วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรื่องน่ารู้สำหรับคนชอบ แต่งรถ !!:ASN Broker ประกันภัยรถยนต์



เรื่องน่ารู้สำหรับคนชอบ แต่งรถ !!:ASN Broker ประกันภัยรถยนต์

 
ในปัจจุบันอุตสหกรรมยานยนต์ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตอบ สนองบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทุกเพศทุกวัยไม่เว้นเเม้เเต่วัยรุ่น หรือ วัยโจ๋อย่างพวกเรา เเละสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์เลยก็คือ อุปกรณ์ตกเเต่งรถยนต์ครับ  รถยนต์ที่ออกจากโรงงานไม่อาจจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเสมอไป จริงมั้ยครับ  จำเป็นต้องมีการปรับเเต่ง หรือตกเเต่งบางสิ่งบางอย่าง เช่น เปลี่ยนใส่ล้อเเม็กที่มีรวดลายสวยถูกใจ , ทำเครื่องเสียง , ใสสเกิ๊ตรอบคัน , ติดสปอย์เลอร์ที่ด้านหลัง หรืออาจจะทำเพื่อเพิ่มความสวยงามของรถยนต์ก็ดี  หรือ ปรับเเต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถก็ดี เเต่จะมีสักกี่คนล่ะครับ ที่จะรู้ว่าอุปกรณ์ที่เราซื้อมาด้วยเงินจำนวนไม่น้อย เพื่อที่จะมาติดตั้งในรถยนต์ของเรานั้น จะทำให้สมรรถนะดีขึ้นมากเเค่ไหน ใส่เเล้วดีจริงหรือเปล่า รถเเรงขึ้นมั้ย เรื่องของการปรับเเต่งรถยนต์นั้น ถ้าจะศึกษาให้รู้จริงเเท้นั้นค่อนข้างจะละเอียดอ่อนมากครับ ช่างตามอู่บางคนยังไม่มีความรู้ที่ดีพอก็สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้กับ รถยนต์ของเราได้ทั้งนั้น ในการปรับเเต่งรถยนต์นั้นต้องสามารถให้เหตุผลได้ว่า " อะไรที่ติดตั้งไปกับรถเราเเล้วทำให้รถมีสมรรถนะดีขึ้น เเละดีขึ้นเพราะอะไร
          วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเรารู้จัก คุ้นเคยกันอย่างดีครับในบรรดาวัยโจ๋เเต่งรถทั้งหลาย นั่นก็คือ สเกิ๊ต เเละสปอย์เลอร์ ครับ มีใครไม่รู้จักมั้ยครับ อุปกรณ์ชนิดนี้เเละมีใครพอจะรู้บ้างมั้ยครับ ว่าเค้ามีไว้เพื่ออะไรครับ มันทำหน้าที่อะไร เเล้วทำไมเราต้องเอามันมาติดที่รถยนต์ของเราด้วย บางคนอาจจะคิดว่าติดไว้เท่ๆ เท่านั้นเอง ผมคิดว่าก็มีทั้งคนที่รู้เเละไม่รู้ใช่มั้ยครับงั้นวันนี้เราจะได้รู้กัน ครับ ขอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจในเรื่องของ  อากาศพลศาสตร์ของยานยนต์ ครับ

          อากาศพลศาสตร์ของ ยานยนต์   (Vehicle Aerodynamics) เป็นเรื่องที่ว่าด้วย การเคลื่อนไหวของอากาศผ่านรถยนต์ของเราครับ มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เราต้องพิจารณาเรื่องของ การเคลื่อนที่ของอากาศผ่านรถยนต์

          ในเวลาที่เราขับรถยนต์นะครับ รถยนต์ของเราจะเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วที่เราควบคุมในขณะที่รถยนต์ของเรา เคลื่อนที่นั้น จะมีอากาศที่ไหลผ่านมาปะทะที่รถยนต์ของเราครับ  เนื่องจากอากาศที่ไหลผ่านหลังคารถยนต์มีความเร็วสูงกว่าอากาศที่ไหลผ่านใต้ ท้องรถยนต์ครับ   ดังนั้นอากาศเหนือหลังคารถจึงมีความดันต่ำกว่าอากาศใต้ท้องรถ ครับ  ความเเตกต่างของความดันนี้ทำให้เกิด เเรงยก  (Lift) เเละการหมุนวนของอากาศขึ้น (Vortex) ครับ การหมุนวนของอากาศที่เกิดขึ้นที่ส่วนท้ายของรถยนต์ จะเกิดเป็น 2 บริเวณ ทั้งด้านซ้ายเเละด้านขวาของรถยนต์ครับ เเละ  อากาศที่หมุนวนนี้เองที่ทำให้เกิดเเรงต้านการเคลื่อนที่ของรถยนต์ของเราครับ พูดง่ายๆก็คือ มันจะทำให้รถยนต์ของเราวิ่งได้ช้าลงไงครับ คือไม่สามารถทำความเร็วได้เต็มที่ ครับ

           พอจะเห็นภาพบ้างมั้ยครับ  คราวนี้เราลองมาทำความเข้าใจกับคำว่า  เเรงต้าน , เเรงยก  เเละ เเรงกด กันครับ  ในขณะที่รถยนต์ของเรากำลังวิ่งอยู่บนถนน หรือกำลังเเข่งกันอยู่ ก็ได้นะครับ รถยนต์ของเราจะถูกกระทำด้วยเเรงต้าน เเละ เเรงยก ของอากาศครับ ( เเรงต้าน หมายถึง เเรงที่พยายามต้านการเคลื่อนที่ของรถยนต์ ครับ เเละ เเรงยกหมายถึง เเรงที่พยายามที่จะยก หรือดันให้รถยนต์ของเราลอยตัวขึ้นครับ )  เเรงต้านมากนอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เเล้ว ยังทำให้สามารถกลายเป็นผู้เเพ้ในสนามเเข่งได้อีกด้วย ในส่วนของเเรงยกของอากาศนั้น ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเท่าไหร่ครับ ก็จะมีผลทำให้ การยึดเกาะถนนของยางลดลง ทำให้รถยนต์ของเราทรงตัวไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะเลี้ยวโค้งด้วยอัตราเร็วสูง รถยนต์ของเราอาจจะลื่นไถลเเละเสียหลักได้ครับ
           ดังนั้นรถยนต์ที่ต้องการความเร็วสูง เช่นรถเเข่ง จำเป็นต้องเพิ่มเเรงกด ให้กับรถยนต์ เพื่อให้สามารถเลี้ยวโค้งที่อัตราเร็วสูงได้อย่างมั่นคงครับ
การเพิ่มเเรงกดก็สามารถทำได้ไม่ยากครับเเละวิธีนี้ก็สามารถเพิ่มเเรงกดได้ ถึง 3 เท่า ของน้ำหนักรถยนต์ที่อัตราเร็ว  270 km/h เเรงกดที่เกิดขึ้นก็มาจากการติดตั้ง สปอย์เลอร์ ที่ด้านหลังของรถยนต์นั่นเองครับ  เเต่อย่างไรก็ตามเเรงต้านก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ เเละ การปรับเเต่งใต้ท้องรถยนต์ให้เกิดความดันต่ำขึ้นที่บริเวณพื้นที่สองด้านของ คนขับ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นครับ ขอบด้านข้างของตัวรถยนต์ก็ต้องติดตั้ง  Flexible Skirt  หรือที่เราเรียกโดยทั่วๆไปว่า =" สเกิ๊ต นั่นเองครับ ใส่ไปก็เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศจากด้านข้างไหลเข้าไปรบกวนการไหลของอากาศ ส่วนใต้ท้องรถครับ
เพื่อทำความเข้าใจถึงวิธีการลดเเรงต้านของอากาศ ก่อนอื่นนะครับ จะต้องศึกษากลไกที่ทำให้เกิดเเรงต้าน ซึ่งนำไปสู่เเรงต้านรวมทั้งหมดครับ เเละเมื่ออากาศไหลผ่านผิวหน้าใดก็ตามด้วยอัตราเร็วคงที่ เเรงต้านอากาศที่เกิดขึ้นประกอบด้วยเเรง 2 ส่วนครับ คือ

                1 ) เเรงต้านทีผิวสัมผัส มีสาเหตุมาจากความเสียดทานที่ผิวสัมผัสระหว่างอากาศกับพื้นผิวที่อากาศ สัมผัส

                2 ) เเรงต้านความดัน มีสาเหตุมาจาก ความเเตกต่างของความดันที่กระจายบนพื้นผิวที่อากาศสัมผัส ครับ
ที่นี้เราลองมาดูปัจจัยที่มีส่วนทำให้เเรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นนะครับว่ามี อะไรบ้าง
               1 ) ล้อ ห้องเกียร์ เเละระบบกันสะเทือนซึ่งอยู่ใต้ท้องรถยนต์

               2 ) การไหลของอากาศผ่านรถยนต์

               3 ) ผิวหน้าที่ไม่ราบเรียบของรถยนต์ เช่น ขอบคิ้วต่างๆ ของประตู เเละ กระจกข้าง กระจกหน้าต่างของรถยนต์ เเละ อุปกรณ์เสริมต่างๆที่ติดตั้งที่ตัวถังรถยนต์

               4 ) การเปิดกระจกหน้าต่างรถยนต์ในขณะขับขี่จะทำให้สูญเสียโมเมนตัมการไหลของ อากาศทำให้เกิดเเรงต้านเพิ่มขึ้นครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับความรู้เรื่อง ของการใส่ สเกิ๊ตเเละสปอย์เลอร์ การที่เราจะติดตั้ง สเกิ๊ตเเละสปอย์เลอร์ นั้น ถ้านอกเหนือจากการติดตั้งเพื่อความสวยงามของตัวรถเเล้ว ถ้าเราต้องการสมรรถนะเเละประสิทธิภาพของรถยนต์เเล้ว จำเป็นอย่างยิ่งครับ ที่จะต้องมีความรู้เรื่องดังกล่าวจึงจะสามารถปรับเเต่งรถยนต์ของเราได้อย่าง ถูกต้องเเละตามความเหมาะสมครับ

           รถยนต์ที่ได้รับการปรับเเต่งมาเเบบผิดๆ นอกจากเจ้าของรถจะถูกหลอกเเล้วก็ยังมีความเชื่อเเบบผิดๆ ตามไปด้วย เเละผลที่ตามมาก็คือ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับรถยนต์ของเราเเล้ว ยังเป็นการเพิ่มเเรงต้านของอากาศอีกด้วย ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช้เหตุ ครับ เพราะว่ารูปทรงของรถยนต์เเต่ละรุ่นเเต่ละยี่ห้อนั่นต่างกันครับ  เเรงต้านอากาศที่กระทำกับรถยนต์เเต่ละรุ่นเเต่ละยี่ห้อนั่นก็ต่างกันครับ เพราะฉะนั้นการติดตั้ง สปอย์เลอร์ ต้องดูให้เหมาะกับรูปทรงของรถยนต์เเต่ละรุ่นด้วยครับ เเละ สปอย์เลอร์จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีเเรงกดของอากาศจากด้านท้าย รถยนต์ที่เพียงพอ เเละการที่จะได้มาด้วยเเรงกดอันมหาศาลนั้นก็ต้องมีปัจจัยอย่างนึงมาเกี่ยว ข้องครับนั่นก็คือ  ความเร็วของรถยนต์ ครับ  ถ้าเราขับรถยนต์ไม่ได้ความเร็วที่เหมาะสมเเล้ว สปอย์เลอร์ก็จะไม่ทำหน้าที่อะไรเลย นอกจากติดไว้เท่ๆเท่านั่น เพราะเเรงกดอากาศไม่เพียงพอ ความเร็วที่มากพอที่จะทำให้สปอย์เลอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นผมคง ไม่สามารถบอกได้ เพราะสปอยเลอร์เเต่ละเเบบไม่เหมือนกัน รูปทรงรถยนต์เเต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน เเต่คิดว่าคงต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 150 km/h สปอย์เลอร์ถึงจะเริ่มทำงานเเละสร้างเเรงกดให้กับรถยนต์ของเราได้ครับ
          สรุปได้ว่า การปรับเเต่งรถยนต์เราก็ต้องดูตามความเหมาะสม เเละตามการใช้งานของตัวเราด้วยครับ เพราะจะทำให้เราสบายใจ เเละสบายกระเป๋า ไม่ต้องโดนหลอกให้เสียกะตัง บ่อยๆ การเเต่งรถเราควรระลึกไว้เสมอว่า  อะไรที่ติดตั้งไปกับรถยนต์ของเราเเล้วทำให้รถมีสมรรถนะที่ดีขึ้น เเละดีขึ้นเพราะอะไร มีความพอเพียงเเละมีเหตุผลอยู่เสมอเท่านี้เราก็สามารถเเต่งรถได้อย่างสบายใจ เเล้วครับ
 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
 
ขอบคุณที่มา:http://auto.sanook.com/
เรียบเรียงข้อมูลโดย Asn Broker
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Asn Broker Blog ,Asn Broker Blogspot , Asn Broker Exteen , Asn Broker Wikidot , Asn Broker on Wordpress , Asn Broker Journal Blog
 
 
ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ Asn Broker?Campaign
 
ประกันภัยรถยนต์,ประกันรถยนต์,ประกันชั้น1,โบรกเกอร์,ประกันชั้น2,ประกันชั้น2พลัส,ประกันชั้น3,ประกันชั้น3พลัส,ต่อประกันรถยนต์,broker,ประกันรถเก๋ง,ประกันรถกระบะ,ประกันรถยนต์ชั้น1,ชั้น2พลัส,3พลัส,บริษัทประกันภัยรถยนต์,ประกันรถกะบะ,พรบ.รถยนต์
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น