วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

ซื้อรถยนต์อย่างไรไม่ให้ถูกหลอก #เรื่องน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

ซื้อรถยนต์อย่างไรไม่ให้ถูกหลอก #เรื่องน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์
ซื้อรถยนต์อย่างไรไม่ให้ถูกหลอก #เรื่องน่ารู้ #ประกันภัยรถยนต์ #ต่อประกันรถยนต์

การเลือกซื้อรถยนต์สักคันนั้น จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของราคา สมรรถนะ ยี่ห้อ ฯลฯ ที่จะมาเป็นสิ่งกระตุ้นในการเลือกซื้อ แต่หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อจริง ๆ แล้วมักจะไม่ค่อยตายตัวสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ความพึงพอใจมากกว่า เราจึงนำหลักเกณฑ์อย่างกว้าง ๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อรถซึ่งอาจจะช่วยในการตัดสินใจของท่านได้ไม่มากก็น้อย
การเลือกซื้อรถใหม่
- คำนึงถึงงบประมาณ การประกัน ประโยชน์ในการใช้งาน เพื่อจะได้ซื้อรถได้คุ้มค่าที่สุด
- ตรวจเช็คเกี่ยวกับข้อมูลการใช้น้ำมัน เบี้ยประกันการบริการ อุปกรณ์อะไหล่ และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
- สำรวจยี่ห้อ ราคา แบบ รุ่น จากนิตยสารที่เกี่ยวกับรถ แคตตาล็อกจากร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป แล้วนำมาเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ อย่าพึ่งด่วนสรุปตัดสินใจซื้อ
- เลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายใหญ่ ๆ ที่น่าเชื่อถือ
- สำรวจพื้นที่ในการใช้สอยในรถ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- ตกลงกับผู้ขายในเรื่องค่าโอนทะเบียนรถและอื่น ๆ ให้เป็นที่เรียบร้อยและพึงพอใจสำหรับตัวท่านเอง
- สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องได้ทดลองขับเสียก่อน อย่าตัดสินใจซื้อเมื่อไม่มีโอกาสได้ทดลองขับ เพราะหากมีอะไรไม่ถูกใจหรือไม่ชอบจะได้เปลี่ยนรุ่น หรือยี่ห้อได้
- ควรมีเพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถไปด้วย เมื่อมีการดูรถควรถ่ายรูปรถของคุณไว้อย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นภายนอก ภายในเครื่องยนต์ทะเบียน กันชน ไฟหน้า-หลัง รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น แอร์ วิทยุเทปและอื่น ๆ เพื่อเตรียมไว้ในกรณีที่รถถูกเฉี่ยวชน โดนขโมย หรือถูกงัด
ส่วนใหญ่ในการซื้อรถใหม่นั้นไม่ค่อยมีอะไรยุ่งยากมากเท่าใด เพราะรถจะถูกตรวจสอบมาจากโรงงานและเป็นรถใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ ประสิทธิภาพก็คงดีอยู่มาก ยังไงแล้วเพื่อความแน่นอนควรตรวจสอบให้ดีก่อนการซื้อทุกครั้ง
ทำไมต้องรันอินรถยนต์
เมื่อท่านซื้อรถใหม่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือ การรันอิน ลากรรันอินจะต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อให้อายุการใช้งานของรถยาวนานขึ้น แต่ถ้าใช้ผิดวิธีอายุการทำงานของรถจะสั้นกว่าปกติ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์จะไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการรันอินนั้นจะแบ่งเป็น 2 ช่วง
ช่วงรันอินที่ 1 ในช่วง 500 กิโลเมตรแรก ควรหาโอกาสขับรถในระยะทางไกล เช่นไปต่างจังหวัด ขับขี่ด้วยความเร็วปานกลางและนิ่มนวลพยายามอย่าให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก หลีกเลี่ยงการใช้โช๊คอัพช่วยในการสตาร์ท ควรเปลี่ยนแปลงความเร็วอย่าใช้อัตราคงที่ ไม่ควรขับด้วยความเร็วจุดใจจุดหนึ่งเป็นเวลานาน เพื่อให้การสึกหรอของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
ช่วงรันอินที่ 2 จาก 500 กิโลเมตร์ไปจนถึงราว 3,000 กิโลเมตรแรกตามหนังสือคู่มือ การรันอินในกิโลเมตรช่วงที่ 2 (หลัง 500 กิโลเมตรแรกไปแล้วจนถึง 3,000 กิโลเมตร) ควรขับรถอย่างนิ่มนวล
การรันอิน คือ การขับขี่ที่อยู่ในระยะทางช่วงใดช่วงหนึ่งที่มีการกำหนด โดยบริษัทรถยนต์หรือช่าง
การเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้ว
          ในปัจจุบันตลาดรถมือสองกำลังบูมอย่างมาก มีการซื้อขายและการประมูลไม่เว้นแต่ละวัน เต็นท์ขายรถต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมารองรับการซื้อราวกับดอกเห็ด ทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสในการเลือกซื้อมากขึ้นด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารถใหม่ คุณภาพก็พอใช้ได้ ถ้าเลือกกันดี ๆ ซึ่งคนธรรมดาที่มีเงินทองไม่มากนักก็พอที่จะเลือกซื้อมาเป็นเจ้าของได้ คราวนี้เราลองมามองถึงอุปกรณ์ชิ้นต่าง ๆ ของรถมือสองกันบ้าง ชื่อก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นรถที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว ดังนั้นสภาพต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ต้องมีส่วนสึกหรอบ้าง จะมากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและเจ้าของรถเดิมว่าใช้รถถนอมแค่ไหน การเลือกซื้อรถยนต์ประเภทนี้ต้องคิดมากทีเดียว บางครั้งซื้อแล้วต้องมานั่งซ่อมอีก ซึ่งเป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อนเพราะตอนแรกดูสภาพดีแต่เมื่อมาใช้งานจริงแล้วปัญหาต่าง ๆ กลับตามมาอย่างมากมายเพราะการขาดความเข้าใจและไม่รู้หลักในการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะถูกหลอกจากคนรู้จัก ท่านจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้วบ้างเผื่อท่านคิดจะมีรถแบบนี้ไว้ใช้สักคัน
          ขั้นแรกต้องถามตัวเองว่ามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์ รถยนต์ ขนาดไหน เคยรู้บ้างไหมว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นมีหน้าที่อะไร ทำอะไรได้บ้างขนาดไหน เคยรู้บ้างไหมว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นมีหน้าที่อะไร ทำอะไรได้บ้าง ถ้าท่านมั่นใจว่าตัวเองมีประสบการณ์สูงในเรื่องนี้พอที่จะไปดูรถยนต์ด้วยตนเองและลองด้วยตัวเอง ท่านก็สบายใจได้ในขั้นตอนนี้ แต่ถ้าท่านไม่มีความรู้อะไรเลยขับเป็นอย่างเดียว  ในกรณีนี้ท่านต้องพึ่งช่างหรือผู้ที่มีความคุ้นเคยกับรถมากกว่าท่าน และมีความสนิทกันไว้ใจได้ ให้เขาพาท่านไปดูรถเพื่อความมั่นใจว่าท่านสามารถซื้อรถในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
          จำไว้เสมอว่าในการเลือกซื้อรถมือสองหรือการตรวจเช็ครถยนต์ต้องเป็นในเวลากลางวันเพื่อจะได้สามารถมองเห็นข้อบกพร่องได้ง่าย เมื่อท่านถูกใจและถูกเงินในกระเป๋าแล้ว สิ่งที่ท่านต้องตรวจดูด้วยกัน 3 แห่งคือ โครงตัวถัง,ช่วงล่าง,เครื่องยนต์
โครงตัวถัง
          โครงตัวถังนับเป็นส่วนประกอบส่วนแรกของรถยนต์ที่ท่านต้องตรวจดูก่อนเป็นอันดับแรก การตรวจนั้นจะเริ่มตั้งแต่ ดูแนวรางน้ำขอบหลังคารถยนต์ ถ้าหากว่างอหรือคดแสดงว่าเคยคว่ำมาแล้วอาจเสียศูนย์ ทรงตัวไม่ดี เป็นอันตรายมาก ในส่วนนี้ท่านต้องพยายามสำรวจให้ทั่วหลังคารถด้วยการมองทั้งทางด้านหน้ารถ-ท้ายรถ พยายามมองให้ดีเพราะส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหลังคายุบหรือคดจะทำให้รถหมุนได้ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือโดนลมปะทะแรง ๆ แต่ในบางครั้งรถที่เคยคว่ำก็อาจจะทำหลังคามาใหม่ทำให้มองไม่ออกเหมือนกัน ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบอีกที
-  ตรวจรอยสนิมกัดกินผุกร่อน บริเวณบังโคลนหน้า รอบดวงโคมไฟ ทั้งสองข้าง สนิมเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับรถยนต์ ซึ่งจะลามไปทั่วรถถ้าปล่อยทิ้งไว้ รอยสนิมจะเกิดได้มากที่สุดบริเวณบังโคลนหน้า แต่ในบางครั้งอาจจะถูกซ่อมมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นต้องตรวจดูด้วยการเอามือลูบบังโคลนด้านใน ซึ่งในส่วนนี้จะไม่สามารถปกปิดได้ เพราะจะมีร่องรอยการซ่อมหลงเหลืออยู่ใช้มือลูบก็จะพบ ท่านต้องพิจารณาว่าซื้อมาแล้วต้องเสียเงินซ่อมเพิ่มหรือไม่
-  ตรวจรอบโคมไฟท้ายทั้ง 2 ข้าง มีรอยสนิมมากน้อยเพียงใด ส่วนของไฟท้ายก็เป็นสนิมง่าย ต้องตรวจให้ละเอียดว่ามีรอยสนิมมากหรือน้อย และต้องเสียค่าซ่อมต่าง ๆ มากหรือไม่ ถ้าซื้อไปแล้วจะคุ้มมั้ย
- ตรวจรอยผุส่วนท้ายรถที่ขอบฝากระโปรง และที่ติดใกล้กับกันชน ต้องเปิดฝากระโปรงออกมาแล้วตรวจดูรอยสนิมให้ทั่วว่ามีหรือไม่ อาจจะเปิดส่วนท้ายด้วย พยายามตรวจให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ตรวจรอยผุบริเวณประตูรถตอนขอบด้านล่าง และที่ตัวถังของพื้นล่างสุด บริเวณประตูก็จะเกิดสนิมได้ง่ายเช่นกัน ต้องตรวจดูที่ประตูทุกบาน หารอยผุว่ามีมากหรือน้อย การเปิด-ปิดในส่วนต่าง ๆ ของขอบประตูและกระโปรงหลังทำได้สะดวกหรือไม่
- ตรวจดูใต้ท้องรถ อาจให้ยกรถขึ้นโดยใช้ขาตั้งแล้วท่านเข้าไปตรวจดูใต้ท้องรถ แต่อาจใช้วิธีเปิดพรมยางในรถทั้งหมด แล้วตรวจหาดูรอยผุหรือส่วนที่เสียหายต่าง ๆ
- ตรวจดูระบบท่อไอเสีย ให้อยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยแตกหรือสนิมกัดกร่อนจนเกือบจะผุพัง
ช่วงล่าง
          ช่วงล่างตรงนี้สำคัญมากในการเลือกซื้อรถใช้แล้ว เพราะช่วงล่างจะส่งผลต่อการขับขี่ ในด้านการทรงตัวขณะเลี้ยวหรือวิ่งด้วยความเร็วสูง ถ้าเครื่องช่วงล่างไม่ดีอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเมื่อใช้รถ การตรวจช่วงล่างจะเริ่มตั้งแต่
- ในการตรวจช่วงล่างต้องยกรถให้สูงขึ้น เพื่อความสะดวกในการตรวจใต้ท้องรถและสามารถมองเห็นทุกจุดได้ชัดเจน ท่านควรตรวจใต้ท้องรถด้วยตัวท่านเองถ้าท่านพอมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์บ้างโดยให้เริ่มตรวจตั้งแต่ห้องเกียร์ ช๊อคอัพ แหนบ พวงมาลัย เฟืองท้าย และช่วงล่างในส่วนอื่น ๆ ถ้ามีสิ่งใดที่สังเกตผิดจากธรรมดา เช่น มีน้ำมันไหลออกมาจากบางแห่งมีส่วนหัก บิด งอ แหนบซ้อนกันไม่เป็นระเบียบ ลองตรวจดูว่าการใช้งานเป็นเช่นไร แต่ขอแนะนำว่าการตรวจช่วงล่างขอให้เป็นหน้าที่ของช่างที่ชำนาญและท่านเป็นคนพามาจะดีกว่า เพราะในบางครั้งท่านดูเองอาจจะไม่ทราบเท่ากับช่าง
- เพลากลาง ท่านต้องลองเอามือจับเพลากลางและลองหมุนขยับกลับไปกลับมาว่ามีระยะหมุนฟรีมากเพียงใด ถ้ามีระยะฟรีมากนั่นแสดงว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนหลวม หรือหมดอายุการใช้งาน
- ตรวจดูยางทั้ง 5 เส้น ซึ่งหมายถึงยางอะไหล่ด้วยว่ามีการใช้งานมากน้อยเพียงใด ดอกยางสึกมากหรือน้อย จะต้องซื้อใหม่หรือไม่
- ตรวจระบบเบรก ด้วยการลองเหยียบเบรกหรือย้ำเบรกดูถ้าเหยียบเบรกจมมิดหายไปแสดงว่าเบรกไม่อยู่ หรือต้องย้ำเบรกหลายครั้งจึงจะเบรกอยู่ในส่วนนี้ต้องทดลองขับดู
- ตรวจดูเข็มไมล์ว่ารถใช้งานมามากน้อยเพียงใด ตรวจดูการสึกหรอของยางเบรกและคลัตซ์เปรียบเทียบกับตัวเลข ซึ่งอาจถูกแก้ไขจำนวนกิโลเมตรที่วิ่งก็ได้
- ตรวจพวงมาลัย ด้วยการหมุนกลับไปกลับมา เพื่อที่จะดูช่วงฟรี ของพวงมาลัยว่ามีมากน้อยเพียงใด ถ้ามีช่วงฟรีมากอาจจะเกิดจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบบังคับเลี้ยวหลวม ก็ต้องเสียเงินเพิ่มมากขึ้นในการซ่อม
เครื่องยนต์
          เครื่องยนต์นับเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ทั่วไป ยิ่งในรถยนต์ใช้แล้วเครื่องยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์จะสามารถลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มาก และยังเป็นการช่วยให้ผู้ใช้รถเกิดความสะดวกสบายมากขึ้นอีก การตรวจเครื่องยนต์นั้นจะเริ่มจากฝาครอบลิ้นด้านบน, ปะเก็บฝาสูบ,อ่างน้ำมันเครื่อง,เพลาข้อเหวี่ยงหน้าเครื่อง,ก๊อกถ่ายน้ำมันเครื่องซึ่งอยู่ในอ่างและตามท่อต่าง ๆ หม้อกรองน้ำมันเครื่องและอื่น ๆ อีก ฯลฯ
          ในส่วนนี้ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดตามจุดต่าง ๆ ข้างบน การเช็ดก็เพื่อจะตรวจดูรอยรั่วของส่วนประกอบด้านบนว่ามีน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นไหลซึมออกมาหรือไม่   ควรตรวจให้ละเอียดอย่างช้า ๆ เพราะ         เครื่องยนต์เป็นตัวจักรขับเคลื่อนต้องทำงานหนักที่สุดจึงควรสังเกตให้ดี เครื่องยนต์ที่ดีไม่ควรจะมีน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา ถ้ามีควรตรวจดูว่าเป็นส่วนไหนของเครื่องยนต์เป็นส่วนสำคัญหรือไม่ และรั่วมาจากสาเหตุใด เพราะแตกร้าว หรือประกันไม่ดีเพื่อจะได้คิดราคาค่าซ่อมได้ถูกต้อง
ส่วนที่ต้องตรวจต่อมาคือ ตรวจระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ อย่างเช่น หม้อน้ำ ตรวจดูรอยรั่วต่าง ๆ ข้อต่อที่มีปลอกเหล็กรัดดูว่ามีน้ำรั่วซึมหรือไม่ จุดที่ต้องตรวจดูก็คือ หม้อน้ำหรือรังผึ้ง,ท่อยางต่อเข้าเครื่องยนต์เพื่อถ่ายเทน้ำ,ท่อยางด้านล่างที่ต่อเข้าตัวปั๊ม มีพัดลมหมุนได้ด้วยสายพานจะต้องมีความตึงพอดี ไม่อย่างนั้นแล้วจะระบายความร้อนได้ไม่ดี
          ส่วนต่าง ๆ ที่บอกมาทั้งหมดนี้เป็นการตรวจเช็คสภาพรถยนต์โดยรวมและต้องตรวจตราอย่างถ้วนถี่โดยละเอียด ถ้าให้ดีควรให้ช่างมาตรวจสอบให้จะดีกว่าเพื่อความแน่นอน
การทดลองขับ
          เมื่อตรวจสอบในเรื่องของภายในและภายนอกของรถยนต์ทุกส่วนแล้วคราวนี้ก็คงต้องมาถึงการทดลองขับดูเพื่อเป็นการลองกำลังของเครื่องยนต์และการทำงานของระบบช่วงล่างว่าสามารถทำงานได้ดีมากน้อยแค่ไหน การทดลองขับนั้นจะทำให้ทราบถึงระบบชิ้นส่วนของรถยนต์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบจุดระเบิดว่าสามารถใช้งานได้ดีหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ท่านต้องมีความชำนาญในการขับรถยนต์มาก่อน สิ่งที่สังเกตในการทดลองขับรถคือ
-  ระบบกันสะเทือนใช้ได้ดีหรือไม่ การทำงานอยู่ในสภาพใดเมื่อตกหลุมหรือเลี้ยวมีอาการผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีการสะเทือนมากแสดงว่าช็อคอัพหรือแหนบไม่ดี
- ลองเบรกห้ามล้อดูว่าใช้งานได้ดีหรือไม่ ระยะทำการเบรกกับการเหยียบเบรกมีความสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด ถ้าเหยียบเบรกจมหายต้องย้ำหลาย ๆ ครั้งแสดงว่าเบรกมีปัญหาต้องตรวจเช็คเบรก
- ระบบส่งกำลังยังให้แรงดีหรือขัดข้องประการใด เมื่อขณะเร่งให้สังเกตว่าเครื่องยนต์ส่งกำลังมีความแรงขนาดไหน ทันอกทันใจหรือไม่การเข้าเกียร์ยากหรือเปล่า
- พวงมาลัยหนักเบาแค่ไหน สาเหตุอาจจะมาจากยางแบน แต่ถ้ายางไม่แบนก็อาจจะมาจากการเสียหายของชิ้นส่วนภายใน อันนี้ต้องตรวจเช็คให้ละเอียด
          ถ้าท่านเป็นผู้ชำนาญในการขับขี่จะสามารถสังเกตการผิดปกติของรถยนต์ได้ง่ายด้วยความรู้สึกของท่าน แต่ถ้าท่านไม่เป็นผู้ชำนาญควรให้ผู้ที่มีความรู้เป็นผู้ช่วยขับแทน
ในการซื้อรถยนต์ใช้แล้ว (มือสอง) สักคันหนึ่ง จะกลายเป็นการเพิ่มภาระหรือลดภาระของท่านนั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นโดยที่ท่านเป็นผู้ตัดสินใจเลือกอีกครั้ง ท่านควรจะเลือกอย่างใจเย็นไม่ควรใจร้อน ให้ถือคติช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม เพราะถ้าขาดความรอบคอบแล้วท่านอาจจะได้รถที่ไม่ดี เมื่อเลือกซื้อรถยนต์ได้แล้วก็อย่าลืมดูแลรักษาให้ดีมีสภาพพร้อมใช้งานเนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้รถของท่านใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและยาวนานตามอายุการใช้งาน

ที่มา: http://www.asnbroker.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น