้ว  และโช็กอัปไม่เสีย
*ถ้าพบอาการดังกล่าวมาแล้ว ขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนยางใหม่จะปลอดภัยกว่า
สาเหตุที่ทำให้ยางระเบิดขณะรถ มีดังนี้
1. ยางหมดอายุการใช้งาน  เช่น  แก้มยางมีรอยแตกลายงา  บวม  ฉีกขาด  ดอกยางหมดสภาพ  เป็นต้น
2 .ยางเก่าเก็บ
3. ขับรถโดยใช้ความเร็วเกินพิกัดยางที่กำหนดไว้
4. บรรทุกน้ำหนักเกินค่ากำหนด
5. สูบลมยางไม่ถูกต้อง
6. เปลี่ยนยางใหม่แต่ใช้จุ๊บเติมลมอันเก่า
7. ยางร้อนจัดเนื่องมาจากเบรกติดที่ล้อใดล้อหนึ่ง  กรณีนี้อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้
8. ผู้ขับขี่ซื้อยางเปอร์เซ็นต์มาใส่
9. เลือกใช้ยางไม่ถูกขนาด  เช่น  เอายางรถเก๋งมาใส่รถปิกอัป  เป็นต้น
10. แก้มยางเสียดสีกับขอบถนน
อาการเตือนก่อนที่ยางจะระเบิด
ขณะที่คุณขับรถอยู่  ถ้าปรากฏว่าพวงมาลัยสั่นสะเทือนผิดปกติและบังคับรถได้ยากโดยเฉพาะในขณะเลี้ยว  ทั้ง ๆ  ที่ไม่มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าก็เป็นปกติ  ลูกหมากไม่หลวม  ขณะขับมาตอนแรก ๆ  พวงมาลัยไม่สั่น  อาการนี้เป็นสิ่งบอกเหตุว่ายางรถยนต์เริ่มบวมพร้อมจะระเบิดแล้ว  ควรชะลอความเร็วและจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย  ลงจากรถ  แล้วรีบตรวจสภาพยางทันที  ซึ่งโดยส่วนมากจะพบว่ายางร้อนจัดและบวมเนื่องจากเสื่อมสภาพ
ข้อสังเกตการซื้อยางจากร้าน
• ยางเปอร์เซ็นต์หมายถึงยางที่ใช้แล้ว  โดยร้านยางรับซื้อมาจากผู้ที่มาเปลี่ยนยางใหม่  จำนวนเปอเซ็นต์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความลึกลับของดอกยางถ้าดอกยางสึกจนถึงสะพานยางซึ่งเป็นแถบอยู่ในร่องยาง  แสดงความลึกของดอกยางเหลือเพียง  1.6  มิลลิเมตร  ถือว่ายางเส้นนี้เท่ากับศูนย์เปอร์เซ็นต์  คุณควรเปลี่ยนยางใหม่ได้แล้ว  ไม่ควรใช้ต่อไป  เพราะอันตรายมาก  เนื่องจากยางไม่สามารถรีดน้ำได้ในขณะฝนตก  ทำให้รถไม่เกาะถนนและลื่นไถลได้ง่ายขณะเบรก
• ร้านยางบางแห่งนำยางที่หมดดอกมาแกะใหม่แล้วนำมาขายในราคาถูก  ถ้าผู้ขับขี่ไปซื้อมาใส่รถอาจทำให้ยางระเบิดได้  มีวิธีสังเกตง่าย ๆ  ว่าร้านยางนำยางที่หมดดอกมาแกะใหม่หรือไม่  โดยดูที่ร่องดอกยาง  ถ้าไม่มีสะพานยางติดอยู่แสดงว่านำยางที่หมดดอกมาแกะใหม่  ต้องระวังให้ดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blog
 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์


10 ข่าวล่าสุด  
ยางระเบิดในขณะเวลาขับรถ..ทำอย่างไร!?!?
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ
20 คำถามกับการเคลม ประกันรถยนต์
เรื่องน่ารู้ วิธีติดต่อขอรับเคลม ประกันภัยรถยนต์
HONDA CIVIC ซิวรางวัลความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ASEAN NCAP?
ตอบข้อสงสัย ทำไมต้องทำประกันภัยรถยนต์ !!
การดูแลรักษาภายในรถยนต์
ทดสอบรถยนต์สปอร์ตไฮบริด Honda CRZ ตอนแรกกับการรีวิว รูปลักษณ์ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง
โดน ชนแล้วหนี ทำตัวอย่างไร!?!?
เคล็ดลับ .. ก่อนสอบใบขับขี่

1 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาติแนะนำร้านhttp://www.wheelspecthailand.comยางรถยนต์
    หน่อยนะครับ ร้านนี้ถือว่าเป็นอีกร้านที่โอเคมากเลยทีเดียว เพราะลองไปเปลี่ยนยางมาบริการดีมากๆ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ